กรมประมง – เผยรายชื่อเกษตรกร และสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติด้านการประมง ประจำปี 2565 เตรียมรับพระราชทานโล่รางวัล ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ
นายเฉลิมชัย สุวรรณรักษ์ อธิบดีกรมประมง เปิดเผยว่า ด้วยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ได้มีนโยบายให้หน่วยงานภายใต้สังกัดมีการคัดเลือกเกษตรกร สถาบันเกษตรกร และสหกรณ์ดีเด่นแห่งชาติ เพื่อยกย่องประกาศเกียรติคุณ พร้อมเผยแพร่ผลงานให้สาธารณชนทั่วไปได้ยึดถือเป็นแบบอย่างและแนวทางในการประกอบอาชีพ เข้ารับพระราชทานโล่รางวัลในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ อันเป็นพระราชพิธีที่มีความเป็นสิริมงคล ซึ่งเป็นการสร้างขวัญกำลังใจให้แก่เกษตรกรไทยได้เกิดความภาคภูมิใจในการประกอบอาชีพเกษตรกรรม โดยกำหนดจัดขึ้นในเดือนพฤษภาคมของทุกปี เนื่องจากเป็นเวลาที่เหมาะสมในการเริ่มต้นฤดูกาลเพาะปลูก โดยในปีนี้ตรงกับวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565
สำหรับในส่วนของกรมประมงได้มีการคัดเลือกเกษตรกรและบุคคลทางการเกษตร รวมถึงสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ ประจำปี 2565 จำนวน 5 สาขา ดังนี้
- เกษตรกรและบุคคลทางการเกษตรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 3 สาขา ประกอบด้วย
- สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำจืด ได้แก่ นายประวัติ พิริยศาสน์ จังหวัดปราจีนบุรี
- สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำกร่อย ได้แก่ นายอรรถพงษ์ บุญเลิศฟ้า จังหวัดนครปฐม
- สาขาอาชีพเพาะเลี้ยงปลาสวยงามและพรรณไม้น้ำ ได้แก่ นายวัลลภ วุ่นสุด จังหวัดนครปฐม
- สถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติ จำนวน 2 สาขา ประกอบด้วย
- กลุ่มเกษตรกรทำการประมงหรือกลุ่มเกษตรกรเพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ ได้แก่ กลุ่มเกษตรกรทำประมงพัฒนาเกษตรพอเพียง 49 จังหวัดสมุทรสาคร
- กลุ่มเกษตรกรแปรรูปสัตว์น้ำ ได้แก่ วิสาหกิจชุมชนปลาส้มบ้านคำกลาง จังหวัดอุบลราชธานี
สำหรับเกษตรกร และกลุ่มเกษตรกรที่ได้รับการพิจารณาคัดเลือกเป็นเกษตรกรดีเด่นและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติแต่ละสาขานั้น กรมประมงได้มีหลักเกณฑ์การพิจารณาคุณสมบัติต่างๆ ให้เป็นไปอย่างเหมาะสม โดยเกษตรกรดีเด่น จะต้องมีคุณสมบัติ อาทิ เป็นเกษตรกรที่มีสัญชาติไทย มีความประพฤติดีไม่เคยมีประวัติเสื่อมเสียมาก่อน ประกอบอาชีพด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต เสียสละเพื่อส่วนรวม มีผลงานทางการเกษตรดีเด่นเป็นพิเศษ และเผยแพร่ให้แก่ส่วนรวมได้นำไปใช้ประโยชน์ สมควรแก่การยกย่องให้เป็นตัวอย่างแก่บุคคลอื่น ที่สำคัญต้องเป็นผู้ที่ไม่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติในสาขาเดียวกันมาก่อน
ส่วนสถาบันเกษตรกรที่ได้รับการคัดเลือกเป็นสถาบันเกษตรกรดีเด่นต้องมีคุณสมบัติเป็นสถาบันเกษตรกรที่จดทะเบียนเป็นนิติบุคคลตามกฎหมาย หรือเป็นกลุ่มที่รวมตัวกันอย่างเข้มแข็งมาแล้วไม่น้อยกว่า 3 ปี มีข้อมูลย้อนหลังให้คณะกรรมการตรวจสอบอย่างน้อย 3 ปี หากเป็นสถาบันเกษตรกรที่เคยได้รับพระราชทานโล่รางวัลดีเด่นแห่งชาติมาแล้ว จะต้องเว้นระยะเวลาไม่น้อยกว่า 5 ปี จึงจะมีสิทธิ์ได้รับการพิจารณาใหม่
ส่วนเกณฑ์การให้คะแนนคัดเลือกเกษตรกรดีเด่น และสถาบันเกษตรกรดีเด่น จะพิจารณาแตกต่างกันในแต่ละด้าน กล่าวคือ เกณฑ์การให้คะแนนการคัดเลือกเกษตรกรดีเด่นพิจารณาให้คะแนนใน 4 ด้าน ได้แก่
- ความคิดริเริ่มและความพยายามฟันฝ่าอุปสรรคในการสร้างผลงาน
- ผลงานและความสำเร็จของผลงานทั้งปริมาณและคุณภาพ ตลอดจนระยะเวลาที่ปฏิบัติงานและความยั่งยืนในอาชีพ
- ความเป็นผู้นำและการเสียสละ เพื่อประโยชน์ส่วนรวมในด้านต่างๆ
- การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
สำหรับสถาบันเกษตรกรดีเด่นมีการพิจารณาให้คะแนนใน 5 ด้าน ดังนี้
- มีความคิดริเริ่ม
- มีความสามารถในการบริหารและการจัดการสถาบันเกษตรกร
- บทบาทและการมีส่วนร่วมของสมาชิกต่อสถาบันเกษตรกร
- ความมั่นคงและฐานะทางเศรษฐกิจของสถาบันเกษตรกร
- การทำกิจกรรมด้านสาธารณประโยชน์ การอนุรักษ์ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
ทั้งนี้ เกษตรกรและผู้แทนสถาบันเกษตรกร ที่ได้รับการคัดเลือกเป็นเกษตรกรและสถาบันเกษตรกรดีเด่นแห่งชาติด้านประมงทั้งหมด จะได้เข้าเฝ้ารับพระราชทานโล่รางวัลจากพระบาทสมเด็จพระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ในงานพระราชพิธีพืชมงคลจรดพระนังคัลแรกนาขวัญ ประจำปี 2565 ณ พลับพลาที่ประทับ มณฑลพิธีท้องสนามหลวง ในวันศุกร์ที่ 13 พฤษภาคม 2565 นี้ ๏
กลุ่มเผยแพร่และประชาสัมพันธ์