ข่าวใหม่อัพเดท » ‘ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง’ ห่วง สธ. ปรับโควิดพ้น “โรคฉุกเฉิน” ทำเงื่อนไขเคลมประกันโควิดเปลี่ยน ประชาชนอาจเสียประโยชน์

‘ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง’ ห่วง สธ. ปรับโควิดพ้น “โรคฉุกเฉิน” ทำเงื่อนไขเคลมประกันโควิดเปลี่ยน ประชาชนอาจเสียประโยชน์

13 กุมภาพันธ์ 2022
0

ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส. เขต2 จ.นครศรีธรรมราช พรรคพลังประชารัฐ ห่วง สธ. ปรับโควิดพ้น “โรคฉุกเฉิน” ทำเงื่อนไข “เคลมประกันโควิด” เปลี่ยน ประชาชนอาจเสียประโยชน์

วันที่ 15 ก.พ.65 ที่จะถึงนี้ สมาคมประกันชีวิตไทย จะปรับมาใช้แนวปฏิบัติการให้ความคุ้มครองการประกันสุขภาพ สำหรับผู้เอาประกันที่ติดเชื้อโควิดใหม่ โดยให้เหตุผลเพื่อความสอดคล้องกับแนวทางปฏิบัติทางการแพทย์ของกระทรวงสาธารณสุขในการดูแลผู้ป่วยโควิด ซึ่งจะปรับแนวทางให้ผู้ป่วยโควิด พ้นจากการเป็น “ผู้ป่วยฉุกเฉิน” ในวันที่ 1 มี.ค.65

ทั้งนี้จะใช้สิทธิการรักษาของรัฐตามสิทธิของผู้ป่วยแต่ละคน โดยบริการที่นอกเหนือจากนั้น หรือหากเข้ารักษาใน รพ.เอกชน ผู้ป่วยจะต้องจ่ายเอง ทำให้การเคลมประกันโควิดมีเงื่อนไขที่เปลี่ยนไป ทั้งค่ารักษาพยาบาล และค่าชดเชยรายวัน โดยผู้ที่จะมีสิทธิได้รับการเคลมค่ารักษาหรือค่าชดเชย จะต้องเป็นผู้ป่วยใน มีอาการตามที่กระทรวงสาธารณสุขกำหนด ได้แก่

  1. มีอาการไข้สูงกว่า 39 องศาเซลเซียส นานกว่า 24 ชั่วโมง
  2. ผู้ใหญ่หายใจเร็วกว่า 25 ครั้ง/นาที
  3. มีความเข้มขนของออกซิเจนในเลือดน้อยกว่า 94%
  4. มีโรคประจำตัว หรือต้องติดตามอาการอย่างใกล้ชิดตามดุลยพินิจของแพทย์
  5. อาการในเด็ก ที่มีการหายใจลำบาก ซึมลง ดื่มนมหรือรับประทานอาหารน้อยลง

ดังนั้นจึงเป็นข้อคำถามว่า หากกระทรวงสาธารณสุข ปรับหลักเกณฑ์ตามนี้ กลุ่มผู้ป่วยที่ติดโควิด แต่ไม่แสดงอาการ หรือมีอาการไม่มากนัก จะมีมาตรการรองรับอย่างไร

ที่ผ่านมาจากการที่ผมติดตามสถานการณ์ พบว่า ผู้ป่วยโควิดหลายรายมีปัญหาเรื่องสถานที่รักษา บางรายอาศัยอยู่ในครอบครัวใหญ่ และมีรายได้น้อย ซึ่งติดขัดด้านปัญหาของการรักษาแบบ Home Isolation หากจะให้รักษาในสถานที่ที่รัฐจัดให้ ก็พบกับปัญหาของการรอคอยการรักษา การเตรียมความพร้อมของสถานที่ บุคลากรซึ่งไม่เพียงพอที่จะรองรับหรือดูแลผู้ป่วยได้อย่างทั่วถึงและเต็มที่

พูดถึงเรื่องของการเคลมประกันแน่นอนว่าเมื่อมีการเปลี่ยนแปลงอาจทำให้ประชาชนต้องสูญเสียผลประโยชน์ไม่มากก็น้อย ทั้งที่ประชาชนหวังว่าการทำประกันดังกล่าวจะช่วยแบ่งเบาภาระและค่าใช้จ่ายในการรักษาตัวเองได้ไม่มากก็น้อย แต่เมื่อเงื่อนไขเปลี่ยนแปลงความหวังดังกล่าวก็เหลือเพียงน้อยนิด และจะต้องแบกรับค่ารักษาที่นอกเหนือจากสิทธิที่มีอยู่เอง

ในห้วงเวลาและสถานการณ์เช่นนี้ ผมจึงอยากให้ทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้อง คำนึงถึงเรื่องของ “คุณธรรม จริยธรรม” ที่อยู่นอกเหนือผลตอบแทนที่มีมูลค่า มองผลประโยชน์ของประชาชน เป็นสิ่งสำคัญที่สุด ซึ่งอยู่เหนือกว่า ผลประโยชน์ของกลุ่มคนเพียงไม่กี่คน

สัณหพจน์ สุขศรีเมือง #โควิด19 #ประกันโควิด #สาธารณสุข #คนลุ่มน้ำปากพนัง #ชัยชวนคิด #จะตอบแทนด้วยผลงาน


error: Content is protected !!