วช. จับมือ GISTDA และกรมโรงงานฯ ลงนาม MOU ชูศักยภาพเทคโนโลยีภูมิสารสนเทศ รับมือสถานการณ์ฉุกเฉิน และโรคอุบัติใหม่
วันที่ 7 ธันวาคม 2564 กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) โดยสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) ร่วมกับ สำนักงานพัฒนาเทคโนโลยีอวกาศและภูมิสารสนเทศ (องค์การมหาชน) หรือ GISTDA และกรมโรงงานอุตสาหกรรม (กรอ.) ลงนามบันทึกความเข้าใจ ว่าด้วยความร่วมมือเพื่อการบริหารจัดการ การผลิต การลดผลกระทบด้านภัยพิบัติ สิ่งแวดล้อม รวมถึงการบริหารสถานการณ์ต่างๆ และโรคอุบัติใหม่ในโรงงานอุตสาหกรรม โดยมี รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวง (อว.) และนายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม ร่วมเป็นประธานในพิธี ณ โรงแรมพูลแมน คิงเพาเวอร์ ถนนรางนา กรุงเทพฯ
ในโอกาสนี้ รศ.ดร.พาสิทธิ์ หล่อธีรพงศ์ รองปลัดกระทรวง (อว.) ได้กล่าวแสดงความยินดีว่า การตัดสินใจบนภาวะวิกฤติของประเทศ ข้อมูลถือเป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งข้อมูลจากอวกาศจะช่วยให้เราเห็นภาพกว้าง ภาพใหญ่ ที่สามารถช่วยบริหารภาวะวิกฤติให้ดียิ่งขึ้นโดยไทยได้ประสบกับภาวะการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนามาตลอดสองปี อีกทั้งเหตุระเบิดของโรงงานสารเคมี ที่จังหวัดสมุทรปราการ ยังทำให้เกิดวิกฤติซ้ำซ้อน ภาคแรงงานในโรงงานอุตสาหกรรมได้รับผลกระทบ ซึ่งเป็นหน้าที่ของทุกหน่วยงานที่จะบูรณาการการทำงานร่วมกัน ด้วย อว.ประกอบไปด้วยหน่วยงานสนับสนุนงานวิจัยและนวัตกรรมที่ตอบโจทย์ประเทศในหลายๆ ด้าน โดยเฉพาะสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ และหวังว่าจะเกิดความร่วมมือเช่นนี้เพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ต่อจากนี้
นายวันชัย พนมชัย อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม กล่าวว่า กรมโรงงานฯ ตระหนักและให้ความสำคัญเป็นอย่างมากกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมถึงเหตุการณ์ภัยพิบัติต่างๆ ด้วยข้อมูลจากGISTDA จะเป็นการแจ้งเตือนให้กับกรมโรงงานฯในการรับมือกับสถานการณ์ต่างๆ เนื่องจากโรงงานจะตั้งอยู่ในเขตชุมชน เช่น การวางแผนอพยพหากเกิดสารเคมีรั่วไหลในโรงงาน การใช้ฐานข้อมูลด้านผู้ติดเชื้อโควิด-19 สถานการณ์น้ำท่วมโรงงานและชุมชน เป็นต้น ซึ่งความร่วมมือกันในครั้งนี้จะช่วยในการบริหารจัดการโรงงานอุตสาหกรรมทางทั้งด้านสิ่งแวดล้อม อุตสาหกรรม สารเคมีและวัตถุอันตราย ให้เกิดความปลอดภัย และลดผลกระทบด้านภัยพิบัติสิ่งแวดล้อมทั้งทางบก ทางน้ำและทางอากาศ รวมถึงการบริหารสถานการณ์ต่างๆ ทั้งโรคอุบัติใหม่ที่มีต่อโรงงานอุตสาหกรรมทั่วประเทศได้ทันต่อเหตุการณ์ สามารถวางแผน พัฒนา ติดตามและแก้ไขปัญหาให้สอดคล้องกับยุทธศาสตร์ของกรมโรงงานฯ ที่วางไว้ สามารถยกระดับขีดความสามารถทางการแข่งขันของภาคอุตสาหกรรม ตามกรอบความร่วมมือที่เราจัดทำในวันนี้
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวเสริมว่า (วช.) ภายใต้กระทรวง (อว.) ได้ให้ความสำคัญกับการสนับสนุนการพัฒนาเชิง platform โดยความร่วมมือในครั้งนี้ของทั้ง 3 หน่วยงาน GISTDA จะได้วางโครงสร้างของระบบ ในการเป็นต้นแบบ Demand site ตอบโจทย์ความต้องการของกรมโรงงานอุตสาหกรรม เมื่อแล้วเสร็จจะมีการขยายผลออกมาในเชิงประจักษ์ เพื่อสร้างความเชื่อมั่นในมาตรฐานของระบบ ในอนาคตจะได้เห็นภาพของการทำงานที่ใหญ่ขึ้น ทางกรมโรงงานฯจะได้รับ Role model ไปขยายผลในพื้นที่ได้อย่างกว้างขวาง ความร่วมมือกันในครั้งนี้เราจะระดมสรรพกำลังที่มีอยู่ เพื่อส่งเสริมและ สนับสนุนให้ภารกิจบรรลุตามเป้าหมาย
ขณะที่ ดร.ปกรณ์ อาภาพันธุ์ ผู้อำนวยการ GISTDA กล่าวทิ้งท้ายว่า ที่ผ่านมา GISTDA ได้ร่วมมือกับกรมโรงงานอุตสาหกรรม และ (วช.) ในการติดตามสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 และเหตุการณ์ไฟไหม้โรงงาน ย่านกิ่งแก้ว เมื่อช่วงเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เป็นต้น โดยครั้งนี้ทั้ง 3 หน่วยงานจะร่วมกันประยุกต์ใช้เทคโนโลยี อวกาศและภูมิสารสนเทศในการศึกษา วิจัย พัฒนา และจัดทำฐานข้อมูลเชิงพื้นที่ รวมถึงส่งเสริม และพัฒนาองค์ความรู้ในการใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดังกล่าว เพื่อการพัฒนาต้นแบบการเฝ้าระวังและลดผลกระทบการแพร่ระบาดโรคโควิด-19 และการบริหารสถานการณ์ฉุกเฉินจากภัยพิบัติที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคตกับโรงงานขนาดใหญ่ ที่มีแรงงานจำนวนมาก โดยการพัฒนาต้นแบบดังกล่าว จะสามารถตรวจสอบข้อมูลย้อนกลับได้ และมีความทันสมัยเป็นปัจจุบัน เพื่อตอบสนองความต้องการของผู้ใช้งานอย่างทันท่วงที อีกทั้งยังใช้กำหนดมาตรการ ป้องกันการควบคุมสถานการณ์การแพร่กระจายและลดผลกระทบได้อย่างมีประสิทธิภาพและประสิทธิผลสูงสุด
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน