วันที่ 9 ก.ค.64 เวลา 10.30 น. ณ ห้องอเนกประสงค์ ชั้น 1 อาคาร 1 สตม.ซ. สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อาชยน ไกรทอง รอง ผบช.สตม., พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ ฐากูรปุณยสิริ ผบก.ตม.3,พ.ต.อ.ทรงโปรด สิริสุขะ, พ.ต.อ. กฤตัชญ์ บำรุงรัตนยศ, พ.ต.อ.รัชธพงศ์ เตี้ยสุด, พ.ต.อ.หฤษฎ์ เอกอุรุ รอง ผบก.ตม.3, ว่าที่ พ.ต.อ.จิรพงศ์ รุจิรดำรงค์ชัย ผกก.สส.บก.ตม.3 และ พ.ต.อ. จักษ์ ยังให้ผล ผกก.ตม.จ.กาญจนบุรี ร่วมแถลงข่าวการจับกุม ดังนี้
ในห้วงสัปดาห์ที่ผ่านมา ตม.จ.กาญจนบุรี เข้มงวดกวดขันกับขบวนการลักลอบเข้า-ออกตามแนวชายแดนธรรมชาติอยู่เป็นประจำจนเกิดผลการปฏิบัติใน 2 วัน สามารถจับกุมขบวนการลักลอบขนคนเข้าเมืองได้ 3 ขบวนการ ได้ทั้งผู้ต้องหาและรถยนต์ของกลางที่ใช้ในการก่อเหตุ มีรายละเอียดดังนี้
ขบวนการที่ 1-2 เหตุเกิดพื้นที่ อ.สังขละบุรี โดยก่อนเกิดเหตุชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่าจะมีกลุ่มบุคคลลักลอบขนย้ายแรงงานต่างด้าวผิดกฎหมายเดินทางออกจากหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น ประเทศเมียนมา ใกล้กับชายแดนไทย อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จำนวนหลายคนโดยแบ่งกลุ่มเดินทางออกมากจำนวน 2 กลุ่มในเวลาติดๆกันเดินข้ามพรมแดนธรรมชาติ แล้วมาพักคอยที่พื้นที่เกษตรที่สูง หมู่บ้านซองกาเรีย ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี จึงได้วางแผนจับกุมโดยมีการบูรณาการกำลังปฏิบัติ แบ่งชุดเข้าไปซุ่มเฝ้าดูบริเวณดังกล่าวและแยกตั้งจุดสกัดกั้นตามเส้นทางที่คนร้ายอาจใช้ในการหลบเลี่ยง
โดยได้พบว่าชุดแรกพบรถกระบะ ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีขาว เข้ามารับคนจำนวนส่วนใหญ่เหลือไว้ 2 คนแล้วจึงขับออกไป จึงได้แจ้งชุดปฏิบัติให้สกัดกั้นและสามารถจับได้ที่บริเวณ จุดตรวจอาเซียน ร้อย ตชด.134 ม.8 ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีนายบุญชูฯ อายุ 30 ปี สัญชาติไทย เป็นผู้ขับรถ ชุดที่สองพบรถกระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ เข้ามารับคน 2 คนที่เหลือ จึงได้แจ้งให้มีการสกัดกั้นและสามารถจับได้ที่บริเวณจุดสกัดสะพานรันตี ต.หนองลู อ.สังขละบุรี จ.กาญจนบุรี มีนายชนน อายุ 20 ปี สัญชาติไทย ขับรถ การตรวจสอบพบว่าแรงงานทั้งหมดเป็นแรงงานที่ไม่เอกสารหนังสือเดินทาง และเดินทางผ่านช่องทางธรรมชาติ
โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหา นายบุญชูฯ และนายชนนฯ “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” และ คนต่างด้าว 29 คน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยการตรวจยึดของกลาง รถยนต์กระบะ ยี่ห้อฟอร์ด รุ่นเรนเจอร์ สีขาว,รถยนต์กระบะ ยี่ห้อโตโยต้า รุ่นวีโก้ สีดำ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 4 เครื่อง
ขบวนการที่ 3 เหตุเกิดพื้นที่ อ.เมือง จ.กาญจนบุรี โดยก่อนเกิดเหตุชุดจับกุมได้ทำการสืบสวนทราบว่า จะมีการลักลอบขนย้ายแรงงานผ่านพื้นที่ ต.บ้านเก่า อ.เมือง จ.กาญจนบุรี เป้าหมายเป็นรถเก๋งแบบแวน ยี่ห้อเชฟโลเร็ต รุ่นซาฟิร่า สีดำ เมื่อทราบแล้วได้วางแผนจับกุมโดยการดักซุ่มสังเกตเมื่อพบเป้าหมายจึงใช้รถยนต์ไฟฟ้าตรวจการอัจฉริยะเข้าตรวจสอบซึ่งได้ติดตามไล่ติดตามจนสามารถสกัดจับได้ที่จุดตรวจช่องเขาหนีบ ผลการตรวจสอบพบว่ามี นาย THANT อายุ 43 ปี สัญชาติเมียนมา เป็นผู้ขับรถ ภายในมีผู้นั่งโดยสารมาด้วย 9 คน ล้วนสัญชาติเมียนมาและไม่มีหนังสือเดินทาง
