วันจันทร์ที่ 13 พ.ค.62 เวลา 13.45 น.ณ ลานแถลงข่าว ชั้น 1 อาคาร บช.น.: พลตำรวจโท สุทธิพงษ์ วงษ์ปิ่น ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (ผบช.น.) พร้อมด้วย พลตำรวจตรี ดาวลอย เหมือนเดช,พลตำรวจตรี นิตินันท์ เพชรบรม รองผู้บัญชาการตำรวจนครบาล (รองผบช.น.),พลตำรวจตรี กัมปนาท โสภโณดร ผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (ผบก.น.9),พันตำรวจเอก สุริยา นาคแก้ว รองผู้บังคับการตำรวจนครบาล 9 (รองผบก.น.9),พันตำรวจเอก ธีระ เถระพัฒน์ ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม (ผกก.สน.ท่าข้าม),พันตำรวจโท สุกฤต มังคละสวัสดิ์ รองผู้กำกับการปราบปราม สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม (รองผกก.ป.สน.ท่าข้าม),พันตำรวจโท ธงชัย บัวรังษี รองผู้กำกับการสืบสวน สถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม (รองผกก.สส.สน.ท่าข้าม) มีเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดจับกุมนำโดย พันตำรวจตรี ปิติพล พรหมแก้ว,พันตำรวจตรี วรัษฐา วุฑฒิรักษ์ สารวัตรสืบสวนสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม (สว.สส.สน.ท่าข้าม),พันตำรวจตรี ณัฏฐวรรษ ฐากูรไชยกรณ์ สารวัตรปราบปรามสถานีตำรวจนครบาลท่าข้าม (สวป.สน.ท่าข้าม) พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวน สน.ท่าข้าม
ได้ร่วมกันจับกุมตัวนายสมบูรณ์ หรือบูรณ์ หนูแย้ม อายุ 21 ปี ตามหมายจับของ ศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.266/2562 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2562โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์ในเวลากลางคืน โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไป หรือรับของโจร”,นายธนู หรือไอซ์ สุคนธสิงห์ อายุ 23 ปี ตามหมายจับของ ศาลอาญาธนบุรีที่ จ.265/2562 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2562 โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร” และ นายนฤพล หรือนิว อิ่มจิตร อายุ 22 ปี ตามหมายจับของ ศาลอาญาธนบุรี ที่ จ.267/2562 ลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2562โดยกล่าวหาว่า “ร่วมกันลักทรัพย์โดยใช้ยานพาหนะเพื่อสะดวกแก่การกระทำผิดหรือพาทรัพย์นั้นไปหรือรับของโจร” พร้อมด้วยของกลางคือ
1.กุญแจแบบตัวที จำนวน 1 ตัว
2.แท่งแม่เหล็กทรงสี่เหลี่ยม ใช้สำหรับเปิดรูกุญแจ จำนวน 1 แท่ง
3.แท่งเหล็กปีกนกใช้สำหรับทำกุญแจ สตาร์ทรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 แท่ง
4.โทรศัพท์มือถือยี่ห้อ ซัมซุง เจ7 สีขาว จำนวน 1 เครื่อง
5.หมวกกันน็อค แบบเต็มใบ สีขาว ยี่ห้อ อินเด็กซ์ จำนวน 1 ใบ
6.เสือแขนยาว สีส้ม-ดำ พิมพ์อักษร MARBORO ที่หน้าอก จำนวน 1 ตัว
7.กางเกงขายาวลายพราง สีส้ม-ฟ้า จำนวน 1 ตัว
8.รองเท้าแตะ สีขาว-ดำ จำนวน 1 คู่
9.รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีแดง-ขาว เลขตัวรถ MLHJA1422E894920
ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน (พบที่ซอยเอสเค ถ.แผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ)
10.รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว เลขตัวรถ MLHJA1449D5335123
เลขเครื่อง JA211E-0335123 หมายเลขทะเบียน 1กฆ 350 มหาสารคาม จำนวน 1 คัน (พบที่ลานจอดรถห้างโฮมโปร สาขากัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ)
11.รถจักรยานยนต์ ฮอนด้า เวฟ สีขาว เลขตัวรถ MLHJA2113E5223600
เลขเครื่อง JA211E-0223600 หมายเลขทะเบียน 2หอ 4473 กรุงเทพมหานคร จำนวน 1 คัน
(พบที่ลานจอดรถห้างบิ๊กซี สาขากัลปพฤกษ์ แขวงบางหว้า เขตภาษีเจริญ กรุงเทพฯ)
12.เสื้อยืดคอวี สีเทา จำนวน 1 ตัว (นายนฤพลฯ สวมใส่ในวันก่อเหตุลักรถจักรยานยนต์สมัครใจนำมามอบให้เจ้าหน้าที่ตำรวจ)
สืบเนื่องมาจากวันที่ 11 พ.ค.62 เวลาประมาณ 15.00 น. เจ้าหน้าที่ตำรวจฝ่ายป้องกันปราบปราม สน.ท่าข้ามได้ออกตรวจพื้นที่พบ นายสมบูรณ์ฯ ได้ขับขี่รถจักรยานยนต์มากับนายธนูฯ บริเวณซอยเอสเค ถนนแผ่นดินธรรมแผ่นดินทอง แขวงแสมดำ เขตบางขุนเทียน กรุงเทพฯ มีลักษณะพิรุธต้องสงสัยจึงเข้าตรวจค้นตัวพบกุญแจตัวที จำนวน 1 ตัว,แท่งแม่เหล็กทรงสี่เหลี่ยม ใช้สำหรับเปิดรูกุญแจ จำนวน 1 แท่ง และแท่งเหล็กปีกนกใช้สำหรับทำกุญแจ สตาร์ทรถจักรยานยนต์ จำนวน 2 แท่ง
จากการสอบถามนายสมบูรณ์ฯ ให้การว่าอุปกรณ์ดังกล่าวมีไว้ใช้ในการกระทำความผิดลักรถจักรยานยนต์เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนจึงได้ขยายผลจึงทราบว่าผู้ต้องได้กระทำความผิดโดย ก่อนการออกตระเวนลักทรัพย์นั้น นายสมบูรณ์ฯ จะได้รับออเดอร์มาจากนายแบงค์ฯ แล้วจึงออกไปวนดูเป้าหมายตามจุดต่างๆ โดยเลือกเป้าหมายรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ในละแวกที่ลับตาคนและไม่อยู่ใกล้ถนน เมื่อเลือกเป้าหมายแล้วจะเข้าไปและใช้วิธีการใช้เหล็กแหลมแทงกุญแจและใช้เหล็กตัวทีงัดกุญแจเพื่อติดเครื่องรถจักรยายนต์แล้วขับหลบหนีไปโดยใช้เวลาก่อเหตุเพียง 5 วินาทีหลังก่อเหตุ นายสมบูรณ์ฯ จะติดต่อกับนายแบงค์ (ไม่ทราบชื่อสกุลจริง) ผ่านทางช่องทาง Messenger ของ Facebook ชื่อบุคคล “สาบสูญ(ไม่รู้ดิ)” เพื่อติดต่อขายรถให้กับนายนวย ไม่ทราบชื่อสกุลจริง โดยรถที่ลักมาได้นายสมบูรณ์ฯ จะนำไปจอดไว้ ในที่ใดที่หนึ่ง
แล้วติดต่อนายนวยฯ ออกมาดูรถหากดูแล้วนายนวยฯ ตกลงซื้อ นายนวยฯ จะทำการโอนเงินเข้าบัญชีธนาคารกสิกรไทย เลขบัญชี 041-3-90410-2 ชื่อบัญชีนายสมบูรณ์ฯ ซึ่งผู้ต้องหาได้กระทำความผิดในพื้นที่สน.ต่างๆ ดังนี้
คือสน.ท่าข้าม จำนวน 2 คัน,สน.พลับพลาไชย 1 จำนวน 4 คัน
และสน.บุปผาราม จำนวน 1 คัน
จากการสอบถามนายสมบูรณ์ฯ ยอมรับว่าเสพยาเสพติดมา จึงดำเนินการแจ้งข้อกล่าวหาและดำเนินการตามกฏหมายต่อไป รวมทั้งสิ้น จำนวน 7 คัน โดยในชั้นจับกุม ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมกันลักรถจักรยานยนต์จริง จากนั้นควบคุมตัวส่งพนักงานสอบสวน สน.ท่าข้าม ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
Cr.ทีมงานประชาสัมพันธ์ บช.น.
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน