วันที่ 17 มิ.ย.64 เวลา 10.30 น. ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม. ซอยสวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม. พร้อมด้วย พล.ต.ต.สิทธิชัย โล่กันภัย รอง ผบช. สตม., พล.ต.ต.สุเมธ เมฆขจร ผบก.ตม.6, พ.ต.อ.สัญชัย โชคขยายกิจ, พ.ต.อ.ไพรัช พุกเจริญ, พ.ต.อ.ศุภชัชจ์ เปี่ยมมนัส, พ.ต.อ.ภาณุภาคยณ์ จิตต์ประยูรตี รอง ผบก.ตม.6 และ พ.ต.อ.สมชาย จิตสงบ ผกก.ตม.จ.ระนอง ร่วมแถลงข่าวผลการจับกุมคดีจับกุมขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางและนำพาคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักร
เจ้าหน้าที่ชุดสืบสวนปราบปราม ตม.จ.ระนอง ร่วมกับ จนท.ทหาร ชุด ร้อย ร.2521 (จุดตรวจศิลาสลัก จปร.) ตั้งจุดตรวจจุดสกัดกั้นตรวจพบ นายไวเมียวฯ อายุ 37 ปี สัญชาติเมียนมา ขับขี่รถยนต์กระบะทะเบียนชุมพร บรรทุก นายเนคาฯ อายุ 15 ปี สัญชาติเมียนมา และนายโจเซลาฯ อายุ 16 ปี สัญชาติเมียนมา จากการตรวจสอบพบว่าหนังสือเดินทางทั้ง 2 เล่ม ที่นำมาแสดงเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงจับกุมตัวและสืบสวนขยายผลการจับกุม ทราบว่าหนังสือเดินทางดังกล่าวได้รับมอบมาจาก นายอาวปายฯ อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา จึงได้เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านพัก นายอาวปายฯ ม.4 ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี จ.ระนอง พบหนังสือเดินทางปลอม เพิ่มอีกจำนวน 4 จึงจับกุมตัวนายอายปายฯ ข้อหา “มีหนังสือเดินทางปลอมไว้เพื่อจำหน่าย” และสืบสวนขยายผลการจับกุม เข้าปิดล้อมตรวจค้นบ้านใน ม.10 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง จับกุม นางเลเลข่ายฯ อายุ 36 ปี สัญชาติเมียนมา ข้อหา “รู้ว่าเป็นคนต่างด้าวเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย ให้เข้าพักอาศัย ซ่อนเร้นหรือช่วยเหลือให้คนต่างด้าวนั้นรอดพ้นการจับกุม” และได้สืบสวนขยายผลกระทั้งสามารถออกหมายจับและจับกุมตัว นายสมศักดิ์ ข้อหา “ทำหนังสือ เดินทางปลอม”
การสืบสวนขยายผลการจับกุมขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง โดยมีรายละเอียด ดังนี้ นายเนคาฯ และ นายโจเซลาฯ สัญชาติเมียนมา ต้องการเดินทางไปหาแม่ที่ จ.สุราษฎร์ธานี ได้ลักลอบเข้ามาในราชอาณาจักรโดยผิดกฎหมายทางช่องทางธรรมชาติ และไปเข้าพักอาศัย หลบซ่อนอยู่กับ นางเลเลข่ายฯ สัญชาติเมียนมา (น้าสาว) ที่บ้าน ม.10 ต.ปากจั่น อ.กระบุรี จ.ระนอง
จากนั้น นางเลเลข่ายฯ ติดต่อว่าจ้าง นางมะแง่หรือโชสุฯ นายหน้าชาวเมียน มา ให้ดำเนินการช่วยเหลือลักลอบนำพา ขนส่ง เคลื่อนย้ายไปยัง จ.สุราษฎร์ธานี ค่าจ้าง 11,000 บาท/คน, นางมะแง่หรือโชสุฯ จึงให้นางเลเลข่ายฯ ถ่ายรูป นายเนคาฯ และ นายโจเซลาฯ ส่งไปให้ทางเฟสบุ๊ก ชื่อ Tanon Non จากนั้น นางมะแง่หรือโชสุฯ ได้ส่งรูปภาพต่อไปให้นายอาวปายฯ, ซึ่งนายอาวปายฯ ได้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Just You ส่งรูปภาพ นายเนคาฯ, นายโจเซลาฯ และคนต่างด้าวอื่นๆ ไปให้นายสมศักดิ์ฯ ผู้ใช้เฟสบุ๊กชื่อ Ko Soe Soe เพื่อดำเนินการทำหนังสือเดินทางปลอม, นายสมศักดิ์ฯ ได้นำหนังสือเดินทางปลอม จำนวน 6 เล่ม มามอบให้กับนายไวเมียวฯ สัญชาติเมียนมาที่ กม.13 (บ้านจันทร์ทึง ต.วังใหม่ อ.เมือง จ.ชุมพร) เพื่อนำไปส่งต่อให้กับนายอาวปาย (ผู้ว่าจ้าง) ที่บ้าน ม.4 ต.จ.ป.ร. อ.กระบุรี จ.ระนอง
ต่อมาวันนายอาวปายฯ ได้ว่าจ้างให้นายไวเมียวฯ ให้นำพา ขนส่งนายเนคาฯ และนายโจเซลาฯ ไปส่งยังสถานี บขส.จ.ชุมพร โดยได้มอบหนังสือเดินทางปลอม จำนวน 2 เล่ม ให้นายไวเมียวฯ นำไปมอบให้ นายนายเนคาฯ และ นายโจเซลาฯ เก็บไว้กับตัวเพื่อใช้แสดงกับพนักงานเจ้าหน้าที่เมื่อถูกเรียกตรวจสอบระหว่างการเดินทาง และเมื่อเดินทางมาถึงที่เกิดเหตุ ก็ถูก จนท.ชุดจับกุม ตรวจสอบพบว่าเป็นหนังสือเดินทางปลอม จึงได้ทำการสืบสวนขยายผลจนสามารถจับกุมขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางครั้งนี้ทั้งขบวนการ
กลุ่มเครือข่าย ขบวนการปลอมแปลงหนังสือเดินทางของนายอาวปายฯ อายุ 30 ปี สัญชาติเมียนมา มีผู้ร่วมขบวนการเป็นบุคคลต่างด้าวสัญชาติเมียนมา ทุกคน โดยเข้ามาอยู่อาศัยและได้รับอนุญาตให้ทำงานเป็นกรณีพิเศษ ประเภทกรรมกร การเกษตรและปศุสัตว์ (ในพื้นที่ จ.ระนอง และ จ.ชุมพร) นายไวเมียวฯ ยังให้การยอมรับว่า หลังจากมีใบอนุญาตให้ขับขี่รถยนต์ ได้หันรับจ้างบริการนำพาคนต่างด้าวเดิน-ทางไปกลับ จ.ระนอง-จ.ชุมพร อยู่หลายครั้ง นอกเหนือจากการกรีดยางพารา ซึ่งที่ผ่านมาในการลักลอบนำพา ขนส่ง เคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ต้องอาศัยความชำนาญเส้นทาง รู้เส้นทางรอง เส้นทางหลบเลี่ยงด่านตรวจ จุดตรวจจุดสกัดกั้นของเจ้าหน้าที่บ้านเมืองเป็นอย่างดี แต่เนื่องจากเครือข่าย ขบวนการกลุ่มนี้เป็นบุคคลต่างด้าวทั้งหมด ไม่ชำนาญเส้นทางในการลักลอบนำพา จึงใช้วิธีการปลอมแปลงหนังสือเดินทาง เพื่อให้แรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าเมืองผิดกฎหมาย นำมาแสดงกับเจ้าหน้าที่ประจำจุดตรวจจุดสกัดระหว่างการเดินทางเมื่อถูกเรียกตรวจสอบ โดยในครั้งนี้คิดว่าเจ้าหน้าที่คงไม่สามารถตรวจสอบหนังสือเดินทางปลอมได้จึงได้รับงาน และถูกจับกุมตัว
สรุปผลการปฏิบัติในการบูรณาการทลายในเครือข่ายนี้ สามารถออกหมายจับผู้นำพาบุคคลต่างด้าวผิดกฎหมายหลบหนีเข้าเมืองได้ จับกุมได้จำนวน 1 คน และแจ้งข้อกล่าวหา จำนวน 1 คน อยู่ในระหว่างติดตามตัวเพื่อมาดำเนินคดี จำนวน 1 คน และสามารถจับกุมบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองสัญชาติเมียนมา ได้ จำนวน 6 คน
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมถึงการเฝ้าระวังบุคคลทั้งสัญชาติไทยและสัญชาติอื่นๆ ที่มีหมายจับและมีเดินทางเข้า-ออกประเทศไทย หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือที่ www.immigration.go.th จักขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่ง
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน