หนังสือร้องเรียน “วัชระ” พ่นพิษ “จันทร์เพ็ญ” ไขก๊อกพ้นปธ.จริยธรรมสภาฯหนีเผือกร้อนสอบ “พรพิศ” ปมแถลงข่าวเท็จก่อสร้างอาคารรัฐสภาผิดสเป็ก
วันที่ 28 เม.ย.65 : จากกรณีเมื่อวันที่ 11 ม.ย.65 นายวัชระ เพชรทอง อดีตส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร และ นางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ ประธานกรรมการจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา ให้สอบสวนนางพรพิศ เพชรเจริญ เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และนายสาธิต ประเสริฐศักดิ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรและประธานคณะกรรมการตรวจการจ้าง โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ ซึ่งได้กระทำความผิดประมวลจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา จากกรณีเมื่อวันที่ 8 เม.ย.65 นางพรพิศฯ และนายสาธิตฯ ได้ร่วมกันแถลงข่าวต่อสื่อมวลชนเกี่ยวกับประเด็นไม้ปูพื้นการก่อสร้างอาคาร รัฐสภาแห่งใหม่ฯ ซึ่งไม่ตรงกับข้อกำหนดตามสัญญาว่า “การตรวจรับไม่แล้วเสร็จ” อันมีความหมายว่า ยังไม่มีการจ่ายค่าจ้างในงวดงานดังกล่าวให้กับผู้รับจ้างนั้น
ทั้งที่ข้อเท็จจริงในเรื่องนี้กรรมการตรวจการจ้างจำนวนหนึ่ง ประกอบด้วย นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์ รองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร,ว่าที่เรือตรียุทธนา สำเภาเงิน ที่ปรึกษาด้านกฎหมาย และโฆษกสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร และนายณัฐสิทธิ์ เวียงทอง ผู้บังคับบัญชากลุ่มงานติดตามและประเมินผล สำนักนโยบายและแผน ได้ร่วมกันทำหนังสือราชการและร่วมกันลงลายมือชื่อเป็นหลักฐานยืนยันข้อเท็จจริงว่า คณะกรรมการตรวจการจ้างได้ตรวจรับงานไม้ปูพื้นอาคารรัฐสภาที่มีชนิดของไม้ไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญา และได้จ่ายเงินให้กับผู้รับจ้างในงวดงานดังกล่าวไปแล้ว ดังนั้น การแถลงข่าวของนางพรพิศฯ และนายสาธิตฯ จึงเป็นการกล่าวความเท็จต่อสาธารณชน และต้องการปกปิดความผิดของตน ซึ่งได้ตรวจรับและอนุมัติการจ่ายเงินงวดงานไม้ปูพื้นอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ฯ ที่ไม่ตรงตามข้อกำหนดในสัญญาไปแล้ว
ล่าสุด นายวัชระฯ เปิดเผยว่า หลังจากที่นางจันทร์เพ็ญ อานามวัฒน์ ประธานกรรมการจริยธรรมข้าราชการรัฐสภา ได้รับหนังสือร้องเรียนของตนแล้ว ก็ได้ยื่นหนังสือลาออกจากตำแหน่งประธานมีผลตั้งแต่วันที่ 25 เม.ย.65 ทั้งที่เพิ่งจะได้รับการแต่งเมื่อวันที่ 5 เม.ย.65 ที่ผ่านมา คาดว่าเพื่อจะไม่ต้องสอบนางพรพิศฯ เพราะมีความสนิทสนมกัน และเรื่องที่เกิดขึ้นนางพรพิศฯ ก็ส่อว่าผิดจริยธรรมอย่างแน่นอน ต่อจากนี้ก็จะต้องแต่งตั้งประธานกรรมการจริยธรรมข้าราชการรัฐสภาขึ้นใหม่ ซึ่งเป็นอำนาจของนายชวน หลีกภัย ประธานรัฐสภา
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน