ประจวบฯ – จับหนุ่มเมียนมาร์รับจ้างกรีดยางบังหน้าแอบค้าแรงงานเถื่อนรวม 23 คน
เมื่อเวลาประมาณ 03.00 น. วันที่ 25 ธ.ค.64 พ.ต.อ.สุธี วรรณสูตร ผกก.สภ.เมืองประจวบ คีรีขันธ์ พร้อมด้วย พ.ต.ท.ชุมพล บางจันทร์ทึก รอง ผกก.ปราบปรามฯ นำเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ. เมืองประจวบ ร่วมกับเจ้าหน้าที่ทหารหน่วยเฉพาะกิจจงอางศึก, กองกำลังสุรสีห์, ตำรวจตระเวนชายแดนที่ 146, ตำรวจตรวจคนเข้าเมืองด่านสิงขร, กำลังเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง, อปพร., ชรบ. ประจำหมู่บ้าน ร่วมกันจัดชุดลาดตระเวนเฝ้าระวังตามแผนสกัดกั้นบุคคลต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมายตามแนวชายแดนไทยเมียนมาร์ ตามข้อสั่งการของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ โดย พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร., พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผบช.ภ.7, พล.ต.ต.วันชัย ธารณธรรมผบก.ภ.จว.ประจวบคีรีขันธ์ ซึ่งได้รับนโยบายจากรัฐบาล ที่นำโดย พลเอกประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และพลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ ฝ่ายความมั่นคงให้หน่วยงานความมั่นคง ในแต่ละพื้นที่ที่มีเขตติดต่อชายแดนกับประเทศเพื่อนบ้าน เพิ่มความเข้มข้นในการเฝ้าระวังพื้นที่ตามแนวชายแดนและพื้นที่ตอนใน เพื่อสกัดกั้นแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมืองโดยผิดกฎหมาย และเป็นช่องทางในการนำเชื้อโควิด 19 เข้ามาแพร่ระบาดในประเทศ
โดยได้พบกลุ่มบุคคลต่างด้าวชาวเมียนมาร์ ชาย-หญิง จำนวน 23 คน หลบซ่อนตัวอยู่ในบริเวณสวนยางพารา หมู่ที่ 3 บ้านหนองขาม ตำบลเกาะหลัก อำเภอเมือง จังหวัดประจวบ คีรีขันธ์ จึงได้ควบคุมตัวทั้งหมดตรวจสอบพบว่าเป็นชาย 20 คน หญิง 3 คน โดยมีผู้นำพาเป็นชาย 1 คน เจ้าหน้าที่จึงได้ตรวจคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายเบื้องต้นก่อนนำตัวแรงงานชาวเมียนมาร์ จำนวน 22 คน มาควบคุมตัวไว้ที่อาคารไม้ศูนย์คัดแยกเหยื่อจากการค้ามนุษย์ด้านหลัง สภ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ เพื่อรอประสานเจ้าหน้าที่สาธารณสุขมาเก็บตัวอย่างตรวจหาเชื้อ covid 19 ตามลำดับ พร้อมกับควบคุมตัวไว้ดูอาการ 14 วัน ณ สถานกักกันรูปแบบเฉพาะองค์กร(OQ) ที่วัดวิเวกการาม หมู่ 6 ตำบลคลองวาฬ และจัดเจ้าหน้าที่เวรรักษาความปลอดภัยป้องกันการหลบหนีตลอด 24 ชั่วโมง ก่อนที่จะนำตัวเข้าสู่กระบวนการของกฎหมายในการผลักดันกลับประเทศต้นทางต่อไป ส่วนผู้นำพาอีก 1 คน คือนายโก อู ชาวเมียนมาร์ อายุ 20 ปี ได้จัดทำบันทึกจับกุมส่งให้พนักงานสอบสวน สภ.เมืองประจวบ ดำเนินคดีตามกฎหมายแล้ว นอกจากนี้ยังได้มอบหมายให้ชุดสืบสวนดำเนินการสืบสวนขยายผลเพื่อหาเครือข่ายผู้ร่วมขบวนการติดตามตัวมาดำเนินคดีตามกฎหมายทั้งหมด
จากการสอบสวนเบื้องต้น จากนายโก อู ชาวเมียนมาร์ อายุ 20 ปี ซึ่งเป็นผู้ต้องหานำพาให้ การยอมรับสารภาพว่า ตนเองเข้ามารับจ้างทำงานกรีดยางอยู่ในประเทศไทยอย่างถูกกฎหมาย และพักอาศัยอยู่ในสวนยางใกล้ชายแดน ต่อมาได้รับการว่าจ้างจากนายโก ติน เพื่อนชาวเมียนมาร์ที่ทำงานกรีดยางอยู่บริเวณสวนยางใกล้เคียงเคียงกัน มูลค่า 1,000 บาท ให้ขับรถยนต์ไปรับกลุ่มชาวเมียนมาร์ทั้งหมด 22 คน ซึ่งเดินทางมาจากเมืองต่างๆ แล้วมาพักคอยรวมตัวกันที่บริเวณหมู่บ้านมูด่อง ฝั่งประเทศเมียนมาร์ใกล้ชายแดนไทยบริเวณจุดผ่อนปรนพิเศษด่านสิงขร จากนั้นจะมีนายหน้านำพาดินเท้าข้ามแดนมาส่งยังฝั่งไทยตามช่องทางธรรมชาติแนวเทือกเขาตะนาวศรี โดยตนจะไปรับมาพักรอนายหน้ามารับอีกทอดหนึ่งบริเวณหมู่บ้านใกล้ถนนเพชรเกษมสายหลัก ซึ่งอยู่ห่างจากชายแดนไทยกว่า 10 กิโลเมตร เพื่อพาไปทำงานที่จังหวัดสมุทรสาคร และไปถึงปลายทางสำเร็จก็จะเสียค่านำพาลักลอบเข้าเมืองคนละ 18,000-20,000 บาท แต่ระหว่างเดินทางถูกเจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนตรวจพบและถูกจับกุมเสียก่อน
นัครินทร์/ข่าวประจวบฯ(0628525246)