โดยมีการแจ้งข้อกล่าวหา นาย THANT “ช่วยเหลือ ซ่อนเร้น หรือช่วยด้วยประการใดๆ ให้บุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายพ้นจากการจับกุม” และคนต่างด้าว 9 คน “เป็นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้ามาและอยู่ในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมด้วยการตรวจยึดของกลาง รถยนต์เก๋งแบบแวน ยี่ห้อเชฟโรเล็ต รุ่นแรนซาฟิร่า สีดำ และโทรศัพท์มือถือ จำนวน 2 เครื่อง จากการซักถามเพื่อขยายผล
ขบวนการที่ 1-2 มีความเกี่ยวโยงกันเป็นกลุ่มคนที่เดินทางจากหลายที่ในประเทศเมียนมาและมาพักยังจุดพักคอยที่หมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น โดยนายบุญชูฯ ให้ข้อมูลว่ารับการติดต่อจากนายหน้าชาวเมียนมา ซึ่งอาศัยอยู่ที่หมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น ให้มารับคนไปส่งยังจุดนัดพบซึ่งจะมีการแจ้งอีกครั้งโดยรับค่าจ้างทำงานในครั้งนี้จำนวน 10,000 บาท แต่ถูกจับกุมก่อนจะถึงจุดนัดหมาย ส่วนนายชนนฯ ผู้ต้องหาอีกคนให้ข้อมูลว่า ได้รับการติดต่อจากญาติซึ่งเป็นคนเมียนมา ให้ไปรับคนต่างด้าวไปส่งที่สมุทรสาคร โดยจะได้รับค่าจ้างจำนวน 10,000 บาท ส่วนแรงงานชาวพม่าทั้งหมดให้ข้อมูลเป็นไปในทางเดียวกันว่า ติดต่อกับทางญาติใประเทศไทยก่อน หลังจากนั้นจะเดินทางจากเมืองต่างๆ ในประเทศเมียนมา มายังหมู่บ้านบ่อญี่ปุ่น จากนั้นจะมีนายหน้าดำเนินการติดต่อหารถไปส่งยังจุดหมายจังหวัดสมุทรสาคร นครปฐม กรุงเทพฯ โดยค่าใช้จ่ายอยู่ที่หัวละ 20,000-30,000 บาท
ขบวนการที่ 3 นาย THANT ให้ข้อมูลว่ารับการติดต่อจากบุคคลหนึ่ง ให้ขับรถรับช่วงคนเมียนมาไม่มีหนังสือเดินทาง จำนวน 9 คน ไปส่งที่บริเวณใกล้ด้านพุร้อน โดยให้ค่าจ้างหัวละ 1,000 บาท ตนตัดสินใจรับงานนี้โดยไปรอรับที่จุดนัดพบ ถนนเลี่ยงเมืองกาญจนบุรี ซึ่งมีรถเข้ามาส่งคนให้กับนาย THANT จำนวน 2 ชุด จนกระทั่งรุ่งเช้าจึงได้ออกเดินทางและถูกเจ้าหน้าที่จับกุมตัว สอบถามคนต่างด้าวที่โดยสารมาด้วยให้ข้อมูลว่าลักลอบทำงานอยู่ อ.เมือง จ.สมุทรสาคร แต่ช่วงนี้ได้รับผลกระทบโรงงานที่ตนเองลักลอบทำงานอยู่ปิดตัวเพราะติดโควิด ช่วงนี้ไม่มีงานทำจึงเดินทางกลับบ้านก่อน
จะเห็นได้ว่าสถานการณ์ขบวนการลักลอบขนย้ายแรงงานในพื้นที่จังหวัดกาญจนบุรีนั้นมีการปราบปรามที่เข้มข้นจนทำให้ค่าใช้จ่ายในการลักลอบเข้ามานั้นสูงขึ้นเรื่อยมาจนถึง 25,000-30,000 บาท ซึ่งทาง ตม.กาญจนบุรีจะมีการขยายผลเอาเครือข่ายที่เกี่ยวข้องมาดำเนินคดีต่อไป
พล.ต.ต.รุ่งโรจน์ฯ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม. มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆรวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวไทยและชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตราย ต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตและทรัพย์สินของประชาชน อันทำให้เกิดความเสียหายต่อภาพลักษณ์ของประเทศชาติ หากประชาชนท่านใดพบเห็นเบาะแสการกระทำความผิด กรุณาแจ้งมายัง สำนักงานตรวจคนเข้าเมือง เลขที่ 507 ซ.สวนพลู แขวงทุ่งมหาเมฆ เขตสาทร กรุงเทพมหานคร 10120 หรือที่หมายเลขโทรศัพท์ 1178 หรือ www.immigration.go.th
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน