มุกดาหาร #ที่ปรึกษาผู้ตรวจฯ จ่อรายงานสำนักนายก แจ้งเหตุลักลอบดูดทรายต่อผู้ว่ามุกดาหารแต่เงียบเป็นเป่าสาก
เมื่อวันที่ 1 พฤษภาคม นายพรรณา ราชิวงค์ ที่ปรึกษาผู้ตรวจราชการภาคประชาชน ด้านสิ่งแวดล้อม จังหวัดมุกดาหาร เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 27 เมษายน 2564 ตนได้ส่งหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหาร เรื่อง ขอทราบผลของการดำเนินการโดยได้แนบรูปภาพเรือแพขนานยนต์ดูดหินดูดทรายนอกเขตที่ได้รับอนุญาต จำนวน 6 แผ่น แนบท้ายหนังสือด้วย สืบเนื่องจากก่อนหน้านี้ตนได้ส่งหนังสือร้องเรียนมาแล้ว 2 ฉบับ คือฉบับที่ 1 เลขที่ 01/2564 ลงวันที่ 5 เมษายน 2564, ฉบับที่ 2 เลขที่ 02/2564 ลงวันที่ 12 มษายน 2564 เรื่องตรวจสอบและดำเนินการตามกฎหมาย พร้อมเอกสารหลักฐานเป็นรูปภาพการกระทำความผิดของเรือดูดหินดูดทราย จำนวน 5 แผ่น พร้อมนำเรียนรายละเอียดการกระทำของเรือดูดหินดูดทราย ให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดมุกดาหารได้ทราบแล้วนั้น
ตั้งแต่วันนั้นจนถึงวันที่เหตุการยังไม่มีการเปลี่ยนแปลงเรือเรือดูดหินดูดทราย ยังดำเนินการดูดหินดูดทราย อยู่ทุกวัน และหนักขึ้นกว่าเดิม ทำการดูดหินดูดทรายใกล้ตลิ่งและขยายระยะทางและวงกว้างมากยิ่งขึ้น ถ้าปล่อยไปในลักษณะนี้อีกต่อไปจะสร้างความเดือดร้อนสร้างความเสียหายต่อระบบนิเวศน์ในแม่น้ำโขงบริเวณแหล่งประมงชาวบ้านหาเลี้ยงชีพตั้งแต่บรรพบุรุษหลายชั่วอายุคนในเขตพื้นที่บ้านท่าไคร้-นาแล หมู่ที่ 6-7 จึงขอความกรุณาท่านผู้ว่าราชการช่วยยับยั่งเรือดูดหินดูดทราย เป็นของบริษัทไหนใครเป็นเจ้าของคงไม่เป็นที่ลำบากที่จะทราบเพราะมีเจ้าเดียวที่มีท่าหินทรายซึ่งอยู่ในเขตพื้นที่ของหมู่ที่ 1 ของตำบลนาสีนวนและเป็นผู้ที่กว้างขวาง ในการดูดหินดูดทรายนอกเขตนี้
“ผมซึ่งเป็นผู้แจ้งเบาะแสการกระทำของผู้ประกอบการดูดหินดูดทรายรายนี้ จึงขอทราบผลการดำเนินงาน ว่าท่านผู้ว่าราชการจังหวัดได้ดำเนินการอย่างไรบ้าง ซึ่งมีผลช่วยทำให้พื้นที่ดังกล่าวเป็นพื้นที่อนุรักษ์ เป็นพื้นที่ต้นแบบที่ปลอดจากการดูดหินกรวดทรายเพื่อรักษาระบบนิเวศน์ สิ่งแวดล้อม เพิ่มแหล่งอาหาร ที่อยู่อาศัยของปลา ซึ่งจะส่งผลให้ปริมาณปลา พันธุ์ปลา เพิ่มมากขึ้น ในแม่น้ำโขงบริเวณเขตนี้เป็นเขตอนุรักษ์วังปลาด้วยโดย สำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติและเครือข่าย 8 จังหวัดลุ่มน้ำโขง ร่วมด้วยชาวบ้านได้กำหนดเขตนี้ขึ้น ชาวบ้านที่อาศัยริมฝั่งโขงซึ่งมีรายได้จากการหาปลาก็จะมีรายได้มากขึ้น มีความเป็นอยู่ มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น
ในส่วนของผมก็จะรายงานสถานการณ์นี้ให้กับสำนักตรวจราชการ สำนักงานปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี และสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ ได้รับทราบ ซึ่งเป็นนโยบายของรัฐบาลที่ให้เฝ้าระวังเรื่องผลกระทบต่อระบบนิเวศน์สิ่งแวดล้อมในแม่น้ำโขงโดยเฉพาะในเขตพื้นที่ประมงของชาวบ้านอีกทางด้วย” นายพรรณากล่าว
ภาพ/ข่าว ชุด ฉก.พญาอินทรีย์/เดวิท โชคชัย จ.มุกดาหาร รายงาน 092-5259-777