(โลตัส) ประกาศความร่วมมือกับ (สสว.) และ SME D Bank ผนึกกำลังส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทย ดันสินค้า SME ขึ้นห้างฯ
วันที่ 30 มิถุนายน 2564 : โลตัส จับมือ สำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) และ ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือ (MoU) ผนึกกำลังส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทย ให้คำปรึกษา มอบองค์ความรู้ และบริการด้านการเงินให้กับผู้ประกอบการ SME พร้อมทั้งเปิดโต๊ะเจรจาธุรกิจการค้ากับจัดซื้อของ (โลตัส) โดยตรง เพิ่มโอกาสการวางจำหน่ายสินค้าในห้างค้าปลีก และแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน โดยมีแผนจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้าทุกวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน ส่งเสริมให้ SME ไทย มีช่องทางการจำหน่ายและประชาสัมพันธ์เพิ่มขึ้น เพื่อประสิทธิภาพในการดำเนินธุรกิจ แข่งขัน และเติบโต ให้ผู้ประกอบการ SME ไทยมีรายได้ยั่งยืน
นางสาวสลิลลา สีหพันธุ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารด้านบุคคลและความยั่งยืน โลตัส กล่าวว่า “(โลตัส) ให้การสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย SME มาอย่างต่อเนื่องผ่านการรับซื้อสินค้าเพื่อจำหน่ายในสาขาและช่องทางออนไลน์ของเรา รวมถึงการพัฒนาศักยภาพเกษตรกรและผู้ประกอบการ SME ให้สามารถเติบโตได้อย่างยั่งยืน เรามีแผนงานที่ชัดเจนในการเพิ่มปริมาณการรับซื้อสินค้าเกษตรและสินค้า SME อย่างน้อย 10% ทุกปี เป็นระยะเวลา 5 ปี เพื่อบูรณาการการสนับสนุนเกษตรกรและผู้ประกอบการรายย่อย (โลตัส) ได้ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือกับ (สสว.) และ SME D Bank เพื่อเป็นการตอกย้ำความมุ่งมั่นในการดำเนินการตามแผนงานที่เราได้วางไว้
ซึ่งการร่วมมือกับทั้งสององค์กรนอกจากจะช่วยให้เราได้เข้าถึงผู้ประกอบการที่มีศักยภาพมากยิ่งขึ้น ยังช่วยให้เราสามารถส่งเสริมศักยภาพผู้ประกอบการ SME ไทยได้ดียิ่งขึ้นอีกด้วย ผ่านความเชี่ยวชาญในแต่ละด้านของแต่ละองค์กร ช่วยให้ผู้ประกอบการได้เข้าใจ และเข้าถึงตลาดผู้บริโภค และการประชาสัมพันธ์ได้มากยิ่งขึ้น โดยเรามีแผนงานที่จะจัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้าทุกวันศุกร์ที่ 3 ของเดือน เพื่อเปิดโอกาสให้ผู้ประกอบการ SME ได้นำแสนอสินค้าให้กับทีมงานจัดซื้อของโลตัสได้โดยตรง เพิ่มโอกาสการวางจำหน่ายสินค้าในห้างค้าปลีก และแนวทางการพัฒนาผลิตภัณฑ์เพื่อตอบโจทย์ผู้บริโภคในปัจจุบัน
ที่ผ่านมา (โลตัส),(สสว.) และ SME D Bank ได้จัดกิจกรรมจับคู่เจรจาธุรกิจการค้าแบบออนไลน์โดยมีจำนวนผู้ประกอบการเข้าร่วมรวม 154 ราย และกำลังอยู่ในการเจรจาความเป็นไปได้ในการจัดซื้อสินค้าเพื่อวางจำหน่าย 114 ราย โดยในกิจกรรมเจรจาการค้าครั้งที่สอง ในวันที่ 18 มิถุนายน 2564 ที่ผ่านมานี้ (โลตัส) ได้มีการตกลงซื้อขายกับผู้ประกอบการ จำหน่ายสบู่เหลวสมุนไพรจากสารสกัดของใบพลู เนื่องจากผู้ประกอบการ SME รายนี้มีความพร้อมในการจัดส่งผลิตภัณฑ์ที่มีคุณภาพและได้มาตรฐาน และมีการวางกลุ่มเป้าหมายลูกค้าที่ชัดเจน ซึ่งถือเป็นหนึ่งในองค์ประกอบสำหรับเกณฑ์การพิจารณาของ (โลตัส) นอกจากนี้ ยังมีผู้ประกอบการหลายรายที่โลตัสให้ความสนใจและอยู่ในระหว่างการเจรจา จากหลากหลายหมวดหมู่สินค้าอาทิ กลุ่มสินค้าอาหารแห้ง กลุ่มสินค้าอาหารสดและอาหารพร้อมทาน กลุ่มสินค้าเพื่อสุขภาพ เป็นต้น
สถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 และสภาวะเศรษฐกิจในปัจจุบัน มีผลกระทบเป็นอย่างมากกับผู้ประกอบการ SME รายย่อย เราจึงอยากเชิญชวนผู้ประกอบการ SME ลงทะเบียนเข้าร่วมกิจกรรม นำเสนอสินค้ากับ (โลตัส) เพื่อเปิดโอกาสในการเพิ่มช่องทางการจำหน่ายสินค้าที่สาขาของโลตัส ได้ที่ www.TescoLotus.com/SME โดยโลตัสพร้อมช่วยเหลือในการพัฒนาสินค้า ผลักดันสินค้าให้ได้มาตรฐาน และให้ตอบโจทย์ความต้องการของลูกค้าให้ดียิ่งขึ้น เพื่อให้ผู้ประกอบการ SME เป็นรากฐานที่แข็งแกร่งของเศรษฐกิจไทยต่อไป”
นาย วีระพงศ์ มาลัย ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (สสว.) กล่าวว่า “จากสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแข่งขันอย่างสูง บวกกับการระบาดของโรคโควิด-19 ทำให้ผู้ประกอบการต้องปรับกลยุทธ์ และเปลี่ยนรูปแบบการดำเนินธุรกิจ ซึ่งพบว่า ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ปรับตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ ส่วนใหญ่เกิดจากการผู้ประกอบการเหล่านั้นมีการปรับระบบและวิธีการทำงาน และหนึ่งในวิธีที่มีประสิทธิภาพก็คือการแสวงหาโอกาสใหม่ๆ เช่น การใช้แพลตฟอร์ม หรืออาจจะมีพันธมิตรการค้าใหม่
นโยบายของ (สสว.) ในปี 2564 จึงมุ่งเน้น 1.เพิ่มผลิตภาพ และลดต้นทุน 2.เพิ่มช่องทางการตลาดทั้งในประเทศ และต่างประเทศ ในรูปแบบ Online และ Offline 3.เชื่อมโยงแหล่งเงินทุน ทั้งผ่านกองทุน (สสว.) และเครือข่ายพันธมิตร เช่น ธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม หรือ SME D Bank ซึ่งการลงนามความร่วมมือในบันทึกข้อตกลงความร่วมมือการให้สิทธิประโยชน์กับผู้ประกอบการที่ลงทะเบียน SMEs ผู้รับบริการภาครัฐ กับบริษัทบริษัท เอก-ชัย ดีสทริบิวชั่น ซิสเทม จำกัด (โลตัส) ซึ่งถือเป็นแพลตฟอร์ม หรือพันธมิตรการค้าที่สำคัญสำหรับผู้ประกอบการในการกระจายสินค้าไปสู่มือผู้บริโภคทั่วประเทศ
ความร่วมมือในครั้งนี้
นอกจากจะเป็นการสร้างโอกาสให้ผู้ประกอบการแล้ว ยังเป็นการเติมเต็มสิทธิประโยชน์สำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิกของ (สสว.) ในการเจาะตลาดโมเดิร์นเทรดอย่างเป็นรูปธรรมอีกด้วย เนื่องจากจากจำนวนสาขาของโลตัสที่มีมากกว่า 2,000 สาขา บวกกับสินค้าของกลุ่มผู้ประกอบการใหม่ (Early Stage) วิสาหกิจรายย่อย (Micro) วิสาหกิจขนาดย่อม (Small) ทั่วประเทศ ที่มีหลากหลาย จะได้มีโอกาสจับคู่เจรจาธุรกิจกับโลตัส สิ่งเหล่านี้จะเป็นการขยายช่องทางการค้าของผู้ประกอบการให้เติบโตและเข้มแข็งทางเศรษฐกิจในช่วงวิกฤติโควิด โดยช่องทางการจำหน่ายสินค้าของผู้ประกอบการ อาจเป็นที่โลตัสทั่วประเทศ หรือตามความเหมาะสมตามความต้องการของตลาดและผู้ประกอบการ”
นางสาวนารถนารี รัฐปัตย์ กรรมการผู้จัดการธนาคารพัฒนาวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อมแห่งประเทศไทย (ธพว.) หรือ SME D Bank กล่าวว่า “SME D Bank ในฐานะสถาบันการเงินของรัฐ เพื่อเอสเอ็มอีไทย นอกจากภารกิจหลักในการสนับสนุนด้านเงินทุนแล้ว อีกภารกิจสำคัญ คือ การยกระดับและพัฒนาให้เอสเอ็มอีไทยเติบโตอย่างยั่งยืน ผ่านการเติมความรู้ สนับสนุนการสร้างมาตรฐาน และส่งเสริมการตลาด เป็นต้น โดยเฉพาะอย่างยิ่ง เมื่อเกิดสถานการณ์แพร่ระบาดโรคโควิด-19 ส่งผลกระทบต่อผู้ประกอบการเอสเอ็มอีไทยอย่างรุนแรง SME D Bank จึงมุ่งประสานหน่วยงานพันธมิตรต่างๆ ทั้งภาครัฐ และเอกชน เพื่อจะหาทางช่วยเหลือเอสเอ็มอีไทยให้สามารถประคับประคองธุรกิจ ก้าวผ่านช่วงเวลาที่ยากลำบากนี้ไปให้ได้
ดังนั้น ความร่วมมือกับ (โลตัส) และ (สสว.) ครั้งนี้ จึงมีความสำคัญมากในการช่วยสร้างโอกาสให้กับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีทั้งกลุ่มลูกค้า SME D Bank และผู้ประกอบการทั่วไป สามารถขยายช่องทางตลาดผ่านเครือข่ายของ (โลตัส) ซึ่งมีศักยภาพการตลาดสูงมาก ช่วยให้สินค้าของเอสเอ็มอีสามารถส่งตรงถึงมือผู้บริโภค เป็นการเพิ่มรายได้ เพิ่มยอดขาย รักษาการจ้างงาน รวมถึง ได้รับความรู้ (สสว.) ช่วยให้ก้าวผ่านวิกฤตโควิด-19 ไปได้ ขณะเดียวกัน เมื่อเอสเอ็มอีที่ผ่านการคัดเลือกจำเป็นต้องขยายกำลังผลิต หรือปรับปรุงมาตรฐานโรงงานผลิต รองรับการขยายตลาด ทาง SME D Bank เข้ามาเติมเต็ม ด้วยการจัดเตรียมสินเชื่ออัตราดอกเบี้ยพิเศษไว้รองรับ เช่น สินเชื่อรายเล็ก Extra Cash กู้ได้ทั้งบุคคลธรรมดา และนิติบุคคล วงเงินกู้สูงสุด 3 ล้านบาทต่อราย อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 3% ต่อปีใน 2 ปีแรก ผ่อนนานสูงสุด 5 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน ไม่ต้องใช้หลักทรัพย์ค้ำประกัน สินเชื่อเพื่อยกระดับเศรษฐกิจชุมชน อัตราดอกเบี้ยเริ่มต้น 2.875% ต่อปี นาน 3 ปีแรก วงเงินกู้สูงสุด 5 ล้านบาท และสินเชื่อฟื้นฟู อัตราดอกเบี้ย 2% ต่อปี ใน 2 ปีแรก ได้รับการยกเว้นดอกเบี้ยในช่วง 6 เดือนแรก ผ่อนนานสูงสุด 7 ปี ปลอดชำระคืนเงินต้นสูงสุด 12 เดือน เป็นต้น
ทั้งนี้ ผู้ประกอบการที่ต้องการเข้าร่วมโครงการ หรือแจ้งความประสงค์ขอสินเชื่อ ติดต่อได้ที่ฝ่ายลูกค้าสัมพันธ์ SME D Bank รวมถึงสาขา SME D Bank ทั่วประเทศ หรือช่องทางออนไลน์ เช่น LINE Official Account: @SMEDevelopmentBank,เว็บไซต์ธนาคาร (https://www.smebank.co.th/) และแอปพลิเคชัน SME D Bank ดาวน์โหลดได้ทั้งระบบ IOS และ Android เป็นต้น หรือสอบถาม Call Center 1357″
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมติดต่อ
ดร.ปัณฑิพาณ์ ธาราภิบาล (อ้อย) 081-753-6844
คณาธิป ทรัพยสิทธิ์ (โจ๊ก) 081-843-5754
ธนานันท์ ตั้งวงศ์ศิริ (แบงก์) 081-777-7973
วรรัฐฐา จันทรวราทิตย์ (เค้ก) 087-973-0949
E-mail: prteamlotuss@gmail.com
Line: @prlotuss
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน