ข่าวใหม่อัพเดท » บก.ตม.4 จับกุมผู้กระทำความผิด​ และคดีสำคัญที่น่าสนใจ 3 คดี

บก.ตม.4 จับกุมผู้กระทำความผิด​ และคดีสำคัญที่น่าสนใจ 3 คดี

8 สิงหาคม 2019
0

          วันนี้​ วัน​พฤหัสบดี​ที่​ 8​ ส.ค.62​ เวลา​ 10.30​ น.ณ ห้องประชุมมหาเมฆ ชั้น 4 อาคาร 1 สตม.(สวนพลู) : พล.ต.ท.สมพงษ์ ชิงดวง ผบช.สตม.พร้อมด้วย พล.ต.ต.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย รอง ผบช.สตม.,พล.ต.ต.สรายุทธ สงวนโภคัย รองผบช สตม.​ ได้สั่งการให้ พล.ต.ต.ณัฐวัฒน์ การดี ผบก.ตม.4, พ.ต.อ.พิชญ์วุฒิ สงวนสมบัติศิริ รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.นิธิศ ปิติธีรโชติ รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รอง ผบก.ตม.4,พ.ต.อ.เศรษฐภัทร ณ สงขลา ผกก.สส.บก.ตม.4 ร่วมแถลงข่าวผลการปฏิบัติและการจับกุมคดีชาวต่างชาติกระทำความผิดที่น่าสนใจ 3 คดี

          1.กก.สส.บก.ตม.4 ร่วมกับตม.จ.ขอนแก่น ได้ร่วมกันจับกุมตัวผู้ต้องหาตามหมายจับในคดี ค้ามนุษย์ ดังนี้​ ตม.จ.ขอนแก่น และ กก.สส.บก.ตม.4 ได้รับการประสานข้อมูลจาก สภ.บ้านไผ่ ว่ามีกรณีชาวต่างชาติสัญชาติญี่ปุ่น มีพฤติกรรมเรียกเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี มาให้บริการทางเพศ ที่โรงแรม อินภาวา อ.บ้านไผ่ จ.ขอนแก่น จึงได้ร่วมกันออกสืบสวนจนทราบว่า มีนายพีรพงษ์ อายุ 57 ปี ได้ทำการติดต่อเด็กหญิงอายุต่ำกว่า 18 ปี ไปให้บริการทางเพศกับ นายคาซูโอะ (MR.KAZUO) อายุ 69 ปี ชาวญี่ปุ่น แล้วให้เงินเป็นค่าตอบแทน ครั้งละ​ 10,000 บาท และสืบสวนจนพบเด็กหญิงอายุ 15-16 ปี จำนวน 2 คน ที่เคยถูกติดต่อให้ไปให้บริการทางเพศกับ นายคาซูโอะฯ หลายครั้ง และเด็กหญิงดังกล่าวต้องการร้องทุกข์ดำเนินคดีตามกฎหมาย

          ตม.จ.ขอนแก่น และ กก.สส.บก.ตม.4 จึงได้ร่วมกันติดตามตัวเด็กหญิงทั้ง 2 คน จนพบว่า คือ น.ส.เอ (นามสมมติ) อายุ 16 ปี และ น.ส.บี (นามสมมติ) อายุ 15 ปี และได้ติดต่อผู้ปกครองของเด็กทราบ เพื่อให้มาร้องทุกข์ที่ กก.สส.บก.ตม.4 จึงได้พาผู้ปกครองและเด็กทั้ง 2 คน มาที่ กก.สส.บก.ตม.4 เพื่อร้องทุกข์และให้พบกับเจ้าหน้าที่พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ จ.ขอนแก่น เพื่อทำการพูดคุย สัมภาษณ์ เพื่อคัดแยกเหยื่อ ซึ่งเจ้าหน้าที่ พม. พิจารณาแล้วทราบว่า กรณี น.ส.บี เคยได้รับการติดต่อไปให้บริการทางเพศกับ นายคาซูโอะฯ ครั้งแรกเมื่อประมาณกลางปี พ.ศ.2561 ต่อเนื่องมาจนถึงเดือน เม.ย.2562 รวม 5 ครั้ง และ ทุกครั้งจะได้เงินค่าตอบแทนจำนวน 10,000 บาท จากนั้นได้แบ่งเงินจำนวน 5,000 บาทให้กับนายพีรพงษ์ฯ ส่วน น.ส.เอฯ เคยได้รับการติดต่อไปให้บริการทางเพศกับ นายคาซูโอะฯ ประมาณเดือน พ.ค.2562

          ตามพฤติการณ์และการกระทำของนายพีรพงษ์ และนายคาซูโอะ เป็นความผิดเกี่ยวกับการค้ามนุษย์​ จนท.กก.สส.บก.ตม.4 จึงได้นำภาพถ่ายของนายพีรพงษ์ฯ ที่ได้จากการสืบสวน ให้เด็กหญิงทั้ง 2 คน ดูว่าเป็นบุคคลที่ติดต่อให้ตนไปให้บริการทางเพศกับนายคาซูโอะฯ หรือไม่ และให้ดูภาพนายคาซูโอะฯ ว่าเป็นชาวญี่ปุ่นที่ให้เด็กหญิงทั้ง 2 คน ไปให้บริการทางเพศแล้วให้เงินเป็นค่าตอบแทนหรือไม่ ปรากฏว่าเด็กหญิงทั้ง 2 คน ยืนยันตรงกันว่าใช่ จึงได้นำข้อมูลทั้งหมดจากการสืบสวนไปขออำนาจศาลจังหวัดพล อ.พล จ.ขอนแก่น เพื่อออกหมายจับนายพีรพงษ์ฯ และนายคาซูโอะฯ ต่อมาศาลจังหวัดพล ได้อนุมัติหมายจับที่ 82/2562 ลง 6 ส.ค.62 ให้จับนายพีรพงษ์ฯ และหมายจับที่ 83/2562 ลง 6 ส.ค. 62 ให้จับนายคาซูโอะฯ จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.จ.ขอนแก่น,กก.สส.บก.ตม.4,กก.4 บก.สส.สตม. และ สภ.บ้านไผ่ จึงได้ร่วมกันสืบสวนหาตัวบุคคลทั้ง 2 คน

     จนทราบว่าบุคคลทั้ง 2 พักอยู่ที่โรงแรมแกลเลอรี่ เลควิว ต.ในเมือง อ.เมือง จ.ขอนแก่น จึงได้เดินทางไปตรวจสอบพบนายคาซูโอะฯ และ นายสยุมภูว์ฯ เดินมาพร้อมกับ น.ส.ซี (นามสมมติ) อายุ 17 ปี จึงได้แสดงตัวเพื่อจับนายคาซูโอะฯ ตามหมายจับ เจ้าหน้าที่ชุดจับกุมจึงได้สอบถามทราบว่านายสยุมภูว์ฯ ได้นำ น.ส.ซีฯ มาส่งที่ห้องพักของนายคาซูโอะฯ สอบถาม น.ส.ซีฯ ทราบว่า นายสยุมภูว์ฯ ได้นำมาพบนายคาซูโอะฯ เพื่อร่วมหลับนอนกับนายคาซูโอะฯ โดยจะให้ค่าตอบแทนจำนวน 5,000 บาท แต่ยังไม่ได้รับ จึงได้นำตัวบุคคลทั้งสามมาที่ กก.สส.บก.ตม.4 และหลังจากนั้น จนท.ชุดจับกุมได้ตรวจสอบพบ นายพีรพงษ์ฯ อยู่ที่โรงแรมด้วย จึงได้ร่วมกันจับตามหมายจับแล้วควบคุมตัวส่ง พงส.กก.สส.บก.ตม.4 ต่อไป​ โดยพฤติการณ์ของนายสยุมภูว์ฯ เป็นความผิดฐานค้ามนุษย์ จึงได้ขออนุมัติหมายจับต่อศาลจัง     หวัดขอนแก่น แล้วจับกุมตัวส่ง พงส.กก.สส.บก.ตม.4 ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

     2.ตม.จ.หนองบัวลำภู ได้ร่วมกันจับกุมตัว MR.NJEI อายุ 32 ปี สัญชาติแคเมอรูน ข้อหาเป็น คนต่างด้าวอยู่ในราชอาณาจักรโดยการอนุญาตสิ้นสุด (อยู่เกิน 1,691 วัน) และทำงานโดยไม่มีใบอนุญาตทำงานพฤติการณ์กล่าวคือ ด้วยเจ้าหน้าที่ ตม.จ.หนองบัวลำภู ได้รับแจ้งเบาะแสจากแหล่งข่าวว่ามีคนต่างด้าวลักลอบประกอบอาชีพเป็นครูในโรงเรียนเอกชนสอนภาษาต่างประเทศอยู่ที่โรงเรียนแสนภักดี ซึ่งตั้งอยู่​ ต.ศรีบุญเรือง อ.ศรีบุญเรือง​ จ.หนองบัวลำภู จึงได้ประสานบูรณาการร่วมกับจัดหางานจังหวัดหนองบัวลำภู และกองกำกับการสืบสวนตำรวจภูธรจังหวัดหนองบัวลำภู เข้าตรวจสอบโดยในการปฏิบัติการครั้งนี้ ตม.จ.หนองบัวลำพู ได้นำรถตรวจการณ์อัจฉริยะ (MOBILE) ออกร่วมภารกิจ

          ผลการตรวจสอบพบคนต่างด้าวรายนี้ กำลังสอนภาษาต่างประเทศให้กับนักเรียน จากการตรวจสอบคนต่างด้าวไม่แสดงเอกสารประจำตัวและใบอนุญาตทำงาน สอบถามคนต่างด้าวรับว่าทำงานเป็นครูสอนภาษาอังกฤษ ที่โรงเรียนแสนภักดี มาแล้วเป็นเวลา 2 เดือน ได้ค่าจ้างเดือนละ 15,000 บาท จากนั้นเจ้าหน้าที่ ตม.จว.หนองบัวลำพู จึงนำข้อมูลของคนต่างด้าวมาตรวจสอบโดยใช้รถตรวจการณ์อัจฉริยะ (MOBILE) พบว่าคนต่างด้าวได้เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักร เมื่อวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 2558 จนครบกำหนดอนุญาตแล้วไม่เดินทางออกนอกราชอาณาจักรภายในกำหนด แต่ได้ลักลอบอยู่ในราชอาณาจักรไทยโดยการอนุญาตสิ้นสุด (OVERSTAY) เป็นเวลา 1,691 วัน

          3.ตม.จ.สุรินทร์ ได้ร่วมกันจับกุมนายอัดนัน อายุ 43 ปี สัญชาติเยเมน กรณีมีพฤติการณ์น่าเชื่อว่า เป็นบุคคลต้องสงสัยในการวางแผนยัดยาเสพติด น.ส.วิลาวัลย์ฯ อดีตแฟนสาวชาวไทย​ พฤติการณ์กล่าวคือ เมื่อวันที่ 21​ มกราคม 2562 ได้มีผู้มาติดต่อ สภ.ดม จ.สุรินทร์ แจ้งว่า รถยนต์กระบะ คันทะเบียน บย 5042 สุรินทร์ ซึ่งเป็นรถยนต์ที่มี น.ส.วิลาวัลย์ฯ เป็นผู้ครอบครอง โดยมี นายอุดรฯ ซึ่งเป็นญาติของ น.ส.วิลาวัลย์ฯ เป็นผู้ใช้รถขนส่ง​ ดอกดาวเรืองมียาบ้าซุกซ่อนไว้ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงได้ขอ นายอุดรฯ เข้าทำการตรวจค้นรถคันดังกล่าว

          ผลการตรวจค้นพบยาบ้า จำนวน 135 เม็ด บรรจุอยู่ในถุงพลาสติกมัดด้วยลวดห้อยอยู่กันชนหลังรถกระบะ นายอุดรฯ ยืนยันว่าตนไม่เคยมีส่วนเกี่ยวข้องกับยาเสพติดมาก่อน โดย นายอุดรให้ข้อมูลกับเจ้าหน้าที่ว่า ก่อนหน้านี้ เมื่อวันที่ 20 มกราคม 2562 มีพระสงฆ์ กับ บุคคลธรรมดา อีก 2-3 คน มาทำทีขอซื้อดอกดาวเรือง และ ขอความช่วยเหลือ บอกว่ารถติดหล่ม นายอุดรฯ​ ได้ขับรถยนต์กระบะ คันทะเบียน บย 5042 สุรินทร์ ไปให้การช่วยเหลือ โดยในระหว่างให้การช่วยเหลือนั้นพบว่ามีบุคคลมาก้มๆ เงยๆ ที่บริเวณรถของตน ต่อมาเมื่อวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 น.ส.วิลาวัลย์ฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจกองกำกับการสืบสวน ภ.จ.พังงา ร่วมกันจับกุมตัว พร้อมของกลางยาบ้า (เมทแอเฟตามีน) จำนวน 55 เม็ด บรรจุในหลอดสีเขียว ซุกซ่อนไว้ในกระเป๋าเดินทางของ น.ส.วิลาวัลย์ฯ ดำเนินคดีในข้อหา “เสพและมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” โดย น.ส.วิลาวัลย์ฯ ให้การปฏิเสธว่ายาบ้า จำนวน 55 เม็ด ดังกล่าวนั้น ไม่ใช่ยาบ้าของตน และยังได้ให้ข้อมูลกับทางเจ้าหน้าที่ตำรวจว่า

          ก่อนเกิดเหตุในคดีนี้ น.ส.วิลาวัลย์ฯ เคยคบหาอยู่กินกันฉันท์สามีภรรยากับนายอัดนัน สัญชาติเยเมน ต่อมาตนและนายอัดนัน มีการฟ้องร้องคดีแพ่งในข้อหาผิดสัญญาเรียกเงินคืน ผลคดีปรากฏว่าศาลแพ่งยกฟ้องทำให้นายอัดนันฯ โกรธแค้น น.ส.วิลาวัลย์ฯ ซึ่งก่อนถูกจับกุมไม่นาน กล่าวคือ เมื่อวันที่ 14 กุมภาพันธ์ 2562 ซึ่งเป็นวันคล้ายวันเกิดของ น.ส.วิลาวัลย์ฯ นายอัดนันฯ มาทำทีขอคืนดี และชวนกันมาพักผ่อนที่พัทยา จ.ชลบุรี และ จ.พังงา โดยบอกว่าจะให้เงินจำนวน 500,000 บาท เป็นของขวัญวันเกิด น.ส.วิลาวัลย์ฯ หลงเชื่อ จึงได้เดินทางไปพักผ่อนด้วย

          แต่เมื่อ น.ส.วิลาวัลย์ฯ เดินทางไปพักผ่อนกับ นายอัดนันฯ ตามตกลง ก็ไม่ได้รับเงินจำนวน 500,000 บาท แต่อย่างใด กลับได้รับเงินเพียง 28,000บาท และได้แยกย้ายกันที่ จ.พังงา ในวันที่ 19 กุมภาพันธ์ 2562 โดย น.ส.วิลาวัลย์ฯ ขึ้นรถแท็กซี่แยกกันคนละคันกับนายอัดมัน เพื่อเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต เพื่อเดินทางกลับบ้านที่ จ.สุรินทร์ ซึ่งในขณะเดินทางไปยังท่าอากาศยานนานาชาติภูเก็ต น.ส.วิลาวัลย์ฯ ถูกเจ้าหน้าที่ตำรวจจับกุมดำเนินคดีเนื่องจากมียาเสพติดในครอบครองเพื่อจำหน่าย โดย น.ส.วิลาวัลย์ฯ เชื่อว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นการวางแผนกลั่นแกล้งตนเพื่อให้ถูกดำเนินคดี และเชื่อว่า นายอัดนัน มีส่วนเกี่ยวข้อง

          ทั้งคดีที่ จ.สุรินทร์ และ จ.พังงา จากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม เกี่ยวกับกรณีที่มีการตรวจพบยาบ้า จำนวน 135 เม็ด ที่รถยนต์กระบะ คันทะเบียน บย 5042 สุรินทร์ นั้น เชื่อได้ว่าเป็นการที่ นายศรชัยฯ,นายสมบัติฯ,นายทยานฯ และ นายไลย์ฯ (พระสงฆ์ปลอม) ได้ร่วมกัน นำยาบ้าไปผูกไว้ที่รถยนต์ คันทะเบียน บย 5042 สุรินทร์ และร่วมกันแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับความผิดทางอาญา เพื่อให้ นายอุดรฯ และ น.ส.วิลาวัลย์ฯ ได้รับโทษทางอาญา โดยมี นายอัดนันฯ เป็นผู้จ้างวาน

          ซึ่งร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จกลั่นแกล้ง น.ส.วิลาวัลย์ฯ เพื่อให้ได้รับโทษทางอาญา อีกเช่นกัน พนักงานสอบสวนจึงได้มีการขอศาลจังหวัด ตะกั่วป่าออกหมายจับนายอัดนันฯ ในข้อหา “ทำพยานหลักฐานอันเป็นเท็จเพื่อให้พนักงานสอบสวนเชื่อว่ามีความผิดอาญาเกิดขึ้น ที่มีระวางโทษจำคุกตลอดชีวิต” ตามหมายจับศาลจังหวัดตะกั่วป่าที่ 18/2562 ต่อมาวันที่ 17 กรกฎาคม 2562 เจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ดม และเจ้าหน้าที่ ตม.จ.สุรินทร์ ได้ทำการสืบสวนทราบว่า นายอัดนันฯ มาอยู่ที่บ้านเลขที่ 129 หมู่ที่ 2 ต.ตาตุม อ.สังขละ จ.สุรินทร์ จึงได้ร่วมกันเข้าตรวจสอบและทำการจับกุม นายอัดนันฯ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

          พล.ต.ท.สมพงษ์​ฯ​ กล่าวว่า​ ขอเรียนให้ท่านทราบว่า สตม.มีมาตรการในการตรวจสอบ กวดขัน และปราบปรามการกระทำความผิดในด้านต่างๆ รวมทั้งดำเนินการตรวจสอบชาวต่างชาติที่มีพฤติกรรมไม่เหมาะสม กระทำผิดกฎหมาย ก่อเหตุอันตรายต่อความสงบสุขและความปลอดภัยในชีวิตทรัพย์สินของประชาชน

          พนักงานสอบสวนจึงได้ขอศาลจังหวัดสุรินทร์ ออกหมายจับ นายอัดนันฯ ในข้อหา “ร่วมกันมียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย และแจ้งข้อความอันเป็นเท็จเกี่ยวกับการกระทำผิดอาญาแก่เจ้าพนักงาน ผู้มีอำนาจสืบสวนคดีอาญา ซึ่งอาจทำให้ผู้อื่นได้รับความเสียหายอันเป็นการเพื่อจะแกล้งให้บุคคลใดต้องรับโทษ หรือรับโทษหนักขึ้น” ไว้ตามหมายจับศาลจังหวัดสุรินทร์ ที่ 68/2562 และจากการสืบสวนสอบสวนรวบรวมพยานหลักฐาน ของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เขาหลัก เกี่ยวกับ กรณีที่ น.ส.วิลาวัลย์ฯ ถูกจับกุมดำเนินคดีในข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภทที่ 1 (เมทแอมเฟตามีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยผิดกฎหมาย” นั้น เชื่อได้ว่าเป็นการที่ นายอัดนันฯ

*******************************

สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!