วันนี้ เวลา 17.28 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี เสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ณ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล มหาวิทยาลัยมหิดล เขตบางกอกน้อย กรุงเทพมหานคร
ครั้นเสด็จพระราชดำเนินถึง สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา
เจ้าฟ้ามหาจักรีสิรินธร มหาวชิราลงกรณวรราชภักดี สิริกิจการิณีพีรยพัฒน รัฐสีมาคุณากรปิยชาติ สยามบรมราชกุมารี เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาทรับเสด็จ พร้อมด้วย ศาสตราจารย์ นายแพทย์ประสิทธิ์ วัฒนาภา คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล, รองศาสตราจารย์ นายแพทย์วิศิษฎ์ วามวาณิชย์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลศิริราช, พลเรือเอก สมประสงค์ นิลสมัย ผู้บัญชาการทหารเรือ, ผู้บริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และคณะกรรมการจัดหาทุน
จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระมหิตลาธิเบศร
อดุลยเดชวิกรม พระบรมราชชนก ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังศาลาศิริราช ๑๐๐ ปี เพื่อถวายราชสักการะพระราชานุสาวรีย์สมเด็จพระศรีนครินทราบรมราชชนนี ทรงวางพุ่มดอกไม้ ทรงจุดธูปเทียนเครื่องทองน้อยถวายราชสักการะ ต่อจากนั้น พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงจุดธูปเทียนเครื่องนมัสการบูชาพระรัตนตรัย ทรงกราบ ทรงศีล ประธานสงฆ์ถวายศีล
จากนั้น พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ รองศาสตราจารย์ นายแพทย์ไชยรัตน์ เพิ่มพิกุล หัวหน้าภาควิชาอายุรศาสตร์ คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ศาสตราจารย์ แพทย์หญิงมณี รัตนไชยานนท์ รองคณะบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และผู้อำนวยการโรงเรียนแพทย์ศิริราช เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่
สมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี และศาสตราจารย์ นายแพทย์ธวัชชัย อัครวิพุธ รองคณบดีฝ่ายบริหารคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองพระบาท ทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายสูจิบัตรแด่ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี
เสร็จแล้ว พระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี องค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุนอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา กราบบังคมทูลรายงานวัตถุประสงค์ของการจัดสร้างอาคาร ฯ และขอพระราชทานกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทรงเปิดอาคาร ฯ พร้อมทั้งกราบบังคมทูลเชิญเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรนิทรรศการ “นวมินทรบพิตรศิริราชานุสรณ์” และพื้นที่ภายในอาคาร ฯ จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังแท่นพิธี ทรงกดปุ่มไฟฟ้าเปิดแพรคลุมป้าย “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” พระสงฆ์เจริญชัยมงคลคาถา ชาวพนักงานลั่นฆ้องชัย ประโคมสังข์ แตร ดุริยางค์ แล้วทรงประเคนจตุปัจจัยไทยธรรม ทรงหลั่งทักษิโณทก พระสงฆ์ถวายอนุโมทนา ถวายอดิเรก
ต่อจากนั้นพระราชทานพระบรมราชวโรกาสให้ คณบดีคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล กราบบังคมทูลเบิกผู้ให้การสนับสนุนการจัดสร้างอาคาร ฯ ผู้มีอุปการคุณและผู้ทำคุณประโยชน์แก่คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เฝ้าทูลละอองธุลีพระบาท รับพระราชทานของที่ระลึก จากนั้น เสด็จพระราชดำเนินไปยังอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ทอดพระเนตรนิทรรศการ “นวมินทรบพิตรศิริราชานุสรณ์” ซึ่งจัดแสดงภาพถ่ายในสายพระเนตรของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร พระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ที่มีต่อโรงพยาบาลศิริราช ภาพรวมการดำเนินงานของอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา ทั้งด้านการก่อสร้างอาคาร และนวัตกรรมทางการแพทย์ต่าง ๆ ที่ให้บริการภายในอาคาร ฯ แล้วเสด็จพระราชดำเนินไปทอดพระเนตรเครื่องมือรังสีรักษา ได้แก่ เครื่องฉายรังสีเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนพร้อมระบบภาพนำวิถีคลื่นแม่เหล็ก ไฟฟ้า (MR-LINAC) ซึ่งเป็นเครื่องมือทางการแพทย์ที่ใช้ในการรักษาผู้ป่วยโรคมะเร็งที่มีประสิทธิภาพสูง นับเป็นเครื่องแรก และเครื่องเดียวในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ที่ศูนย์รังสีรักษา
