ข่าวใหม่อัพเดท » “สันธนะ” ยกพวกยึดตลาดสุรนคร​ กลางเมืองโคราช อ้างถูกเบี้ยวค่าเช่าที่นาน กว่า 24 ปี

“สันธนะ” ยกพวกยึดตลาดสุรนคร​ กลางเมืองโคราช อ้างถูกเบี้ยวค่าเช่าที่นาน กว่า 24 ปี

11 สิงหาคม 2019
0

https://youtu.be/-A30fOFI44Y

          เมื่อวันที่ 10 สิงหาคม 2562 ที่ตลาดสุรนครเมืองใหม่ ตลาดกลางค้าส่งพืชผักและผลไม้ใหญ่ที่สุดในภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ตั้งอยู่ริมถนนมิตรภาพ ตรงข้ามสถานีขนส่งผู้โดยสารนครราชสีมา แห่งที่ 2 อ.เมือง​ จ.นครราชสีมา​ : พ.ต.ท.สันธนะ ประยูรรัตน์ อดีตรอง ผกก.สันติบาล พร้อมพวกนั่งรถตู้โดยสาร สีดำ เลขทะเบียน ฆศ 474 กรุงเทพมหานคร มาจอดบริเวณหน้าทางเข้าบริษัท สุรนครเมืองนคร จำกัด ซึ่งเป็นที่ตั้งสำนักงานตลาดกลางสุรนคร เพื่อเข้ามาเจรจาขอเข้าบริหารจัดการ​ และดูแลผลประโยชน์ของตลาด โดยมี พ.ต.ท.สายัญ แบ่งสันเทียะ รอง ผกก.สส.สภ.เมือง​ จ.นครราชสีมา​ ในฐานะรักษาการแทน ผกก.สภ.เมือง​ จ.นครราชสีมา พร้อมกำลังทั้งในและนอกเครื่องแบบ เจ้าหน้าที่ปกครองจังหวัดนครราชสีมา กว่า 50 นาย สนธิกำลังมารักษาความสงบเรียบร้อย โดยตั้งเต็นท์อำนวยการบริเวณหน้าทางขึ้นสำนักงาน และนำแผงเหล็กมาตั้งเป็นแนวป้องกันการบุกรุกเข้าไปด้านใน

          พ.ต.ท.สันธนะฯ พร้อมพวกได้อ้างกับเจ้าหน้าที่กว่า 10 นาย ที่ตั้งแถวอยู่บริเวณหน้าบันไดทางขึ้น โดยระบุว่าได้รับมอบอำนาจจากนายปรีชา สุวรรณชาติ ผู้บริหารห้างหุ้นส่วนจำกัด (หจก.) อุ้มบุญธุรกิจ​ และเป็นตัวแทนครอบครัวสุวรรณชาติ เจ้าของที่ดินจำนวน​ 38 ไร่ 1 งาน 38 ตารางวา โดยมีแผงขายสินค้า 1,310 แผง ลานขนถ่ายสินค้า 226 แผง ตลาดโต้รุ่ง 58 แผง ตลาดปีนัง 58 แผง​ และอาคารพาณิชย์ 59 คูหา โดยให้นางอุรัส ชัยรัตน์ กรรมการผู้จัดการ บริษัท สุรนครเมืองใหม่ ผู้เช่าดำเนินกิจการตลาดสุรนคร การเดินทางมาครั้งนี้ เพื่อแสดงสิทธิ์โดยชอบธรรมเลยต้องเดินทางมาเอง เพราะเกรงจะมีเหตุไม่พึงประสงค์เกิดขึ้น

          พ.ต.ท.สันธนะฯ​ กล่าวพร้อมแสดงท่าทาง ผู้เช่าว่า​ ไม่ได้จ่ายค่าเช่าโดยอาศัยช่องว่างของกฎหมาย พยายามยื้อเวลากระบวนการยุติธรรมเรียกเก็บผลประโยชน์เดือนละกว่า 10 ล้านบาท กระบวนการยุติธรรม​ ไม่สามารถช่วยนายปรีชาฯ แต่สิ่งที่กำหนดคือคำพิพากษาของศาลฎีกา ให้ผู้เช่าชำระเงินให้​ ผู้ให้เช่าเป็นเงิน 500 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยร้อยละ 7.5 นับตั้งแต่มีคำพิพากษาเป็นเวลา 24 ปี ฝากถึงเจ้าหน้าที่บ้านเมือง ตนและพวกไม่ได้มาก่อความวุ่นวายแต่มาทวงสิทธิ์ ขอให้พึงระวังและเลือกปฏิบัติกับความถูกต้อง​ และผลประโยชน์

