ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรฯ “อลงกรณ์” ขับเคลื่อนนวัตกรรมการบริหารจัดการชลประทานเชิงรุก 2 รูปแบบ ภายใต้เพชรบุรีโมเดล รวมพลังทีมชลประทานผนึกอบต.กำนันผู้ใหญ่บ้านระดมเครื่องจักรกลเครื่องสูบน้ำเตรียมรับมืออุทกภัยเพชรบุรีล่วงหน้าพร้อมเดินหน้าโครงการชลประทานชุมชนบริหารจัดการน้ำท่วมน้ำแล้งอย่างยั่งยืนครบ 93 ตำบล 8 อำเภอ ของเพชรบุรีเป็นจังหวัดแรก
รายงานข่าวจากกระทรวงเกษตรและสหกรณ์แจ้งวันนี้ว่า นายอลงกรณ์ พลบุตร
ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และคณะ ประกอบด้วย นายณฐกร สุวรรณธาดา คณะที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์, นายสราวุฒิ พุ่มจิตร นายปรีชา ทรัพย์เกิด คณะทำงานทีมเพชรบุรีโมเดล ลงพื้นที่ตรวจความพร้อมของเครื่องจักรกล เครื่องสูบน้ำ เครื่องดันน้ำ รถ เรือ เครื่องปั่นไฟและกำลังพลคนชลประทานและท้องที่ท้องถิ่นเพื่อพร้อมรับมือสถานการณ์อุทกภัยเพชรบุรี ปี 2565
ซึ่งได้เคลื่อนย้ายมารวมศูนย์ที่บริเวณพื้นที่วัดเขาตะเครา โดยมีนายสมเกียรติ แจ่มจันทร์ ผู้อำนวยการโครงการชลประทานเพชรบุรี, นายอำนาจ ถี่ถ้วน ผู้อำนวยการส่วนเครื่องจักรกล สำนักงานชลประทานที่ 14 ,นายวศิน เกิดบุญ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลสูบน้ำที่ 3, นายจักรพันธุ อุไรพันธ์ุ หัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการเครื่องจักรกลและยานพาหนะ, นายวีระชัย ตั่นเจริญ หัวหน้าฝ่ายวิศวกรรมเครื่องกล, สิบเอกธนกร บุญวิเศษ หัวหน้าฝ่ายซ่อมสร้างและบำรุงรักษา
นายชาญชัย อุ้มนุช นายก อบต.บางครก, นางบุษกร เอี่ยมเทศ รองนายก อบต. บางครก, นายลม่อม เล็กสุก กำนันตำบลบางครก และเจ้าหน้าที่ ให้การต้อนรับและรายงานผลการดำเนินการ ณ บริเวณวัดเขาตะเครา ตำบลบางครก อำเภอบ้านแหลม จังหวัดเพชรบุรี และเริ่มดำเนินการติดตั้งเครื่องสูบน้ำ ณ จุดมัสยิดหมู่13ตำบลบ้านกุ่ม อำเภอเมืองริมแม่น้ำพชรบุรีเป็นจุดแรก
ทั้งนี้ กรมชลประทานได้ดำเนินการตามนโยบายรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน ตามข้อเสนอและการประสานงานของนายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ในการเฝ้าระวังและจัดเตรียมเจ้าหน้าที่ พร้อมเครื่องจักร เครื่องมือ ประจำจุดพื้นที่เสี่ยงน้ำท่วมให้สามารถพร้อมใช้งานได้ทันที
นายอลงกรณ์ กล่าวขอบคุณ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ กรมชล ประทาน และให้กำลังใจทุกภาคีภาคส่วนในการสร้างความพร้อมล่วงหน้าเพื่อรับมือกับอุทกภัยในจังหวัดเพชรบุรี ซึ่งปกติจะมีความเสี่ยงจากมรสุมในช่วงเดือนตุลาคมถึงกลางเดือนพฤศจิกายน โดยดำเนินการมาตั้งแต่เดือนสิงหาคมด้วยการลอกคลองผักตบชวาและวัชพืชที่เป็นอุปสรรคต่อการระบายน้ำออกจากคลองสายหลักต่างๆ ในพื้นที่ปลายน้ำและกลางน้ำของอำเภอบ้านแหลมอำเภอเมืองอำเภอบ้านลาดและอำเภอท่ายางเช่นคลอง ดี.25และคลอง ดี.18เป็นต้น โดยใช้เครื่องจักรกลรถแบคโคขนาดใหญ่ของสำนักงานชลประทานที่14 โครงการส่งน้ำและบำรุงรักษาเพชรบุรีและชลประทานจังหวัดเพชรบุรี
สำหรับในเขตเทศบาลเมืองเพชรบุรีทางชลประทานพร้อมนำเครื่องสูบน้ำไปติดตั้งทันทียกเว้นระบบท่อเพื่อไม่ให้ไปกีดขวางถนนทั้งนี้ได้มอบหมายชลประทานจังหวัดประสานงานกับจังหวัดและเทศบาลเมืองเพชรบุรีอย่างใกล้ชิดโดยระหว่างนี้ทางเทศบาลแจ้งว่ากำลังทดสอบการจราจรในพื้นที่เทศบาลและจะแจ้งให้ทราบเมื่อมีความพร้อมในการติดตั้งเครื่องสูบน้ำของกรมชลประทาน
“2 ปี ที่ผ่านมา เพชรบุรีสามารถบริหารจัดการรับมือกับปัญหาอุทกภัยได้เป็นอย่างดีไม่มีน้ำท่วมใหญ่จะมีก็น้ำล้นตลิ่งหรือน้ำท่วมบางพื้นที่ที่ตลิ่งพังแต่เป็นพื้นที่จำกัด
ซึ่งเป็นผลมาจากการบริหารจัดการมิติใหม่ร่วมกับจังหวัดและท้องที่ท้องถิ่นแบบบูรณาการทำงานเชิงรุกล่วงหน้าพร้อมกับเร่งดำเนินโครงการขนาดใหญ่เพิ่มความจุอ่างเก็บน้ำแก่งกระจานอีกกว่า53ล้าน ลบ.ม. การพัฒนาคลอง ดี.9 สามารถรับน้ำได้ 100 ลบ.ม.ต่อวินาที เป็นต้น
ยิ่งกว่านี้ยังได้เริ่มดำเนินการโครงการชลประทานชุมชนของคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบครบ93ตำบล8อำเภอมีหน้าที่จัดทำแผนและขับเคลื่อนการบริหารจัดการน้ำในพื้นที่ทุกหมู่บ้านตำบลเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมด้วยแนวทางบริหารโดยชุมชนเพื่อชุมชนของชุมชนเป็นการพัฒนาอย่างยั่งยืนซึ่งเป็นนวัตกรรมการบริหารจัดการชลประทานเชิงรุกพร้อมกัน 2 รูปแบบ
คือการบริหารจัดการอุทกภัยประจำปีล่วงหน้าแบบเฉพาะกิจกับการบริหารจัดการระบบน้ำและชลประทานแบบยั่งยืนด้วยการบูรณาการทุกภาคส่วนภายใต้เพชรบุรีโมเดลเป็นจังหวัดแรก” นายอลงกรณ์กล่าวในที่สุด