เมื่อเวลา 17.00 น. วันที่ 26 เม.ย.64 พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส.สภ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี พร้อมกำลังสืบสวนสภ.บางบัวทอว สืบสวนจังหวัดนนทบุรี ร่วมกันจับกุมตัวนายสุพัฒน์ สิงห์อยู่ อายุ 35 ปี อยู่บ้านเลขที่ 21 หมู่7 ต.คลองขวาง อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 158/64 ข้อหา ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดย ไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม และนายนิรุทธิ์ ยังเขียวสด อายุ 28 ปี อยู่บ้านเลขที่ 113 ซอยเรวดี 53 ต.ตลาดขวัญ อ.เมืองนนทบุรี ผู้ต้องหาตามหมาจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่ 159/64 ร่วมกันลักทรัพย์ในเคหสถาน ในเวลากลางคืน โดยเข้าทางช่องทางซึ่งได้ทำขึ้นโดย ไม่ได้จำนงให้เป็นทางคนเข้า โดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้นสำหรับคุ้มครองบุคคลหรือทรัพย์ โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิด เพื่อพาทรัพย์หลบหนี หรือเพื่อให้พ้นจากการจับกุม สามารถจับกุมตัวได้ที่บ้านเลขที่ 5/7 หมู่7 ซอยเเก้วล้วน ต.ทวีวัฒนา อ.ไทรน้อย จ.นนทบุรี พร้อมของกลาง โทรทัศน์ 1 เครื่อง สุราต่างประเทศ 9 ขวด พระเครื่องจำนวนหนึ่ง
พ.ต.ท.สมชาย ขำสัจจา รอง ผกก.สส.กล่าวว่า เกิดเหตุคนร้ายเข้าไปลักทรัพย์บ้านเลขที่ 33/1351 หมู่บ้าน พฤกษา 3 หมู่ 8 ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ครั้งแรกวันที่ 23 เม.ย.64 เวลาประมาณ 02.00 น.ครั้งที่ 2 วันที่ 26 เม.ย.เวลาประมาณ 05.00 น. ได้ทรัพย์สินไปมูลค่ากว่า 5 หมื่นบาท หลังเกิดเหตุตำรวจสืบสวนได้ตรวจสอบกล้องวงจรปิดบันทึกภาพคนร้ายเป็นชาย 2 คน ขับขี่รถ จยย.ยามาฮ่า มีโอ สีขาวดำ ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน โดย 1 ในคนร้ายได้ปีนขึ้นบนหลังคาบ้าน ส่วนอีกคนนั่งรออยู่ที่รถ จยย. เพื่อดูต้นทาง ก่อนที่คนร้ายที่ปีนเข้าบ้านได้โยนทรัพย์สินส่งให้ จากนั้นคนร้ายได้กระโดดลงมาจากระเบียงชั้น 2 ขับรถหลบหนีไป
นายธีรวัฒน์ จันทรานุสรณ์ อายุ 26 ปี ผู้เสียหาย กล่าวว่า ตนพักอยู่ที่บ้าน แต่เนื่องจากพ่อป่วย จึงไปอยู่บ้านลูกเพื่อสะดวกเวลาไปเยี่ยมพ่อ คนร้ายได้ก่อเหตุ 2 ครั้ง ครั้งแรกได้ทรัพย์สินไปมีเงินเหรียญจำนวน 10,000 บาท พระเครื่อง มูลค่ากว่า 30,000 บาท ครั้งที่2 ได้สุราต่างประเทศ โทรทัศน์มูลค่าประมาณ 13,000 บาท พระหลวงปู่หลิว ซึ่งพอทราบว่าเจ้าหน้าที่จับตัวคนร้ายได้ ตนรู้สึกดีใจมากที่ตำรวจทำงานได้รวดเร็วและนำของกลางกลับมาคืนได้ แต่ยังขาดนาฬิกาข้อมืออีก 1 เรือน เซิร์ฟเวอร์ที่เก็บข้อมูลของกล้องวงจรปิดที่ยังไม่ได้คืน
สอบสวนนายนิรุทธิ์ ผู้ต้องหา ให้การรับสารภาพว่า ก่อนหน้านี้เคยทำงานเป็น รปภ.อยู่ที่บริษัทแห่งหนึ่ง ขณะทำงานได้หลับทำให้ถูกไล่ออก ได้ชักชวนนายสุพัฒน์ น้องเขย ก่อเหตุลักทรัพย์ พอมาถึงบ้านเกิดเหตุเห็นว่าปิดไฟคาดไม่มีคนอยู่ จึงปีนเข้าทางหลังคาไปลักทรัพย์สินแล้วหลบหนีไป จนถูกตำรวจตามมาจับกุมตัวได้
สาโรจน์ สว่างศรี / ผู้สื่อข่าวจังหวัดนนทบุรี