ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัยและจังหวัดตาก ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันนี้ (28 กันยายน 2564) เวลา 08.38 น.พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรีไปประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายในการป้องกันและแก้ไขการเกิดภัยธรรมชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวในที่ประชุมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์ ณ ห้องประชุมโรงเรียนวัดไทยชุมพลอำเภอเมืองสุโขทัย
ต่อจากนั้นพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ฯ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 3,500 ถุง ไปมอบแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมโรงเรียนวัดไทยชุมพล อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ
ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลปากแคว อำเภอเมืองสุโขทัย จังหวัดสุโขทัย จำนวน 5 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้
จังหวัดสุโขทัย แบ่งการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ 86 ตำบล 843 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และร่องลมมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องในพื้นที่จังหวัดสุโขทัย โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มต่ำ ส่งผลให้อ่างเก็บน้ำและลุ่มน้ำสาขาต่างๆ มีปริมาณน้ำสะสมจำนวนมาก ประกอบกับ อ่างเก็บน้ำแม่รำพึง อำเภอบ้านด่านลานหอย จังหวัดสุโขทัย และอ่างเก็บน้ำแม่มอก ในพื้นที่อำเภอเถิน มีน้ำเก็บเต็มปริมาตรความจุ และล้นอาคารระบายน้ำ ส่งผลต่อประชาชนที่อยู่ท้ายน้ำและในพื้นที่ลุ่มต่ำ ทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำไหลหลาก และล้นตลิ่งไหลเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรในพื้นที่อำเภอต่างๆของจังหวัดสุโขทัย จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหายใน 9 อำเภอ 62 ตำบล 330 หมู่บ้าน อาทิ อำเภอเมืองสุโขทัย จำนวน 1,500 ครัวเรือน อำเภอคีรีมาศ จำนวน 800 ครัวเรือน อำเภอบ้านด่านลานหอย จำนวน 300 ครัวเรือน อำเภอทุ่งเสลี่ยม จำนวน 300 ครัวเรือน อำเภอกงไกรลาศ จำนวน 300 ครัวเรือน และอำเภอสวรรคโลก จำนวน 300 ครัวเรือน ราษฎรได้รับความเดือนร้อนและผลกระทบ 7,392 ครัวเรือน
ต่อจากนั้น เวลา 11.15 น. พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี และคณะ เดินทางไปประชุม และติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดตาก โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดและหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์ ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายในการป้องกันและแก้ไขการเกิดภัยธรรมชาติของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปกล่าวในที่ประชุมเพื่อให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องนำไปแนวทางในการแก้ไขสถานการณ์ ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก
เสร็จแล้วพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเรือเอก พงษ์เทพ หนูเทพ องคมนตรี ประธานกรรมการบริหารมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ฯ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,000 ถุงไปมอบแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย กับมอบเงินสงเคราะห์ในการศพ แก่ครอบครัวราษฎรผู้เสียชีวิตจำนวน 2 ราย ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ
ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลไม้งาม อำเภอเมืองตาก จังหวัดตาก จำนวน 5 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดตาก แบ่งการปกครองออกเป็น 9 อำเภอ 63 ตำบล 493 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และร่องลมมรสุมพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ทำให้เกิดฝนตกหนักถึงหนักมากต่อเนื่องในพื้นที่อำเภอต่างๆของจังหวัดตาก โดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบ้านตาก และอำเภอเมืองตาก ทำให้น้ำฝนสะสม น้ำท่วมฉับพลัน น้ำท่วมขัง น้ำไหลหลากเอ่อล้นตลิ่งท่วมบ้านเรือนราษฎรและถนนสายพหลโยธินช่วงหลักกิโลเมตร ที่ 522-532 ฝั่งขาล่อง และช่วงหลักกิโลเมตร ที่ 525-526 หน้าโรงเรียนผดุงปัญญาตาก ก่อนถึงสี่แยกทางหลวงตาก ฝั่งขาเข้า ซึ่งเป็นเส้นทางสายหลักในการเดินทางขึ้น-ลงไปสู่จังหวัดภาคเหนือและจังหวัดใกล้เคียง จากสถานการณ์ดังกล่าวทำให้บ้านเรือนราษฎร สิ่งสาธารณประโยชน์ ถนน สะพาน ได้รับความเสียหายใน 7 อำเภอ ได้แก่ อำเภอเมืองตากม อำเภอบ้านตากม อำเภอวังเจ้าม อำเภอแม่สอดม อำเภอแม่ระมาดม อำเภอพบพระม และอำเภออุ้มผาง รวม 32 ตำบล 100 หมู่บ้าน ราษฎรเสียชีวิต 2 ราย ปัจจุบันสถานการณ์คลี่คลายแล้ว เหลือในบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มต่ำ
ทั้งนี้ ผู้ว่าราชการจังหวัดฯ ในฐานะผู้บัญชาการเหตุการณ์ ได้กำชับให้หัวหน้าส่วนราชการและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องประสานความร่วมมือกับหน่วยงานภาครัฐ เอกชน องค์กร มูลนิธิ และจิตอาสาพระราชทาน เร่งระดมให้ความช่วยเหลือเป็นการเฉพาะหน้าอย่างเร่งด่วน กับเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และเตรียมความพร้อมด้านบุคลากร เครื่องมือ เครื่องจักร สำหรับเข้าช่วยเหลือผู้ประสบภัยได้ทันการณ์ พร้อมทั้งให้เร่งสำรวจความเสียหายเพื่อให้ความช่วยเหลือเยียวยาเป็นการเร่งด่วน เพื่อให้ประชาชนได้กลับมาใช้ชีวิตตามปกติ ต่อไป