ข่าวใหม่อัพเดท » ยายวัย 81 ปี สุดช้ำ… บริจาคที่ดินมูลค่า 14 ล้าน สร้างสถานปฏิบัติธรรม โดนเจ้าสำนักขับไล่..

ยายวัย 81 ปี สุดช้ำ… บริจาคที่ดินมูลค่า 14 ล้าน สร้างสถานปฏิบัติธรรม โดนเจ้าสำนักขับไล่..

28 มิถุนายน 2021
0

สุโขทัย – ยายวัย 81 ปี สุดช้ำ… บริจาคที่ดินมูลค่า 14 ล้าน สร้างสถานปฏิบัติธรรม โดนเจ้าสำนักขับไล่..

ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งจาก นายนิมิตร ปิ่นทอง อายุ 63 ปี ชาว ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย จ.สุโขทัย อดีตครูเกษียณราชการ ที่ชาวบ้านตำบลท่าชัยให้ความเคารพนับถือ ว่ามีหญิงชราวัย 81 ปี กำลังได้รับความเดือดร้อน และต้องการความช่วยเหลือ เนื่องจากได้บริจาคที่ดินมูลค่า 14 ล้านบาท สร้างสำนักปฏิบัติธรรม และบริจาคเงินสร้างศาสนสถาน กว่า 2 ล้านบาท แต่กลับถูกเจ้าสำนักขับไล่ ออกจากที่ดินที่เคยเป็นของตัวเอง

จึงเดินทางไปตรวจสอบ บริเวณเพิงพักใกล้สำนักปฏิบัติธรรมแห่งหนึ่ง ตั้งอยู่ที่หมู่ 5 ต.ท่าชัย อ.ศรีสัชนาลัย พบ น.ส.แหล่ม ทิชากร อายุ 81 ปี อยู่บ้านเลขที่ 346 หมู่.5 ต.ท่าชัย เปิดเผยเรื่องราวให้ผู้สื่อข่าวฟังว่า ตนและญาติพี่น้องส่วนหนึ่ง เป็นนักแสวงบุญ ชอบทำบุญและปฏิบัติธรรม มักจะชวนกันเหมารถไปปฏิบัติธรรม ฟังเทศน์ตามวัดต่างๆ ในต่างจังหวัด และศรัทธาในแนวทางสันติอโศก โดยเฉพาะที่ จ.ตาก มีสถานที่แห่งหนึ่งที่ตนและญาติมักจะไปปฏิบัติธรรม กันบ่อยๆ จนกระทั่งเมื่อได้พบและฟังเทศน์จาก พระ “มหา100ธรรม” รู้สึกซาบซึ้ง จับใจ เกิดความศรัทธาอย่างแรงกล้า

เมื่อกลับมาบ้าน บรรดาผู้ที่ไปร่วมปฏิบัติธรรมด้วยกันจึงเสนอ ให้สร้างที่พักสงฆ์ในที่ดิน จำนวน 10 ไร่ ของตน ซึ่งเคยมีเศรษฐีมาขอซื้อในราคา 14 ล้านบาท แต่ตนไม่ขายเนื่องจากไม่เดือดร้อนเรื่องเงินทอง ไม่มีหนี้สิน ไม่มีสามีและลูก ต่อมาน้องสาวตนและญาติไปนิมนต์ พระ “มหา100ธรรม” ให้มาเป็นเจ้าสำนักที่นี่ ซึ่งตอนนั้นตนไม่ขัดข้องเนื่องจากหลงเชื่อศรัทธา และยังขายที่ดินแปลงอื่น รวบรวมเงินมาได้ 2ล้านกว่าบาท นำมาสร้าง ศาสนสถานต่างๆ และถวายที่ดินแปลงดังกล่าวให้กับสันติอโศก โดยยังอาศัยอยู่ที่บ้านซึ่งอยู่ในที่ดินแปลงดังกล่าว

