เจ้าท่าอยุธยา วันที่ 11 กันยายน 2565 เวลา 12.00. น เกิดเหตุเรืออับปางจม สามแยกวิทยาลัยการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา ประกาศ ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยง หรือระมัดระวังเป็นพิเศษในการเดินเรือ เตรียมกู้เรือ “แสงเทียนลากจูง ๑๔” หลังเกิดเหตุเรืออับปาง บริเวณ สามแยกวิทยาลัยฯ การต่อเรือพระนครศรีอยุธยา เบื้องต้นทุกคนปลอดภัยดี
นายพีรธร นาคสุข ผู้อำนวยการสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา เปิดเผยว่า วันนี้ ( ๑๑ กันยายน ๒๕๖๕ ) เมื่อเวลาประมาณ ๑๒.๐๐ น. บริเวณแม่น้ำป่าสัก สามแยกวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา ต.หัวรอ อ.พระนครศรีอยุธยา จ.พระนครศรีอยุธยา เกิดเหตุเรืออับปาง ชื่อเรือ “แสงเทียนลากจูง ๑๔” หมายเลขทะเบียนเรือ ๖๑๐๐ ๐๐๘๘๘ ขนาด ๔๒.๖๒ ตันกรอส ประเภท เรือกลเดินทะเลเฉพาะเขต ประเภทการใช้ เรือดัน-ลากจูง ใบอนุญาตสิ้นอายุวันที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๖๖โดย บริษัท แสงเทียน ขนส่ง จำกัด เป็นเจ้าของเรือ
เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสาเหตุ พบว่า เรือยนต์ดัน-ลากจูง ชื่อ “แสงเทียนลากจูง ๑๔” ซึ่งเป็นเรือกระเตงข้าง (เรือช่วยสำหรับการลากจูงเรือลำเลียงสินค้า) ซึ่งมี นายสุรชัช สดใส ผู้ได้รับประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถระดับชั้น “นายท้ายเรือกลเดินทะเลชั้น ๑” เลขประกาศนียบัตร ๒.๑-๖๓-๐๕๓ หมดอายุวันที่ ๒๕ พฤษภาคม ๒๕๖๘ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ควบคุมเรือ และนางสาว ปาริกา พิมพ์อ่อน ผู้ได้รับประกาศนียบัตรรับรองความรู้ความสามารถระดับชั้น “คนใช้เครื่องจักรยนต์ ชั้น ๑” เลขที่ประกาศนียบัตร ๒.๑-๖๓-๐๖๙ หมดอายุวันที่ ๒๔ ธันวาคม ๒๕๖๘ ปฏิบัติหน้าที่ผู้ควบคุมเครื่องจักรยนต์ (ต้นกล) เดินเรือมาถึงจุดเกิดเหตุ ซึ่งเป็นช่วงโค้งของแม่น้ำป่าสัก สามแยกวิทยาลัยเทคโนโลยีและอุตสาหกรรมการต่อเรือพระนครศรีอยุธยา โดยเรือพยายามจะเข้าโค้ง ทำให้เสียการทรงตัว และจมลง ตรวจสอบเบื้องต้นลูกเรือทุกคนปลอดภัยดี
เบื้องต้น เจ้าท่าฯ ได้ส่งเจ้าหน้าที่พร้อมเรือยนต์ตรวจการ ๑๘๖ เข้าควบคุมการสัญจรทางน้ำ และตรวจสอบความเสียหายเบื้องต้นแล้ว และได้ประสานเจ้าของเรือเรือยนต์ “แสงเทียนลากจูง ๑๔” ขณะนี้ นักประดาน้ำ กำลังมาดำผูกเชือกเรือ เตรียมเคลื่อนย้ายเรือมาชิดฝั่งตะวันตก เพื่อไม่ให้กีดขวางการจราจรทางน้ำ และเตรียมการกู้เรือ จากการตรวจสอบเบื้องต้นพบว่าเรือลำดังกล่าวอยู่ในสภาพไม่ปลอดภัยต่อการใช้งาน จึงออกคำสั่งห้ามใช้เรือ รวมทั้งประกาศสำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคสาขาอยุธยา ขอให้ชาวเรือหลีกเลี่ยงการเดินเรือ หรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังเป็นพิเศษในขณะที่แล่นผ่านพื้นที่บริเวณดังกล่าว
สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา