ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชัยนาท ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราช ทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันนี้ 7 ตุลาคม 2564) เวลา 10.50 น. พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรีไปประชุมและติดตามการแก้ไขสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดชัยนาท โดยมีนายนายรังสรรค์ ตันเจริญ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องเข้าร่วมประชุมและรายงานสถานการณ์
ณ ห้องประชุมศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว อำเภอสรรพยา
ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว เกี่ยวกับการป้องกันและแก้ไขสถานการณ์การเกิดภัยพิบัติ ทางธรรมชาติไปกล่าวในที่ประชุม เพื่อให้หัวหน้าส่วนราชการต่างๆที่เกี่ยวข้องน้อมนำไปปรับใช้ในการกำหนดแผนและเตรียมการให้ความช่วยเหลือประชาชน กับลงพื้นที่ดูประตูระบายน้ำของเขื่อนเจ้าพระยา และให้คำแนะนำในการส่งต่อข้อมูลระหว่างหน่วยงานเพื่อนำไปแจ้งเตือนให้ประชาชนได้ทราบแบบเข้าใจง่าย
และทบทวนการปฏิบัติว่ามีข้อบกพร่องตรงจุดใดบ้างเพื่อนำมาปรับปรุงแก้ไขไม่ให้เกิดซ้ำอีก
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ดาว์พงษ์ รัตนสุวรรณ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทาน และเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 2,528 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย ณ หอประชุมศูนย์การเรียนรู้และพัฒนาแหล่งท่องเที่ยว อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบอุทกภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัย และครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยและได้รับผลกระทบ ได้รับทราบ
ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ครอบครัวผู้ประสบอุทกภัยที่ตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำ และย้ายขึ้นมาอยู่บนถนนริมคลองส่งน้ำกรมชลทาน ในพื้นที่หมู่ที่ 1 ตำบลบางหลวง อำเภอสรรพยา จังหวัดชัยนาท จำนวน 10 ครอบครัว ตลอดจนพูดคุยให้กำลังใจ ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ที่ได้รับพระราชทานพระมหากรุณาในครั้งนี้
จังหวัดชัยนาท แบ่งการปกครองออกเป็น 8 อำเภอ 51 ตำบล 505 หมู่บ้าน ได้รับอิทธิพลจากพายุโซนร้อน “เตี้ยนหมู่” และโกนเซิน ที่อ่อนกำลังเป็นพายุดีเปรสชันแผ่ปกคลุมประเทศไทย ทำให้เกิดฝนตกหนักติดต่อกันในภาคต่างๆ โดยเฉพาะในภาคเหนือและพื้นที่ต่างๆของจังหวัดชัยนาท ประกอบกับเป็นที่ตั้งของเขื่อนเจ้าพระยา ทั้งยังเป็นต้นน้ำของแม่น้ำท่าจีน แม่น้ำน้อย และคลองชลประทานไหลผ่านพื้นที่อำเภอต่างๆ ซึ่งมีความสำคัญต่อการเกษตร และตัวเขื่อนเจ้าพระยา ยังเป็นพื้นที่รับน้ำจากแม่น้ำถึง 4 สาย (ปิง วัง ยม น่าน) จึงต้องมีการบริหารจัดการน้ำทั้งเหนือเขื่อนและท้ายเขื่อน ทำให้ส่งผลกระทบกับจังหวัดและอำเภอที่อยู่เหนือเขื่อนและท้ายน้ำ
สำหรับจังหวัดชัยนาท เกิดน้ำล้นตลิ่ง น้ำไหลหลาก ท่วมบ้านเรือนราษฎร และสิ่งสาธารณประโยชน์ได้รับความเสียหายใน 8 อำเภอ 50 ตำบล 377 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อน 8,373 ครัวเรือน ราษฎรเสียชีวิต 1 ราย พื้นที่ทางการเกษตรได้รับความเสียหาย 138,019 ไร่ ปัจจุบัน สถานการณ์คลี่คลายแล้ว เหลือในบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มต่ำ และพื้นที่ที่ราษฎรตั้งบ้านเรือนอาศัยอยู่นอกคันกั้นน้ำ ยังคงถูกน้ำท่วมขังและเฝ้าระวัง