“บริษัท เวิร์ล” ขอชี้แจงต่อสื่อมวลชน เหตุถูกคู่กรณีกล่าวหาสั่งสินค้ากับทางบริษัทฯและไม่ได้รับสินค้า ยืนยันไม่เป็นความจริง!!
เนื่องด้วย เมื่อวันที่ 15 พ.ค.2564 ได้มีบริษัท ประยูร จำกัด เข้าร้องเรียนสื่อมวลชน กรณีกล่าวหาว่าสั่งสินค้ากับทางบริษัทฯและไม่ได้รับสินค้า ทางบริษัทฯขอเรียนชี้แจงและแนบเอกสารหลักฐานมาประกอบพร้อมยืนยันว่าบริษัทฯไม่ได้มีการชื้อขายกับบริษัทฯดังกล่าวแต่อย่างใด บริษัทฯผลิตและส่งออกถุงมือทางการแพทย์ และได้มีการรับออเดอร์สินค้าส่งออกไปอิสราเอล จากบริษัท bal เมื่อเดือนมีนาคมที่ผ่านมา และใช้เวลาในการจัดทำสินค้าเป็นเวลา 20-30 วัน และแจ้งให้ลูกค้าเข้าตรวจสอบสินค้าโดยบริษัทฯคนกลาง และตรวจสอบผ่านมาตรฐานเรียบร้อยครบตามจำนวน ในเวลาต่อมาบริษัทฯได้ออกหนังสือแจ้งให้ชำระเงินและรับสินค้า แต่บริษัท bal บ่ายเบี่ยงตลอดมา..จนครั้งสุดท้ายตัวแทนบริษัท bal ได้ประสานไปที่ที่ปรึกษาบริษัทฯเพื่อให้มาเป็นคนกลางและพยานในการส่งมอบสินค้า แต่ในวันดังกล่าว ตัวแทนแจ้งว่าจะออกไปเบิกเงินและรับตู้คอนเทนเนอร์มารับสินค้า .. บริษัทฯรอจนถึง 2 ทุ่มก็ไม่มีวี่แววของตัวแทนบริษัทฯดังกล่าว จึงได้มีการถ่ายรูปไว้เป็นหลักฐาน .. จนเวลาล่วงเลยไปเกือบสิบวัน เมื่อพ้นกำหนดระยะเวลาบริษัท bal ต้องชำระเงินค่าสินค้าและรับมอบสินค้าตามตกลงแล้ว..ไม่มีการชำระมาแต่อย่างใด..บริษัทติดต่อทวงถามตลอดตามหลักฐานแนบ และท้ายที่สุดบริษัทฯจึงจำเป็นต้องปล่อยสินค้าให้ลูกค้ารายอื่นต่อไป เพื่อนำเงินไปชำระเงินโรงงานผลิต และรับสินค้าล็อตใหม่เข้ามาบรรจุ..หลังจากนั้นราว 1 สัปดาห์ ตัวแทนบริษัท bal ได้มีการติดต่อมาขอชำระเงินเพื่อจองสินค้าชุดใหม่ พร้อมชำระเงิน เป็นแคชเชียร์เช็คจำนวน 5, 287,000 บาท แจ้งว่าขอจองสินค้าในรอบต่อไป และได้รับทราบดีว่าบริษัทฯได้ขายสินค้าหลุดจองไปเรียบร้อยแล้ว แต่ไม่มีการยึดเงินมัดจำ ลูกค้ารายนี้แต่อย่างใด และให้คิวใหม่ในการสั่งสินค้า บริษัทฯจึงนัดทำสัญญาใหม่อีกครั้ง แต่ยังไม่ทันได้ทำสัญญาใหม่ ก็เกิดเหตุดังกล่าว บริษัทฯขอยืนยันว่า บริษัทฯ ไม่รู้จักบริษัท ประยูร จำกัด หรือ ตัวแทนบริษัทฯคุ่กรณี บริษัทฯไม่มีสัญญาชื้อขายสินค้ากับบริษัทฯคู่กรณี การรับชำระเงิน บริษัทฯได้รับจากตัวแทนบริษัทฯคู่สัญญา และ ตัวแทนยังยืนว่า เป็นเงินสร้างความเชื่อมั่น ให้โรงงานว่า รอบนี้ตัวแทนมั่นใจสามารถรับสินค้าได้ตามเวลา..ขณะนี้ทีมกฏหมายบริษัทฯกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลหลักฐานฟ้องทั้งแพ่งและอาญากลุ่มบุคคลดังกล่าว..ในทุกข้อหาที่เกี่ยวข้อง เนื่องจากบริษัทฯไม่มีเจตนาทุจริต และต้องการให้มีการสืบพยานในชั่นศาลเพื่อพิสูจน์ว่า บริษัทฯถูกกล่าวหาด้วยข้อมูลอันเป็นเท็จ และทำให้บริษัทฯมีความเสียหายต่อธุรกิจเป็นอย่างมาก
