ลูกจ้าง อบจ.นครพนม ฝ่าพายุฝนชนคอสะพาน ร่างตีลังกาตกคูน้ำดับ ชี้จุดเกิดเหตุพื้นผิวเป็นแอ่งกระทะ พ่อตาขอให้ลูกเขยเป็นรายสุดท้าย
วันที่ 15 มิถุนายน 2565 เวลาประมาณ 08.30 น. ร.ต.อ.พยุง ศรีโฮง รอง สว.(สอบสวน) สภ. เมืองนครพนม รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์ขนสะพานคอนกรีตมีผู้เสียชีวิต 1 รายบนถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 22 สายสกลนคร-นครพนม ช่วงบ้านภูเขาทอง ต.หนองญาติ อ.เมือง จ.นครพนม จึงประสานแพทย์เวร รพ.นครพนม รถกู้ชีพวีอาร์กู้ภัยลำโขงเฟรนด์ชิฟ และกู้ภัยศรีสัตตนครพนม ที่เกิดเหตุอยู่ตรงข้ามกับสถานีไฟฟ้าแรงสูงนครพนม เป็นถนน 4 เลนฝั่งขาออกตัวเมือง พบรถ จยย.ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีแดงคาดดำ ทะเบียน 1 กษ 6639 สกลนคร ซุกอยู่ใต้พุ่มต้นเฟื่องฟ้าที่ปลูกประดับไว้บริเวณเกาะกลาง ถ้าไม่สังเกตจะไม่ทราบว่ามีอุบัติเหตุเกิดขึ้น ในสภาพล้มคว่ำชิดราวคอสะพาน กระจังหน้ารถพังยับกระเด็นตกใต้สะพาน และพบรองเท้าผ้าใบสีดำ 1 ข้างหล่นอยู่ที่พื้นถนนคาดว่าเป็นของผู้ตาย ส่วนร่างผู้เคราะห์ร้ายกระเด็นตกลงคูน้ำใต้สะพานที่ลึก 3 เมตรสภาพคว่ำหน้า จึงกู้ร่างขึ้นมาชันสูตรบนถนน แพทย์เวรสันนิษฐานเบื้องต้นว่าเสียชีวิตมาไม่ต่ำกว่า 3 ชั่วโมง โดยเฉพาะใบหน้าเริ่มบวมน้ำ พนักงานสอบสวนตรวจสอบใต้เบาะรถพบเอกสารและบัตรคล้องคอ ทราบชื่อผู้ตายคือนายพิทวัส ผาใต้ อายุ 30 ปี ชาว อ.โคกศรีสุพรรณ จ.สกลนคร เป็นคนงานทั่วไปองค์การบริหารส่วนจังหวัดนครพนม (อบจ.นครพนม)
สอบสวนเบื้องต้นทราบว่านายพิทวัส ได้ออกจากบ้านพักที่พักอาศัยอยู่กับภรรยาที่บ้านหนองญาติ หมู่ 6 ต.หนองญาติ อ.เมืองนครพนม เพื่อไปเข้าเวรที่ อบจ.นครพนม ตอนเวลา 18.00 น.ของวันที่ 14 มิถุนายน กระทั่งช่วงเช้ามืดเวลา 04.00 น.ของวันต่อมา ได้ออกเวรและเดินทางกลับบ้านภรรยาที่บ้านหนองญาติ ระหว่างนั้นมีพายุฝนตกหนักแทบลืมหูลืมตาไม่ขึ้น ขณะขับจยย. มาถึงเนินบ้านภูเขาทอง และแล่นลงเนินบริเวณหน้าโรงเรียนลูกเสือบ้านภูเขาทอง ซึ่งตรงนั้นพื้นผิวเป็นแอ่งกระทะเวลามีฝนตกก็มีน้ำท่วมขังผิวจราจร สันนิษฐานว่าขณะรถวิ่งลงเนิน แล้วเหยียบพื้นผิวแอ่งกระทะอาจทำให้รถเสียหลักลื่นไถลก่อนเสียหลักพุ่งไปชนกับเหลี่ยมสะพานคอนเกรีต ร่างตีลังกากระเด็นตกคูน้ำ แต่ไม่มีผู้พบเห็นเหตุการณ์ กระทั่งช่วงเช้ามีพลเมืองดีสังเกตเห็นรถ จยย.เสียบคาใต้พุ่มไม้ จึงลงไปดูและพบศพผู้เสียชีวิตใต้คูน้ำดังกล่าว
ขณะเจ้าหน้าที่ชันสูตรพลิกศพ มีพ่อตาของนายพิทวัสซึ่งเป็นคนงาน อบจ.นครพนมเช่นกัน และเพื่อนร่วมงานที่ทราบข่าวร่วม 10 คน ได้เดินทางมาดูศพต่างมีใบหน้าเศร้าสลด โดยพ่อตากล่าวว่าลูกเขยเพิ่งได้บรรจุเป็นพนักงานแค่ 1 ปี ก็มาเสียชีวิต และอยากให้ผู้เกี่ยวข้องแก้ไขบริเวณแอ่งกระทะที่เกิดเหตุ เพราะที่ผ่านมาเกิดอุบัติเหตุหลายครั้งโดยเฉพาะช่วงหน้าฝน ให้ลูกเขยเป็นผู้เคราะห์ร้ายเป็นรายสุดท้าย
หลาวเหล็ก/รายงาน