“วัชระ” ร้องนายกฯ รื้อคดีปล้นบ้านอดีตปลัดคมนาคม โยงเรื่องส่อทุจริตก่อสร้างรถไฟสายสีแดงนับพันล.
วันที่ 7 เม.ย.64 เวลา 11.10 น. ที่ศูนย์รับเรื่องร้องทุกข์ ทำเนียบรัฐบาล : นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.ประชาธิปัตย์ พร้อม นายทราย จันทร์สม ประธานคัดค้านการทุบสะพานข้ามถนนภาณุรังษี เชื่อมบางพลัค กทม.-บางกรวย นนทบุรี ยื่นหนังสือผ่าน นายพันศักดิ์ เจริญ ผู้อำนวยการประสานงานมวลชน สำนักปลัดสำนักนายกรัฐมนตรีถึงพลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี ขอให้รื้อฟื้นคดีปล้นทรัพย์บ้าน นายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม และขอให้ตั้งคณะกรรมการสอบสวนการทุจริตรถไฟฟ้าสายสีแดงบางซื่อ-ตลิ่งชัน รวมทั้งขอให้การรถไฟฯ สร้างสะพานลอยกลับรถจุดตัดถนนภาณุรังษีและจุดตัดถนนชัยพฤกษ์
นายวัชระฯ กล่าวว่า “ได้รับการร้องเรียนจากนายทรายฯ ว่า การรถไฟแห่งประเทศไทย ได้ขอมติคณะรัฐมนตรีในการประชุมวันที่ 22 พฤษภาคม 2550 ก่อสร้างรถไฟสายสีแดง ช่วงบางชื่อ-ตลิ่งชัน ระยะทาง 15 กม. วงเงิน 13,133 ล้านบาท มี 3 สถานี คือ สถานีบางซ่อน, สถานีบางบำหรุ และ สถานีตลิ่งชัน โดยจุดตัดถนนข้ามทางรถไฟเข้าหมู่บ้านภาณุรังษี ต.บางกรวย ให้สร้างสะพานลอยกลับรถ ( U-Turn Bridge) แทนสะพานทางตรงเดิม การรถไฟรับเงิน 17,850,000 บาท จากการไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย (กฟผ.) เพิ่มสถานีบางกรวย-กฟผ. จำเป็นต้องปิดถนนสะพานเข้าหมู่บ้านภาณุรังษี สี่แยกวัดสำโรง ถนนบาง กรวย-ไทรน้อย ซึ่งในการก่อสร้างเป็นที่น่าสังเกตคือ ค่าที่ปรึกษาคุมงานก่อสร้างสูงถึง 214 ล้านบาท,ค่ารื้อย้ายสิ่งกีดขวางและระบบสาธารณูปโภค 1,758 ล้านบาทและค่าถนนเลียบทางรถไฟ 21.76 กม.ค่าก่อสร้าง 2,074 ล้านบาท หรือประมาณกม.ละ 100 ล้านบาท”
“ซึ่งในวันนี้ถนนกว้าง 7 เมตร เสียหายไปมากแล้ว ที่สำคัญคือไม่มีไหล่ทางหรือทางเท้าตามสัญญาจ้าง ทำให้ประชาชนไม่ได้รับความปลอดภัยในการสัญจรเดินเท้า ซึ่งนายทรายฯ ได้คัดค้านเพราะการรถไฟฯ ไม่ได้สร้างสะพานกลับรถทดแทนสะพานทางตรงเดิม ตามรายงาน EIA และสัญญาจ้างนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม ปลัดกระทรวงคมนาคม ขณะนั้นให้มาช่วยตรวจสอบและตั้งคณะกรรมการตรวจสอบเพื่อหาคนรับผิดชอบโดยนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคมเป็นประธาน ซึ่งการก่อสร้างได้มีการทำผิดแบบ ซึ่งต่อมาจึงเกิดกรณีปล้นทรัพย์ 874 ล้านบาท ที่บ้านของนายสุพจน์ฯ”
อนึ่ง ขั้นตอนการประมูลประกวดราคาหาผู้รับจ้าง โครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงมีผู้ร่วมประมูล 2 กลุ่มคือ กลุ่มยูนิค-ชุนโว และกลุ่ม STCC แต่คณะกรรมการประมูลตัดสิทธิ์กลุ่ม STCC เพราะคุณสมบัติไม่ถูกต้อง จึงมีกลุ่ม ยูนิค-ซุนโว ได้เข้าประมูลกลุ่มเดียว ต่อมาศาลปกครองสูงสุด มีคำพิพากษาว่าคณะกรรมการประมูล ประกวดราคา ตัดสิทธิ์โดยมิชอบ โครงการรถไฟสายสีแดง บางชื่อ-รังสิต, บางชื่อ-ตลิ่งชัน เป็นโครงการเดียวกัน ช่วงบางชื่อ-รังสิต วงเงิน 52,220 ล้านบาท, บางชื่อ-ตลิ่งชัน วงเงิน 13,113 ล้านบาท วันนี้งบประมาณเพิ่มเป็นเท่าตัว 50% เป็น 100,000 ล้านบาท ใช้เวลา 10 ปี ยังสร้างไม่เสร็จ ส่อว่ามีการทุจริตคอรัปชั่นอย่างมหาศาล จึงขอให้นายกรัฐมนตรีสั่งการให้รัฐมนตรีว่ากระทรวงคมนาคมตั้งคณะกรรมการตรวจสอบการทุจริตโครงการรถไฟฟ้าสายสีแดงโดยด่วนที่สุด
ให้การรถไฟแห่งประเทศไทย สร้างสะพานลอยกลับรถ (U-turn Bridge) จุดตัดถนนภาณุ รังษี และ จุดตัดถนนชัยพฤกษ์ โรงเรียนทีปังกรวิทยาพัฒน์-วัดน้อยใน ในพระราชูปถัมภ์ฯ เพื่อแก้ไขปัญหาการเดินทางของชาวบ้านในพื้นที่รวมถึงประชาชนทั่วไป และสั่งการให้รื้อฟื้น คดีปลันทรัพย์ 874 ล้านบาท ที่บ้านนายสุพจน์ ทรัพย์ล้อม อดีตปลัดกระทรวงคมนาคม ซึ่งไม่ใช่เป็นการปล้นทรัพย์ธรรมดาทั่วไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน