สืบสวน ตม.1 ขยายผลรวบเขมรแสบ ร่วมขบวนการขนแรงงานต่างด้าวข้ามแดน
วันที่ 9 ก.ค.64 เวลา 10.30 น.ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม. ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.ปิติ นิธินนทเศรษฐ์ ผบก.ตม.1, พ.ต.อ.ศุภณัฎฐ์ เจริญเรืองสกุล, พ.ต.อ.ภัทรภณ สนิทวงศ์ ณ อยุธยา, พ.ต.อ.ยศเอก รักษาสุวรรณ รอง ผบก. ตม.1, พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1 ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ดังนี้
กองกำกับการสืบสวน กองบังคับการตรวจคนเข้าเมือง 1 นำโดย พ.ต.อ.กีรติศักดิ์ ก้องเกียรติศิริ ผกก.สส.บก.ตม.1, พ.ต.ท.พลสิทธิ์ สุทธิอาจ รอง ผกก. สส.บก.ตม.1, พ.ต.ท.ทรงพันธุ์ กุลดิลก, พ.ต.ท.ปัฐน์ แสนอินอำนาจ สว.กก. สส.บก.สส.สตม. และเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 ได้ร่วมกันจับกุม MR.VON หรือ นายยาว อายุ 44 ปี สัญชาติกัมพูชา จับตามหมายจับของศาลจังหวัดสระแก้ว ให้จับกุม MR.VON ซึ่งต้องหาว่ากระทำความผิดฐาน “ร่วมกันนำหรือพา หรือช่วยคนต่างด้าวเข้ามาในราชอาณาจักรหรือกระทำด้วยวิธีการใดๆ อันเป็นการอุปการะช่วยเหลือหรือให้ความสะดวกแก่คนต่างด้าวให้เข้ามา ในราชอาณาจักร”
ก่อนการจับกุม สืบเนื่องมาจากเจ้าหน้าที่ทหารและตำรวจกก.สส.ภ. จ.สระแก้ว ได้สืบสวนหาข่าวจนทราบว่า มีกลุ่มคนต่างด้าวสัญชาติกัมพูชาแอบลักลอกเดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร บริเวณป่ามันสำปะหลัง ท้ายหมู่บ้าน แก้วเพชรพลอย ต.ตาพระยา อ.ตาพระยา จ.สระแก้ว จึงได้ร่วมกันตรวจสอบและจับกุม คนต่างด้าวซึ่งหลบหนีเข้ามา ในราชอาณาจักรจำนวน 25 คน และคนไทยจำนวน 3 คน ซึ่งหนึ่งในผู้ต้องหาคือนายโก๊ะฯ ได้ให้การว่า ตนได้รับการติดต่อจากนายยาวฯ ให้มารับแรงงานชาวกัมพูชาดังกล่าว โดยนายยาวฯ จะรู้จักกับนายหน้าซึ่งอาศัยอยู่ในประเทศกัมพูชา ทำหน้าที่หาลูกค้าที่ต้องการเข้ามาในราชอาณาจักรไทย
จากนั้นนายยาวฯ จะติดต่อให้นายโก๊ะฯ ไปรับแรงงานชาวกัมพูชาตามสถานที่ ที่นัดหมายกันไว้ จากนั้นนายยาวฯ จะขับรถยนต์เก๋งส่วนตัวของนายยาวฯ ไม่ทราบหมายเลขทะเบียน เพื่อมารับแรงงานต่างด้าวดังกล่าวด้วยตัวเอง และนายโก๊ะได้บอกว่าตนและพวกได้กระทำการลักษณะนี้มาจำนวนหลายครั้ง ซึ่งจะได้รับค่าตอบแทน 1,000 บาท ต่อคน ซึ่งตามวันเวลาที่นายโก๊ะฯ ถูกจับกุม คาดว่านายยาวฯ ได้ทราบถึงการจับกุมดังกล่าว จึงตื่นกลัวแล้วหลบหนีไป
ต่อมา เจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับคำสั่งจาก พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม. ซึ่งได้รับการประสานจาก กก.สส.ภ.จ.สระแก้ว ให้ กก.สส.บก.ตม.1 สนับสนุนการติดตามตัวนายยาวฯ มาดำเนินคดี เจ้าหน้ที่ กก.สส.บก.ตม.1 จึงได้ทำการสืบสวนโดยการตรวจสอบข้อมูลจากระบบสารสนเทศตรวจคนเข้าเมืองจนทราบข้อมูลของนายยาวฯ และได้ทำการติดต่อนายจ้างของนายยาวฯ ตามฐานข้อมูลของกรมการจัดหางาน โดยนายจ้างของนายยาวฯ ให้การว่าปัจจุบันตนและนายยาวฯ มีเรื่องบาดหมางกัน ไม่ได้ร่วมงานกันแล้ว จึงไม่ทราบที่อยู่ของนายยาวฯ แต่มีข้อมูลหมายเลขโทรศัพท์ของนายยาวฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้ใช้วิธีโทรศัพท์หลอกล่อนายยาวฯ ว่าจะมีงานก่อสร้างให้ทำและมีค่าตอบแทนให้ นายยาวฯ หลงเชื่อจึงได้ให้ที่อยู่มา จึงทำให้เจ้าหน้าที่ทราบถึงที่อยู่ของนายยาวฯ ต่อมาเจ้าหน้าที่ฯ จึงวางกำลังเฝ้าสังเกตการณ์ไว้บริเวณที่อยู่ของนายยาวฯ
จนกระทั่งพบตัวนายยาวฯ เจ้าหน้าที่ฯ จึงได้เชิญตัวนายยาวฯ มายัง กก.สส. บก.ตม.1 เพื่อสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 ได้รับการประสานมาจาก กก.สส.ภ.จ.สระแก้ว ว่าได้รับการอนุมัติหมายจับนายยาวฯ แล้ว จากนั้นเจ้าหน้าที่ฯ จึงแจ้งให้นายยาวฯ ทราบถึงหมายจับนั้น โดยนายยาวฯ ให้การว่า ตนได้ชักชวนเพื่อนและคนรู้จักซึ่งเป็นชาวกัมพูชานับสิบคนข้ามพรมแดนระหว่างประเทศโดยผิดกฎหมาย อาศัยการเดินเท้าผ่านช่องทางธรรมชาติบริเวณ บ้านทับเสียม อำเภอตาพระยา จังหวัดสระแก้ว โดยรับว่าทำมาแล้ว 2-3 ครั้ง โดยตนจะได้รับค่าตอบแทนหัวละ 5,000–7,000 บาท โดยแต่ละครั้งจะมีชาวกัมพูชานำพาแรงงานต่างด้าวเดินข้ามมาตามช่องทางธรรมชาติ และให้รอที่จุดพักคอย จากนั้นนายโก๊ะฯ จะพาเดินมายังบริเวณที่ได้นัดหมายไว้กับตน และตนจะนำรถส่วนตัวขับมารับแรงงานดังกล่าวเพื่อมุ่งหน้ามายัง กรุงเทพฯ และปริมณฑล โดยเมื่อถึงยังที่หมายนายยาวฯ จะนำแรงงานชาวกัมพูชาส่งต่อให้กับนายจ้างที่ต้องการแรงงานต่างด้าวในการทำงานก่อสร้าง ภายหลังการจับกุมเจ้าหน้าที่ กก.สส.บก.ตม.1 จึงนำตัวนายยาวฯ ส่งต่อให้เจ้าหน้าที่ กก.สส.ภ.จ.สระแก้ว เพื่อรับตัวไปส่งต่อยัง สภ.ตาพระยา เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
พล.ต.ท.สมพงษ์ฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายังสำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ www.immigration.go.th
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน