ด้วย พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ทรงห่วงใยราษฎรที่ประสบวาตภัยและได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ในการนี้ ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค ไปมอบแก่ผู้ประสบวาตภัย เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น
วันนี้ 7 พฤษภาคม 2565 เวลา 09.15 น. พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมให้นายศุภชัย ภู่งาม องคมนตรี ร่วมกับมูลนิธิราชประชานุเคราะห์ ในพระบรมราชูปถัมภ์ เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภค จำนวน 900 ถุง ไปมอบแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ ซึ่งเป็นตัวแทนราษฎรที่ประสบวาตภัย เพื่อเชิญไปมอบแก่ราษฎรที่ประสบวาตภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ณ หอประชุมที่ว่าการอำเภอท่าเรือ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อช่วยบรรเทาความเดือดร้อนในเบื้องต้น และเป็นขวัญกำลังใจแก่ผู้ประสบวาตภัย
ในโอกาสนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระราชกระแสทรงห่วงใยของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว
และสมเด็จพระนางเจ้า ฯ พระบรมราชินี ไปกล่าวแก่ผู้ว่าราชการจังหวัด และนายอำเภอ เพื่อเชิญไปแจ้งให้ราษฎรที่ประสบวาตภัยและผู้ที่ได้รับผลกระทบ รวมถึงเจ้าหน้าที่ให้รับทราบ ในการนี้ องคมนตรี ได้ร่วมประชุมติดตามสถานการณ์การเกิดวาตภัยในพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยมีนายวีระชัย นาคมาศ(นาค-คะ-มาด) ผู้ว่าราชการจังหวัด รายงานสถานการณ์พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการที่เกี่ยวข้อง
ทั้งนี้ องคมนตรี ได้เชิญพระบรมราโชบายในการให้การช่วยเหลือของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ไปแจ้งให้ทราบโดยขอให้การช่วยเหลือทันต่อเหตุการณ์เพื่อให้ราษฎรกลับมาใช้ชีวิตในการประกอบอาชีพได้โดยเร็ว จากนั้น องคมนตรี ลงพื้นที่เชิญถุงพระราชทานและเครื่องอุปโภคบริโภคไปมอบแก่ครอบครัวราษฎรที่ประสบวาตภัยในพื้นที่บ้านท้ายตลาด หมู่ที่ 3 ตำบลปากท่า อำเภอท่าเรือ จำนวน 3 ครอบครัว พร้อมกับพูดคุยสร้างขวัญกำลังใจ ยังความปลื้มปีติและสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณเป็นล้นพ้น
จังหวัดพระนครศรีอยุธยา แบ่งการปกครองออกเป็น 16 อำเภอ 209 ตำบล 1,459 หมู่บ้านโดยได้เกิดฝนฟ้าคะนองและลมกระโชกแรงในพื้นที่อำเภอต่างๆเป็นวงกว้าง ในห่วงวันที่ 28-29 เมษายน 2565 ทำให้บ้านเรือนราษฎรได้รับความเสียหาทั้งหลังและบางส่วนโดยเฉพาะในพื้นที่อำเภอบางบาลและอำเภอท่าเรือ ได้รับความเสียหายกว่า 600 หลังคาเรือน รวมได้รับความเสียหายใน 10 อำเภอ 77 ตำบล 231 หมู่บ้าน 4 ชุมชน จำนวน 903 ครัวเรือน ไม่มีผู้เสียชีวิตและได้รับบาดเจ็บ ซึ่งจังหวัดฯได้ประสานหน่วยงานต่างๆที่เกี่ยวข้องสำรวจความเสียหายและเร่งซ่อมแซมบ้านเรือนราษฎรให้เป็นการเร่งด่วนด้วยแล้ว