เสร็จแล้ว เสด็จพระราชดำเนินไปยังห้องประทับรับรองเพื่อทรงลงพระปรมาภิไธย และพระนามาภิไธยในสมุดที่ระลึก สมควรแก่เวลา จึงเสด็จพระราชดำเนินไปประทับรถยนต์พระที่นั่ง เสด็จพระราชดำเนินกลับ
อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา เป็นอาคารศูนย์การแพทย์ จำนวน ๒๕ ชั้น และมีชั้นใต้ดิน
๒ ชั้น ที่ก่อสร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราชบรมนาถบพิตร ในโอกาสมหามงคลเฉลิมพระชนมพรรษา ๗ รอบ วันที่ ๕ ธันวาคม ๒๕๕๔ เพื่อเป็นอาคารศูนย์การแพทย์ที่ให้บริการทางการแพทย์เฉพาะทางอย่างครบวงจร ทดแทนกลุ่มอาคาร ๓ หลังเดิมที่มีอายุการใช้งานมานานกว่า ๕๐ ปี จนเกิดความทรุดโทรมและแออัด และเพื่อเพิ่มคุณภาพและประสิทธิภาพ การให้บริการผู้ป่วยให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานชื่ออาคารแห่งนี้ว่า “อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา” มีความหมายว่า “อาคารที่สร้างขึ้นเพื่อเฉลิมพระเกียรติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ผู้เป็นพระเจ้าแผ่นดินที่ทรงเป็นใหญ่ รัชกาลที่ ๙ เนื่องในโอกาสมหามงคลที่ทรงเจริญพระชนมพรรษา ๘๔ พรรษา”
นอกจากนี้ สมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารีทรงรับเป็นองค์ประธานคณะกรรมการอำนวยการจัดหาทุนอาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา และเสด็จพระราชดำเนินมาทรงวางศิลาฤกษ์อาคารนวมินทรบพิตร ๘๔ พรรษา เมื่อวันที่ ๒๔ มิถุนายน ๒๕๕๘ สำหรับอาคาร ฯ แห่งนี้ เปิดให้บริการตรวจรักษาแก่ผู้ป่วยภายนอกและผู้ป่วยภายใน โดยให้บริการผู้ป่วยนอก ในการตรวจรักษาโรคทั่วไป และโรคเฉพาะทาง อาทิ ด้านอายุรกรรม ด้านประสาทวิทยา ด้านระบบทางเดินหายใจและความผิดปกติด้านการนอน ด้านต่อมไร้ท่อ ด้านกระดูกและข้อ ด้านรังสีวินิจฉัยและรังสีรักษา อย่างเบ็ดเสร็จ ส่วนงานบริการผู้ป่วยใน ให้บริการตรวจรักษาผู้ป่วยด้านอายุรกรรม จิตเวชศาสตร์ ประสาทวิทยา ออโธปิดิกส์ รังสีรักษา รวมทั้งให้บริการห้องผู้ป่วยแยกโรคติดเชื้อ และหอผู้ป่วยวิกฤต นอกจากนี้ ยังให้บริการตรวจทางห้องปฏิบัติการและการตรวจพิเศษต่าง ๆ อาทิ ศูนย์หทัยวิทยา ศูนย์วักกะวิทยา ศูนย์รังสีวินิจฉัย และศูนย์เวชศาสตร์นิวเคลียร์ ถือเป็นอาคารศูนย์การแพทย์ที่มีศักยภาพในการรองรับการบริการรักษาผู้ป่วยนอกได้ ๕๐๐,๐๐๐ คนต่อปี และผู้ป่วยในได้ ๒๐,๐๐๐ คนต่อปี
ทั้งนี้ ด้วยพระมหากรุณาธิคุณของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ทรงคำนึงถึงการดูแลรักษาสุขภาพอนามัยและการรักษาพยาบาลของผู้เจ็บป่วยในประเทศ ให้ได้รับโอกาสในการรักษาที่มีประสิทธิภาพและเท่าเทียมกัน เมื่อวันที่ ๑๑ สิงหาคม ๒๕๖๐ จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินจำนวน ๑๐๐,๐๐๐,๐๐๐ บาท (หนึ่งร้อยล้านบาท) ซึ่งเป็นเงินรายได้จากการจำหน่ายสมุดไดอารี่ภาพการ์ตูนฝีพระหัตถ์ สมทบทุนในการก่อสร้างอาคาร ฯ รวมทั้งเงินจากการจัดหาทุนของคณะแพทยศาสตรศิริราชพยาบาลส่วนหนึ่ง และอีกส่วนหนึ่งเป็นเงินงบประมาณแผ่นดิน รวมเป็นเงินในการก่อสร้างอาคาร ฯ ทั้งสิ้น ๖,๐๙๓,๒๓๗,๖๑๔.๕๖ บาท (หกพันเก้าสิบสามล้านสองแสนสามหมื่นเจ็ดพันหกร้อยสิบสี่บาท ห้าสิบหกสตางค์) และเมื่อวันที่ ๗ พฤษภาคม ๒๕๖๒ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงิน จำนวน๗๐๙,๘๕๐,๕๐๐ บาท (เจ็ดร้อยเก้าล้านแปดแสนห้าหมื่นห้าร้อยบาทถ้วน) ซึ่งเป็นเงินที่ประชาชนได้ร่วมกันทูลเกล้าทูลกระหม่อมถวายในงานพระราชพิธีถวายพระเพลิงพระบรมศพ พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร และเงินรายได้จากการจัดงาน อุ่นไอรัก คลายความหนาว
“สายน้ำแห่งรัตนโกสินทร์” ในการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์การแพทย์สำหรับใช้ในการรักษาพยาบาลที่อาคารดังกล่าว ทำให้มีศักยภาพในการให้บริการทางการแพทย์ มีนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่เป็นเลิศเทียบเท่ามาตรฐานสากล อาทิ เครื่องฉายรังสีเร่งอนุภาคอิเล็กตรอนพร้อมระบบภาพนำวิถีคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า (MR-LINAC) ช่วยให้ผู้ป่วยได้รับการรักษาแบบฉายแสงที่แม่นยำและตรงจุดมากขึ้น เกิดผลข้างเคียงต่ออวัยวะน้อยที่สุด
การที่ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมพระราชทานเงินเพื่อสมทบทุนก่อสร้างอาคาร ฯ รวมถึงการจัดซื้อเครื่องมือและอุปกรณ์ทางการแพทย์ที่ทันสมัย มีประสิทธิภาพเทียบเท่ามาตรฐานสากลสำหรับอาคารนี้นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณแก่พสกนิกร ทำให้ผู้ใช้บริการได้ยังประโยชน์ในการเข้ารับการรักษาพยาบาล และการวินิจฉัยโรคที่สะดวก รวดเร็ว มีคุณภาพและครบวงจรมากยิ่งขึ้น