หัวเปลี่ยน หางป่วน
ภายหลังจากศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 5 ต่อ 4 ให้ “ลุงตู่” พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หยุด การปฎิบัติหน้าที่ นายกรัฐมนตรี แต่ยังคงมีสถานะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม สามารถนั่งเป็นประธานสภากลาโหม เพื่อแต่งตั้ง นายพลทหาร 3 เหล่าทัพ ซึ่งได้จัดให้ประชุมไปเป็นที่เรียบร้อย เมื่อวันที่ 25 ส.ค.ที่ผ่านมา
คงเหลือเพียง การแต่งตั้ง ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ(ผบ.ตร.)คนใหม่ ที่แต่เดิม “ลุงตู่” มีกำหนดจะต้องนั่งเป็นประธาน คณะกรรมการนโยบายตำรวจแห่งชาติ(ก.ตช.) และรวมถึง การนั่งเป็นประธาน ก.ตร.ในการแต่งตั้งระดับนายพลสีกากีวาระประจำปี 2565 หากทำตามกรอบเวลาเดิมที่วางไว้ จะต้องกลายเป็น อำนาจผู้รักษาราชการแทน นายกรัฐมนตรี นั่นก็คือ”ลุงป้อม” พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ พี่ใหญ่ บูรพาพยัคฆ์ของ ตระกูล 3 ป.นั่นเอง กำหนดการเดิมที่เคาะใว้ สถานที่ประชุม จะใช้ห้องสีเขียว ของทำเนียบรัฐบาล เพื่อประชุมคณะกรรมการ ทั้งสองคณะ แต่เมื่อมีการเปลี่ยนตัวคนทำหน้าที่ประธาน ฯ
ล่าสุดมีข้อสั่งการจาก “ลุงป้อม” ให้เปลี่ยนสถานที่ประชุมใหม่ ให้มาใช้ ห้องประชุมศรียานนท์ ภายในสำนักงานตำรวจแห่งชาติ(ตร.) ตามกำหนดวันและเวลาเดิม ตรงนี้ทำให้เกิดคำถาม มากมายขึ้นในแวดวงสีกากี ที่ว่ากันว่าบัญชีการแต่งตั้ง ระดับนายพล นัยว่ามีการถกนอกรอบ ลงตัวเรียบร้อยแล้ว ระหว่าง”ลุงตู่ ” กับ “ผบ.ปั๊ด” พล.ต.อ.สุวัฒน์ แจ้งยอดสุข ผบ.ตร มีการขยับตัวของกลุ่มมือที่มองไม่เห็น เปิดดิวลับเดิมพันด้วยวงเงินที่สูงลิบ แทคทีมระหว่างผู้ยิ่งใหญ่งานจัดซื้อจัดจ้างและมือกำลังพลระดับบิ๊ก เดินสายเป็นล็อบบี้ยิสต์ จัดวางตัวแม่ทัพ “พิทักษ์ 1″คนใหม่ ต้องมีความพร้อมครบเครื่องและเป็นสายตรงกับ”บิ๊ก” ทางการเมืองเท่านั้น
ที่สุดลงตัว !! เต็ง 1 เหมาะสม ไร้คู่แข่ง ลงตัวกันทุกฝ่าย ฟันธงได้ว่า ว่าที่ผบ.ตร.คนใหม่ ในการประชุม ก.ตช.ครั้งนี้ ไม่พ้นชื่อ “รองเด่น” พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ รองผบ.ตร. ทิ้งระยะห่าง 1-2 อาทิตย์ จึงเรียกประชุม ก.ตร.จัดทัพนายพลสีกากีใหม่ รื้อโผเดิม !! เปิดช่องวิ่งกันระลอกใหญ่ สนั่นรั้ว ตร.อีกครั้ง ระนาบผู้ช่วยผย.ตร.ขึ้นรองผบ.ตร. ติดยศพลตำรวจเอกที่จะมีเก้าอี้ว่าง 4 ตัว ให้โฟกัสชื่อ “ผู้ช่วยป๋อ ” พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน “ผู้ช่วยต่อ” พล.ต.ท.ต่อศักดิ์ สุขวิมล “ผู้ช่วยโจ๊ก” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล และอีก 1 ตำแหน่งเบียดกันระหว่าง พล.ต.ท.ไกรบุญ ทรวดทรง กับ พล.ต.ท.ธนา ชูวงษ์ ระดับมือวางอันดับต้นตำแหน่งผู้บัญชาการหลัก รื้อใหม่ให้โฟกัสเรียงรายกันตั้งแต่ กองบัญชาการตำรวจนครบาล ทดแทนคนเดิม พล.ต.ท.สำราญ นวลมาที่จะเลื่อนขึ้นเป็นผู้ช่วยผบ.ตร.ชื่อ “ผบ.ช.เปีย” พล.ต.ท.สมประสงค์ เย็นท้วม ผบช.ภ.3 จะสลับมานั่ง ทิ้งเก้าอี้เดิมให้ พล.ต.ต.จิรสันต์ แก้วแสงเอก ไปขึ้นแทน จับตา “เดอะอิท” พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.สกพ. แรงปลายที่ภาค 2 ติดตามด้วย กองบัญชาการตำรวจภูธรภาค 1 ที่เกิดการเปลี่ยนแปลงแน่ ขณะที่การแข่งขันรุนแรงจะอยู่ที่ ตำรวจไซเบอร์ ตำรวจท่องเที่ยว ตำรวจภูธรภาค 8 และภาค 9 หลังได้ชื่อ ผบ.ตร.คนใหม่ ในวันที่ 29 ส.ค.นี้ จะมีระยะเวลาสุญญากาศ เพื่อเปิดช่องให้เกิดการชิงดำ ชิงแดง ในเก้าอี้สำคัญระดับนายพลทุกระนาบ
มีหวังฝุ่นตลบอบอวลย่านมีนบุรีและสนามเป้า แบบคนเดิมห้ามประมาท คนใหม่ ต้องชิงเด่น ห้วงเวลาของวังวนอำนาจ อันชวนหลงไหล พักทั้งความเป็นเพื่อน เป็นพี่ เป็นน้อง ไว้ชั่วคราว คงเหลือเพียงคู่แข่งที่พร้อมจะแย่งชิงเก้าอี้ทำเลทอง แม้รู้ว่ายากเกินห้ามใจ.
อิทธิเดช ลุย.