“อลงกรณ์” เร่งวางรากฐานการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืน 7,255 ตำบล ทุกจังหวัดทั่วประเทศ ลุยเดินหน้าผนึกพลังชุมชนนำร่องเพชรบุรีโมเดลร่วมกับหน่วยราชการศูนย์ AIC และภาคเอกชน
นายอลงกรณ์ พลบุตร ที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการขับเคลื่อนเกษตรกรรมยั่งยืนแห่งชาติเปิดเผยวันนี้ภายหลังเป็นประธานการประชุมเพื่อสร้างการรับรู้นโยบายและแนวทางการขับเคลื่อนคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบลในจังหวัดเพชรบุรี ภายใต้เพชรบุรีโมเดลเป็นจังหวัดแรก ที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลบ้านหม้อและที่ห้องประชุมองค์การบริหารส่วนตำบลหนองโสน อำเภอเมือง จังหวัดเพชรบุรี
โดยมีคณะกรรมการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล, ตัวแทนส่วนราชการสังกัดกระทรวงเกษตร, กลุ่มอาสาสมัครเกษตร, กลุ่มเกษตรแปลงใหญ่ เกษตรกรรุ่นใหม่(Young smart farmer ), ศูนย์เรียนรู้การเพิ่มประสิทธิภาพการผลิตสินค้าเกษตร(ศพก.), วิสาหกิจชุมชน, กลุ่มแม่บ้านเกษตร, ปราชญ์เกษตร, กลุ่มผู้ใช้น้ำ, ผู้แทนศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมหรือศูนย์AIC เพชรบุรี, ผู้แทนคณะทำงานเพชรบุรีโมเดล, ผู้แทนคณะกรรมการพัฒนาแบรนด์เพชรบุรี, คณะทำงานที่ปรึกษารัฐมนตรีเกษตรและสหกรณ์ และผู้นำชุมชนในตำบลบ้านหม้อ ต้นมะม่วง ตำบลหนองโสน ตำบลธงชัย และตำบลบ้านกุ่ม เข้าร่วมประชุม
นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวถึงวัตถุประสงค์ในการประชุมว่าต้องการที่จะให้แต่ละตำบลได้มีการพัฒนาระบบเกษตรกรรมในแนวทางการพัฒนาอย่างยั่งยืนพร้อมกันทั่วประเทศ 7,255 ตำบล ขณะนี้มีการแต่งตั้งเสร็จแล้ว ซึ่งเป็นความร่วมมืออย่างใกล้ชิดระหว่างกระทรวงเกษตร กระทรวงมหาดไทยและทุกภาคีภาคส่วนโดยหวังว่าการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนจะสร้างอาชีพสร้างรายได้เพิ่มให้กับเกษตรกรและชุมชน เป็นเครื่องมือในการแก้ปัญหาหนี้สินและความยากจน โดยมีการส่งเสริมทั้ง 3 สาขาเกษตร คือ พืช ประมง และปศุสัตว์ ตามศักยภาพและอัตลักษณ์ของแต่ละตำบลเป็นการปักหลักวางหมุดหมายการพัฒนาแบบยั่งยืนลงไปถึงระดับชุมชนหมู่บ้าน ภายใต้ 5 ยุทธศาสตร์ของ ดร.เฉลิมชัย ศรีอ่อน รัฐมนตรีเกษตรฯ ได้แก่ ตลาดนำการผลิต เทคโนโลยีเกษตร 4.0 เกษตรปลอดภัย เกษตรยั่งยืน เกษตรมั่นคง การบูรณาการทำงานเชิงรุกทุกภาคส่วน และเกษตรกรรมยั่งยืนตามแนวทางศาสตร์พระราชาเพื่อสร้างการเปลี่ยนแปลงในระดับพื้นที่ซึ่งจะเป็นกลไกการพัฒนาหมู่บ้านตำบลแบบบูรณาการทุกภาคส่วน เชื่อว่ากลไกใหม่ที่วางไว้ทุกตำบลทั่วทั้งประเทศ จะเป็นเสาเข็มใหม่ 7,255 ต้นที่จะเป็นฐานที่แข็งแกร่งให้กับชุมชนและประเทศ
นายอลงกรณ์ พลบุตร กล่าวว่า ประโยชน์ที่ประชาชนจะได้รับของโครงการนี้คือการมีแผนพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนที่ชัดเจนของแต่ละตำบลใน 4 ด้าน ได้แก่ เกษตรอาหาร, เกษตรสุขภาพ, เกษตรพลังงาน, และเกษตรท่องเที่ยว เพื่อสร้างอาชีพใหม่ ๆ การจ้างงานใหม่ ๆ เช่น โครงการตลาดออนไลน์ตำบล, โครงการร้านค้าเกษตรปลอดภัยตำบล, โครงการเกษตรแปลงใหญ่ (Big Farm), โครง การศูนย์บริการดินและปุ๋ยชุมชน, โครงการธนาคารต้นไม้, โครงการเกษตรอินทรีย์, โครงการเกษตรทฤษฎีใหม่, โครงการพืชสมุนไพร-ตำรับยาไทย, โครง การศูนย์ความรู้เกษตรตำบล, โครงการสร้างแบรนด์สินค้าตำบล, โครงการอาหารแห่งอนาคต, โครงการตำบลสีเขียว, โครงการ 1 ตำบล 1 สินค้าแชมเปี้ยน โครง การปศุสัตว์-ประมงตำบล, โครงการเครือข่ายศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัต กรรมเชื่อมโยงกับศูนย์เทคโนโลยีเกษตรและนวัตกรรมจังหวัดเพชรบุรี หรือศูนย์ AIC (มหาวิทยาลัยราชภัฏเพชรบุรี), และโครงการชลประทานชุมชนมีคณะทำ งานจัดทำแผนและขับเคลื่อนการพัฒนาการบริหารจัดการน้ำเพื่อแก้ไขปัญหาภัยแล้งน้ำท่วมแบบยั่งยืน เป็นต้น
สำหรับเพชรบุรี ถือเป็นจังหวัดแรกที่มีการขับเคลื่อนโครงการพัฒนาเกษตรกรรมยั่งยืนระดับตำบล วันนี้เริ่มที่ตำบลบ้านหม้อ, ตำบลต้นมะม่วง, ตำบลหนองโสน, ตำบลบ้านกุ่ม, ตำบลธงชัย เพื่อทำความเข้าใจถึงบทบาทหน้าที่ของทุกภาคส่วนเช่น อบต. อาสาสมัครเกษตร ซึ่งเรามีอยู่ทุกหมู่บ้านตำบลได้เข้ามามีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนในฐานะที่เป็นกรรมการตัวแทนจากทุกหมู่บ้านรวมไปถึงภาคเอกชนในตำบลนั้น ๆ ในการดำเนินโครงการพัฒนาตำบลให้เกิดการเปลี่ยน แปลงตั้งแต่ต้นน้ำกลางน้ำปลายน้ำ โดยยึดแนวทางสำคัญคือ การพัฒนาอย่างยั่งยืนแบบมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วนโดยชุมชน ของชุมชนเพื่อชุมชน