ต่อมาเริ่มมีผู้มาปฏิบัติธรรมเพิ่มมากขึ้นทั้งมาจากที่ต่างๆ บางคนมีฐานะ ร่ำรวย ตนจึงเริ่มโดนกดดัน และห้ามไม่ให้เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จะช่วยปรุงอาหารก็หาว่าตนสกปรก จะใส่บาตรก็ปิดฝาบาตรไม่รับภัตตาหารจากตน และทำโทษ โดยหาว่าตนดื้อด้าน ไม่เชื่อฟังพระ เพียงแค่ตนถามและอธิบายข้อข้องใจในบางเรื่องกลับถูกดุ และต้องถูกลงพรหมฑัณท์ โดยการปฏิบัติลดละอัตตา 4 เดือน และต้องดื่มกินน้ำมันมะกอกก่อนจึงจะเข้ามาขอขมาได้ แต่ตนไม่ยอมกิน ท้ายที่สุดออกปากไล่ไม่ให้อยู่ภายในบริเวณสำนักฯ ซึ่งเคยเป็นที่ดินของตนที่สร้างถวายให้ แต่ตอนนี้ทราบว่า ตกเป็นทรัพย์สินของ มูลนิธิปฐพีพุทธ ซึ่งผิดวัตถุประสงค์ที่ตนต้องการบริจาคถวายให้สันติอโศก จึงต้องการให้แก้ไขเปลี่ยนแปลงตามความตั้งใจเดิม และขอให้พระมหา100 ธรรม ออกไปอยู่ที่อื่น

ด้านนายนิมิตร ปิ่นทอง กล่าวว่า ป้าแหล่ม มาปรึกษาเรื่องดังกล่าวนานแล้วซึ่งพยายามหาทางช่วย โดยประสานทั้งศูนย์ดำรงธรรม ทั้งสำนักงานพุทธศาสนา เรื่องก็เงียบ ปรึกษาเลขาเจ้าคณะอำเภอท่านก็บอกว่า คนละนิกายกันไม่สามารถยุ่งเกี่ยวได้ อยากให้ผู้ที่เกี่ยวข้องเข้ามาช่วยดูแล และตรวจสอบพฤติกรรม เนื่องจากทราบมาว่า ญาติโยมที่ใส่บาตรทำบุญให้ในตอนแรกๆ จะไม่รับเงิน แต่หากศรัทธาเข้ามาเป็นสาวกร่วมหมู่คณะ กลับถูกชักชวนให้ทำบุญกันเป็นจำนวนมากๆ เช่น ชาวไร่อ้อยคนหนึ่งเมื่อพระรู้ว่ามีรายได้หลักแสนบาทก็จะชวนให้นำเงินมาทำบุญ บางคนขายที่ดินนำเงินมาถวายเป็นล้าน โดยลูกหลานมารู้ทีหลังได้แต่บ่นให้ตนฟัง แม้แต่แม่ยายตน ยังจะขายที่ดินมูลค่า 3 ล้าน แล้วจะนำเงินมาทำบุญ 1 ล้านบาท แต่ยังขายไม่ได้ จึงโดนทวงถามถึงเงิน 1 ล้าน มาโดยตลอด

ซึ่งชาวบ้านแถวนี้ที่เคยหลงมาทำบุญปฏิบัติธรรมสำนักแห่งนี้ เริ่มลดน้อยลงจนเหลือแต่คนมาจากที่อื่นเพียงไม่กี่คน และที่เห็นว่าผิดปกติคือ คนมาปฏิบัติธรรมแต่กลับมีความผิดต้องได้รับโทษ ต้องเดินจงกรมตากแดด และต้องดื่มน้ำมันมะกอกเพื่อให้ได้เข้ามาขอขมา ในพุทธศาสนามีแบบนี้ด้วยหรือ…


พงศ์เทพ สาคร สุโขทัย

error: Content is protected !!