บริษัทฯขอตอบประเด็น ที่ 1.บริษัท ประยูร แจ้งว่าพนักงานบริษัท เวิร์ล แจ้งว่า ตู้คอนเทนเนอร์ สกปรกและให้นำกลับไปนั้น …
บริษัทฯขอชี้แจงว่า ทางบริษัทฯขนส่งได้ส่งตู้คอนเทนเนอร์ควบคุมอุณหภูมิมารับสินค้า ซึ่งไม่ทราบว่าเป็นของบริษัทฯใด ซึ่งหากมีการโหลดสินค้า จะทำให้ถุงมือยาง ได้รับผลกระทบจากอุณหภูมิได้จึ้งแจ้งให้ผู้เกี่ยวข้องรับทราบ และ แนบรูปประกอบ
ประเด็นที่ 2 คือ จากการให้ข่าวของบริษัทฯคู่กรณีคือ ได้ทำสัญญากับบริษัท ซีเค ซึ่งไม่ใช่บริษัท เวิร์ล คอร์ปอเรชั่น (ประเทศไทย)
ประเด็นที่ 3.บริษัท ประยูร ได้ชำระเงินให้กับบริษัท ซีเค โดยบริษัท ซีเคอ้างว่านำมาชำระให้บริษัทเวิร์ล เพื่อออกสินค้า..ในขณะที่บริษัท ซีเค แจ้งกับ บริษัท เวิร์ล ว่าจองสินค้ารอบต่อไป
ประเด็นที่ 4.ทั้งสองบริษัทฯอ้าง ว่าเป็นเจ้าของกรรมสิทธิ์ ถุงมือที่เป็นของบริษัท bal ได้วางมัดจำ และ ไม่สามารถมารับสินค้าได้ตามกำหนด หรือ ชำระเงินได้ตามกำหนด..การชื้อขายจึงสิ้นสุดลง ข้อตกลงการชื้อขายของ บริษัท เวิร์ล..เงื่อนไขเป็นส่งออกเท่านั้น และไม่สามารถโยกย้ายถ่ายเทกรรมสิทธิ์สินค้าให้บุคคลที่สามได้..การไม่ชำระเงินหรือรับสินค้าตามกำหนด บริษัทฯสามารถยึดเงินมัดจำและจำหน่ายสินค้านั้นได้..การกล่าวอ้างของ บริษัทซีเค และ บริษัท ประยูร เป็นการชื้อขายกันเองโดยที่บริษัท เวิร์ล ไม่มีส่วนรู้เห็นในข้อตกลงหรือยินยอม
ประเด็นที่ 5.ผู้บริหารบริษัท ประยูร อ้างว่า มาขอตรวจสินค้าในบริษัท แต่บริษัทฯไม่ให้เข้าตรวจสอบ
บริษัทขอชี้แจงว่า..ปกติการตรวจสอบสินค้าของบริษัทฯจะเป็นบริษัทฯคนกลาง ที่ได้รับอนุมัติหรือมอบอำนาจจากบริษัทฯคู่ค้ามาเท่านั้น ไม่อนุญาตให้คนนอกเข้า..บริษัท ประยูร ไม่มีสัญญาชื้อขายกับบริษัท เวิร์ล
ประเด็นที่ 6.เอกสารขั้นตอนการส่งออกตามที่บริษัท ประยูรกล่าวอ้าง
บริษัทขอชี้แจงว่า..เนื่องจากบริษัทประยูร ไม่มีสัญญาชื้อขายกับบริษัท เวิร์ล จึงไม่สามารถรับเอกสารสำคัญในการส่งออกจากบริษัท เวิร์ล ได้ เป็นการอ้างสวมสิทธิ์ในสินค้า
ประเด็นที่ 7.บริษัทซีเคหรือตัวแทนของ bal ยืนยันกับบริษัท เวิร์ล ว่าสินค้าของบริษัท bal ไม่มีการเปลี่ยนมือหรือเปลี่ยนปลายทางการส่งออก เนื่องจากบริษัท ซีเค ทราบดีว่าบริษัท เวิร์ล ส่งออกเท่านั้น..จนมาทราบวันเกิดเหตุว่า บริษัทซีเคหรือตัวแทนบริษัท bal แอบขายสินค้าให้คนไทย!!
ซึ่งเหตุการณ์ดังกล่าวทำให้บริษัทเวิร์ลได้รับความเสียหายและเสื่อมเสียชื่อเสียงทำให้ลูกค้าขาดความเชื่อมั่น ดังนั้นทางบริษัทเวิร์ลได้เตรียมทีมกฏหมายบริษัทฯกำลังดำเนินการรวบรวมข้อมูลหลักฐานฟ้องทั้งแพ่งและอาญากลุ่มบุคคลดังกล่าวให้ถึงที่สุด!!