จาก “กระท่อม สู่ “กัญชา” ชาวประชาต้องได้ประโยชน์ ไม่ใช่ “นายทุน”
ดร.สัณหพจน์ สุขศรีเมือง ส.ส.จ.นครศรีธรรมราช เขต 2 พรรคพลังประชารัฐ (อ.ปากพนัง หัวไทร เชียรใหญ่) ร่วมอภิปรายการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติกัญชา กัญชง พ.ศ. …. ที่เสนอโดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรีและรมว.สาธารณสุข
ทั้งนี้ ดร.สัณหพจน์ ได้แสดงความคิดเห็นต่อ ร่าง พ.ร.บ.ดังกล่าวว่า จะต้องมีหัวใจสำคัญอยู่ที่ “ผลประโยชน์สูงสุดของพี่น้องประชาชน” และ “การป้องกันอันตรายจากการปลดล็อกกัญชาและกัญชง ที่จะเกิดขึ้นกับเยาวชน” โดยมีประเด็นสำคัญ คือ
- จะต้องส่งเสริมให้เกิดการวิจัยและพัฒนาพันธุ์ เพื่อให้ชาวบ้านได้เกิดทางเลือก ไม่ให้เกิดผลประโยชน์กับนายทุนเพียงฝ่ายเดียว เช่น การจัดโซนนิ่งพื้นที่ที่เหมาะสมกับการปลูกกัญชาพันธุ์นั้นๆ และการส่งเสริมให้ความรู้เรื่องวิธีการแปรรูป
- ประเด็นเรื่องของอำนาจในการพิจารณา ซึ่งมีคณะกรรมการ 2 ชุด คือ คณะกรรมการระดับนโยบาย ที่มีนายกรัฐมนตรีเป็นประธานฯ และคณะกรรมการ กัญชา กัญชง ซึ่งมีปลัดกระทรวงสาธารณสุขเป็นประธานฯ โดยต้องจัดให้มีการกระจายอำนาจการอนุญาตไปสู่ระดับจังหวัด เพื่อให้ประชาชนได้เข้าถึงง่าย ขออนุญาตได้ง่ายไม่ยุ่งยาก ลดขั้นตอนในการขออนุญาตต่างๆ
- ส่งเสริมการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่มีกัญชา กัญชง เป็นส่วนผสม เพื่อส่งเสริมองค์ความรู้ให้ชาวบ้าน เกษตรกร ได้เข้าถึงง่ายสามารถนำไปประยุกต์ใช้ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์พื้นบ้าน หรือผลิตภัณฑ์อื่นๆ ไปสู่ระดับที่ตลาดต้องการ ดังนั้นขอให้คณะกรรมาธิการ (กมธ.) ที่จะพิจารณาร่าง พ.ร.บ.ฉบับนี้ได้ตระหนักและนึกถึงผลประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก เพื่อใช้กัญชา และกัญชง เป็นพืชเศรษฐกิจของประชาชนอย่างแท้จริง
- เรื่องของสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) ขอให้ อย.ได้จัดทำขั้นตอนการขอใบอนุญาตต่างๆ ในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกัญชา กัญชง ให้ง่าย สะดวก รวดเร็ว และมีราคาไม่แพง เพื่อไม่ให้เกิดความยุ่งยากแก่พี่น้องประชาชนในการขออนุญาต
นอกจากนี้ในเรื่องของการขอใบอนุญาต ในหมวดที่ 3 และ 4 ตามมาตรา 15,16,17,18 นั้น โดยเฉพาะใบอนุญาตการปลูก ซึ่งต้องฝากให้กมธ.ที่จะได้รับการแต่งตั้งได้พิจารณาในประเด็นดังกล่าวด้วย เพื่อให้ชาวบ้านได้ประโยชน์ ไม่อยากให้เกิดกรณีของการที่เจ้าหน้าที่รัฐบังคับใช้กฎหมายกับชาวบ้านเกินกว่าเหตุ
ที่ผ่านมาจากร่างพ.ร.บ.พืชกระท่อม น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดี ที่สามารถสะท้อนไปสู่การพิจารณาร่าง พ.ร.บ.กัญชา กัญชง ซึ่งวันนี้ ชาวบ้านในพื้นที่ภาคใต้ สามารถใช้กระท่อมได้อย่างเสรี เพาะปลูกและส่งขายต้นพันธุ์ไปยังทั่วประเทศ สร้างรายได้ให้กับชาวบ้านและเกษตร หากมีความเป็นไปได้เรื่องของกัญชาและกัญชง อยากให้ฝากพิจารณาถึงแนวการปลูกว่า หากเป็นชาวบ้านธรรมดาที่ปลูกเพื่อใช้ในครัวเรือนเพื่อใช้เป็นยาป้องกันรักษาโรค เช่นปลูกจำนวน 3 ต้น ก็ไม่จำเป็นต้องขออนุญาต
ดรชัย #สัณหพจน์สุขศรีเมือง #กัญชา #คนลุ่มน้ำปากพนัง #ชัยชวนคิด #จะตอบแทนพี่น้องด้วยผลงาน