          ต่อมาที่ปรึกษาฝ่ายกฎหมาย บริษัท สุรนครฯ ได้มาพบ พ.ต.ท.สันธนะฯ ซึ่งนำกำลังชายฉกรรจ์จำนวนนับร้อยคนมานั่งรออยู่ตามร่มไม้และในตลาด เพื่อรอสัญญาณเข้าไปครอบครองกิจการตลาด ตามที่ พ.ต.ท.สันธนะฯ อ้างเป็นคำสั่งของศาล บรรยากาศช่วงคู่กรณีได้นำเอกสารมาชี้แจงค่อนข้างตึงเครียด ต่างฝ่ายอ้างสิทธิ์การบริหารจัดการตลาด

          พ.ต.ท.สายัญฯ​ ได้แจ้งความคืบหน้าของกระบวนการยุติธรรม โดยคำพิพากษาของศาลจังหวัดนครราชสีมา คดีหมายเลขดำ ที่ พ.2854/2537 คดีหมายเลขแดงที่ 418/2540 ระหว่าง หจก.อุ้มบุญธุรกิจ โดยเจ้าพนักงานบังคับคดี ผู้ชำระคดีโจทก์กับบริษัท สุรนครเมืองใหม่ จำกัด จำเลย มีคำพิพากษาเมื่อวันที่ 21 มีนาคม 2562 ให้จำเลยชำระเงินและค่าเสียหายให้โจทก์จำนวน 100 ล้านบาท พร้อมดอกเบี้ยอัตราร้อยละ 7.5 ต่อปีของเงินต้น นับถัดจากวันฟ้อง (วันที่ 22 พฤศจิกายน 2537) จนกว่าจะชำระเสร็จและให้จำเลยชดใช้ค่าเสียหายเดือนละ 9 แสนบาท จนกว่าจำเลยจะขนย้ายทรัพย์สิน​ และบริวารออกไปจากที่ดินโฉนดเลขที่ 68654, 68655, 68656, 3911 ต.ในเมืองและเลขที่ 17512 ต.จอหอ อ.เมือง จ.นครราชสีมา รวมยอดเงินที่ต้องชำระให้กับโจทก์ประมาณ 500 ล้านบาท ปรากฏจำเลยได้ยื่นคำร้องขอฟื้นฟูกิจการต่อศาลล้มละลายกลาง ศาลได้พิจารณาวันที่ 25 เมษายน 2562 บัญญัติห้ามมิให้เจ้าหนี้บังคับคดีเอาทรัพย์สินกับลูกหนี้​ และพิพากษาให้จำเลยชำระหนี้อันเกิดจากการผิดสัญญาและให้จำเลยขนย้ายทรัพย์สินและบริวารออกไปจากที่เช่า จึงเป็นทรัพย์สินของลูกหนี้แต่คดีนี้ยังไม่ถึงที่สุด จึงต้องงดการบังคับคดีไว้​ และไม่อาจออกหมายตั้งเจ้าพนักงานบังคับคดีตามขอได้ ทำให้ พ.ต.ท.สันธนะฯ​ แสดงท่าทีไม่พอใจ

          จากนั้น พ.ต.ท.สันธนะฯ พร้อมพวกได้เดินเท้าพบผู้เช่าแผงขายสินค้าอุปโภค บริโภคในตลาด เพื่อพูดคุยและบอกกล่าวกับพ่อค้าแม่ขาย เดือนสิงหาคม ถือเป็นห้วงเวลาอันมหามงคล นายปรีชาฯ ยินดีที่จะไม่เก็บค่าเช่าแผง หากถูกเรียกเก็บเงินถือเป็นการแอบอ้างให้ไปแจ้งความดำเนินคดีตามกฎหมายได้ จากนั้น พ.ต.ท.สันธนะฯ ได้เดินทางกลับคงเหลือกำลังชายฉกรรจ์ที่อยู่ในพื้นที่ตลาด ส่วนกำลังทั้ง 2 ฝ่าย ที่ยังตรึงกำลัง เจ้าหน้าที่ได้เรียกให้มาทำประวัติคัดกรองพร้อมตรวจค้น เพื่อป้องปรามการเผชิญหน้าและการใช้เหตุความรุนแรง

          พ.ต.ท.สายัญฯ​ กล่าวว่า เจ้าหน้าที่ไม่ได้ปฏิบัติสองมาตรฐานแต่อย่างใด แนวทางปฏิบัติต้องเป็นไปตามกระบวนการยุติธรรม หากใครละเมิด มีพฤติการณ์ไม่เหมาะสม โดยก่อเหตุความรุนแรงจะต้องถูกดำเนินคดีทุกราย

Cr.ตุ๋ย~อาชญากรรม~หน.ศูนย์ข่าวสยามรัฐ~ศูนย์ข่าวยุทธศาสตร์~ข่าวพิมพ์ไทย~นครราชสีมา
สุรเชษฐ​ ศิลา​นนท์​ รายงาน​

error: Content is protected !!