“รมช.กนกวรรณ” ผนึกกำลัง “กมล” ลงพื้นที่ กศน.ตำบลโรงช้าง พร้อมเยี่ยมให้กำลังใจ “สูงวัยใจสมาร์ท-นักศึกษา-ประชาชน” ชื่นชม ทุกภาคีเครือข่ายร่วมมือร่วมใจจัดการเรียนการสอนครอบคลุมทุกช่วงวัย สร้างความรัก ความสามัคคี ให้กับคนในชุมชน
เมื่อเร็วๆนี้ นางกนกวรรณ วิลาวัลย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงศึกษาธิการ ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยม กศน.ตำบลโรงช้าง อำเภอเมืองพิจิตร พร้อมรับฟังรายงานผลการดำเนินงานตามนโยบายและเยี่ยมชมกิจกรรม “สูงวัยใจสมาร์ท” กิจกรรมส่งเสริมอาชีพชุมชนบ้านโรงช้าง ณ กศน.ตำบลโรงช้าง ซึ่งใช้อาคารสถานที่ของโรงเรียนวัดโรงช้าง ในการจัดการเรียนการสอน
โดยมี นายกมล รอดคล้าย ที่ปรึกษา รมช.ศธ.ร่วมลงพื้นที่ด้วยและมี นางกรรณิการ์ ทองจันทร์ พยาบาลวิชาชีพชำนาญการ ว่าที่ พ.ต.ดำริห์ ติยะวัฒน์ รองผอ.สำนักงาน กศน.จังหวัดพิจิตร รักษาการในตำแหน่งผอ.สำนักงาน กศน.จังหวัดพิจิตร นางสาวธันยภัทร์ กิตตินิรันดร์กุล ผอ.กศน. อำเภอวชิรบารมี นางโสภิณ นิตนันท์ ประธานกลุ่มสูงวัยใจสมาร์ท กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน เจ้าหน้าที่อาสาสมัครสาธารณสุขประจำหมู่บ้าน ประชาชน นักศึกษา ร่วมให้การต้อนรับ
นางกนกวรรณ กล่าวว่า “ ดิฉันรู้สึกยินดี ที่ได้มาตรวจเยี่ยมการดำเนินงานขยายผล กศน.ตำบล กิจกรรมการศึกษาต่อเนื่อง สูงวัยใจสมาร์ท เพื่อให้กำลังใจผู้สูงอายุ นักศึกษา และพี่น้องประชาชน ตามนโยบายของรัฐบาล ภายใต้การนำของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี กระทรวงศึกษาธิการ และนโยบาย กศน.WOW ได้เห็นการใช้ทรัพยากรร่วมกันเพื่อประโยชน์ของคนในชุมชน โดยผู้อำนวยการโรงเรียนวัดโรงช้าง ยินดีที่จะให้ กศน.ใช้อาคารสถานที่ ในการจัดการเรียนการสอน ซึ่งแสดงให้เห็นถึงความร่วมมือร่วมใจ และความตั้งใจในการพัฒนาชุมชน มีการจัดการเรียนการสอนให้กับคนทุกช่วงวัย มีการจัดกิจกรรมร่วมกันระหว่างนักเรียนกับผู้สูงอายุ อาทิ กิจกรรมทางด้านดนตรี ไทย และการตีกลองยาว ซึ่งช่วยลดช่องว่างระหว่างวัยได้เป็นอย่างดี อีกทั้งยังช่วยสร้างความรัก ความสามัคคี ให้กับคนในชุมชน
จากนั้น รมช.พร้อมคณะ ได้เดินทางไปเยี่ยมบ้านเรือนประชาชน และวิถีชีวิตในชุมชน ซึ่ง กศน. ตำบลโรงช้าง ได้มีการส่งเสริมอาชีพให้ชาวบ้าน อาทิ ส่งเสริมปลูกกระชายในบริเวณพื้นที่ว่างรอบๆบ้าน สอนการทำพรมเช็ดเท้า เพื่อให้ผู้สูงวัยได้มีการทำกิจกรรมร่วมกัน รวมถึงเป็นการสร้างงาน สร้างอาชีพ และสร้างรายได้ ให้กับผู้สูงวัยอีกด้วย
จากการรับฟังเสียงสะท้อนของประธานกลุ่มสูงวัยใจสมาร์ท ได้ความว่า ชาวบ้าน กลุ่มผู้สูงวัย มีความต้องการที่จะขยายตลาดในการจัดจำหน่ายพรมเช็ดเท้าให้เพิ่มมากขึ้น ซึ่งครูโอ๊ะ ได้กำชับ กศน. ให้ขอความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายในการร่วมด้วยช่วยกันหาช่องทางการขายพรมและขยายตลาดให้กว้างขวางมากขึ้นกว่าที่เป็นอยู่