ผวจ.ชลบุรี ออกตรวจความพร้อมจุดตรวจจุดสกัดทั่วจังหวัด ยันผู้ป่วยโควิดอาการหนัก เพิ่มโรงพยาบาลเริ่มเต็ม งัดกลยุทธ์กักตัวในโรงงานแทน ขณะที่บุคคลจาก 10 จังหวัดสีแดงเข้ม เข้าพื้นที่ต้องกักตัว 14 วัน
วันนี้ (13 ก.ค.) นายภัครธรณ์ เทียนไชย ผู้ว่าราชการจังหวัดชลบุรี ได้ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมจุดตรวจจุดสกัดการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ที่บริเวณถนนสุขุมวิท ฝั่งตรงข้าม สภ.บางละมุง ม.2 อ.บางละมุง จ.ชล บุรี โดยมีนายวุฒิศักดิ์ สิงหเดโช นายอำเภอบางละมุง, นายบันลือ กุลละวนิชย์ รองนายกเมืองพัทยา, พร้อมหัวหน้าส่วนราชการ, นำคณะให้การต้อนรับ ซึ่งปัจจุบันทางอำเภอบางละมุงได้มีการจัดเตรียมความพร้อมตามมาตร การคุมเข้มการเดินทางข้ามจังหวัด ข้ามอำเภอ เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 โดยมีการกำหนดจุดตรวจซึ่งสามารถปฏิบัติงานตามคำสั่งได้ทันที เช่นเดียวกับจุดตรวจอีก 5 อำเภอในพื้นที่ จ.ชลบุรี ประกอบไปด้วย อ.เมืองชลบุรี อ.บางละมุง อ.สัตหีบ อ.พนัสนิคม และ อ.บ้านบึง
นายภัครธรณ์ กล่าวถึงสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ว่าขณะนี้ต้องยอมรับว่าปัญหาการแพร่ระบาดนั้นเริ่มสูงขึ้นทุกวัน จึงต้องมีมาตรการในการป้องกันการแพร่ระบาดที่สูงขึ้น โดยจะมีการตั้งจุดตรวจจุดสกัดตั้งแต่แต่เวลา 3 ทุ่มถึงตี 4 ของวันรุ่งขึ้น นับตั้งแต่วันที่ 13 ก.ค.64 เป็นต้นไปจนกว่าจะมีคำสั่งเปลี่ยน แปลง โดยขอความร่วมมือประชาชนให้หลีกเลี่ยง หรือชะลอการเดินทางข้ามพื้นที่จังหวัดในช่วงระยะเวลานี้โดยไม่มีเหตุจำเป็นเพื่อประโยชน์ส่วนรวม ในส่วนของกรณีที่จำเป็นต้องเดินทางข้ามเขตพื้นที่อาจไม่ได้รับความสะดวกในการเดินทางและอาจต้องใช้ระยะเวลามากกว่าปกติ ซึ่งจะเป็นควบคุมการแพร่ระบาดได้อีกทางหนึ่ง หากสถานการณ์ยังไม่ดีขึ้นก็ต้องหามาตรการที่เข้มข้นต่อไป จึงอยากให้ทุกคนหากไม่จำเป็นอย่าเดินทางออกจากบ้านตามเวลาที่กำหนดไว้ เพื่อช่วยกันยับยั้งไม่ให้เกิดการแพร่ระบาด รวมทั้งกำหนดเวลาในการรับประ ทานอาหาร ร้านสะดวกซื้อ รวมทั้งห้างสรรพสินค้า
นอกจากนี้จะมีมาตรการเฝ้าระวังและคัดกรองผู้เดินทางจากพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด หรือพื้นที่สีแดงเข้มจาก 10 จังหวัด โดยในกรณีที่พบผู้เดินทางมาจากจังหวัดที่ระบุไว้ให้นายอำเภอมอบหมายให้กำนัน ผู้ใหญ่บ้านท้องที่ หรือหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการควบคุมตัวและป้องกันโรค โดยการควบคุมไว้สังเกต ณ ที่พัก หรือสถานที่ที่ทางราชการกำหนดไว้เป็นระยะเวลา 14 วัน นับจากวันที่เดินทางเข้ามายังพื้นที่ และให้งดหรือหลีกเลี่ยงการเดินทางไปยังสถานที่ต่างๆ โดยเด็ดขาด และหากภายหลังพบว่ามีการตรวจพบเชื้อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินการแยกกักหรือกักกันตามหลักเกณฑ์หรือแนวทางปฏิบัติด้านสาธารณสุขที่กระทรวงสาธารณ สุขกำหนด
ขณะที่หน่วยงานใด หรือสถานประกอบการใด มีความจำเป็นที่จะต้องให้พนักงานหรือลูกจ้างเดินทางไปกลับระหว่างพื้นที่ควบคุมสูงสุดและเข้มงวด จะต้องได้รับอนุญาตจากคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรีตามหลักเกณฑ์ที่กำหนดในทุกกรณี ในส่วนของการควบคุมการเดินทางและเคลื่อนย้ายแรงงานต่างด้าวให้เป็นไปตามคำสั่งคณะกรรมการโรคติดต่อจังหวัดชลบุรี และให้ดำเนินการตามกฎหมายกับแรงงานต่างด้าวที่ลักลอบเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายรวมทั้งมิให้มีการลักลอบทำผิดกฎหมายในทุกกรณีอย่างเคร่งครัด
นายภัครธรณ์กล่าวว่า สำหรับการแพร่ระบาดในโรงงานได้มีการสุ่มตรวจอยู่แล้ว โดยหากพบผู้ติดเชื้อก็จะให้โรงงานนั้นทำเป็นโรงพยาบาลสนามไปในตัวด้วย โดยจะมีแพทย์ และพยาบาลเข้าไปดูแลอย่างใกล้ชิด พร้อมให้กักตัวเองเป็นเวลา 1 เดือน เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดออกสู่ภายนอก ซึ่งปัจจุบันได้ดำเนินการไปแล้วหลายแห่ง ทำให้แรงงานต่างๆ ไม่ออกมานอกโรงงาน ในส่วนของโรงพยาบาลสนามได้มีการขยายเตียงเพิ่มขึ้นอีกประมาณ 2,500 เตียง ทั้งนี้ต้องยอมรับว่าขณะนี้ผู้ป่วยที่เป็นสีเหลืองและสีแดง ที่เข้ารับการรักษาที่โรงพยา บาลเตียงเกือบเต็มหมดแล้ว ขณะที่ผู้ป่วยสีเขียวยังพอรองรับได้ จึงขอความร่วมมือกับทุกๆ คนช่วยกันยับยั้งไม่ให้เกิดการแพร่ระบาดด้วย
สำหรับสถานการณ์การแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 สาธารณสุข จ.ชลบุรี รายงานว่ามีผู้ติดเชื้อรายใหม่ 459 คน ยอดสะสม 12,490 คน กำลังรักษา 4,404 คน เสียชีวิต 1 คน ยอดเสียชีวิตสะสม 68 คน โดยอำเภอบางละมุงมีผู้ติดเชื้อสูงสุดวันนี้ที่ 129 รายด้วยกัน
ภาพ/ข่าว นิราช/นันฐพล/พิชญ์ฐญา ทิพย์ศรี ผู้สื่อข่าว จ.ชลบุรี
นายพรเทพ เขม้นเขตวิทย์ รายงานจากศูนย์ข่าวภาคตะวันออก