ด้วยพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วง ใยราษฎรที่ประสบอุทกภัยจากภัยธรรมชาติในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบเหตุอุทกภัยและผู้ได้รับผลกระทบ
วันนี้ 13 ธันวาคม 2564 เวลา 08.30 น. พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ไปประชุมและติดตามสถานการณ์การเกิดอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ ห้องประชุมที่ว่าการอำเภอปากพนัง โดยมีนายไกรศร วิศิษฎ์วงศ์ ผู้ว่าราชการจังหวัด และหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุมรายงานสถานการณ์และแนวทางการแก้ปัญหาการเกิดอุทกภัยอย่างยั่งยืนต่อไป
ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้ พลเอก ไพบูลย์ คุ้มฉายา องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 3,031 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอต่างๆ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่จังหวัดนครศรีธรรมราช ณ ศาลาประชาคมที่ว่าการอำเภอปากพนัง จังหวัดนครศรีธรรมราชเพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้นและเป็นขวัญกำลังใจ
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวให้ราษฎรที่ประสบเหตุอุทกภัย กับผู้ที่ได้รับผลกระทบรวมถึงเจ้าหน้าที่ ให้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบอุทกภัยในพื้นที่ตำบลปากพนังตะวันตก อำเภอปากพนัง และครอบครัวราษฎรในพื้นที่ตำบลบางลึก อำเภอเมือง นครศรี ธรรมราช ซึ่งเป็นผู้สูงอายุและผู้ป่วยติดเตียงพร้อมทั้งพูดคุยสร้างขวัญกำลังใจ เพื่อให้สามารถดำรงชีวิตได้ตามปรกติสุขต่อไป ราษฎรต่างปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดนครศรีธรรมราช แบ่งการปกครองออกเป็น 23 อำเภอ 170 ตำบล 1,428 หมู่บ้าน
ได้รับอิทธิพลจากความกดอากาศสูงทวีความรุนแรงแผ่ปกคลุมภาคใต้ ส่งผลทำให้เกิดฝนตกต่อเนื่องเป็นวงกว้างในพื้นที่ต้นน้ำ และลุ่มน้ำสาขาต่างๆของจังหวัดนครศรีธรรมราช ตั้งแต่วันที่ 10 พฤศจิกายน ถึงวันที่ 5 ธันวาคม 2564 ทำให้เกิดน้ำป่าไหลหลาก น้ำล้นตลิ่ง และน้ำท่วมฉับพลัน เข้าท่วมบ้านเรือนราษฎร พื้นที่ทางการเกษตร สิ่งสาธารณประโยชน์ และทรัพย์สินราษฎร ได้รับความเสียหายใน 21 อำเภอ 122 ตำบล 988 หมู่บ้าน ราษฎรได้รับความเดือดร้อนและผลกระทบ 85,361 ครัวเรือน และราษฎรอำเภอลานสกา เสียชีวิต 1 ราย
ขณะนี้สถานการณ์โดยรวมคลี่คลายสู่ภาวะปกติแล้ว เหลือบางพื้นที่ที่เป็นที่ลุ่มต่ำและพื้นที่รับน้ำยังถูกน้ำท่วมขัง โดยผู้ว่าราชการจังหวัด ได้สั่งการให้หน่วยงานต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง และประสานขอร่วมมือภาคเอกชน มูลนิธิ องค์กร และจิตอาสาพระราชทาน ระดมเข้าให้ความช่วยเหลือในเบื้องต้น และเร่งสำรวจความเสียหาย เพื่อให้ช่วยเหลือและเยียวยา ให้ราษฎรกลับมาใช้ชีวิตประกอบสัมมาอาชีพได้ตามปกติสุข ต่อไปโดยเร็ว