ลำพูน – ทนายดังเมืองลำพูน “ทนายหนึ่ง จิระพันธ์ ยานะเรือง” ลงสมัครชิงเก้าอี้ประธานสภาทนายความจังหวัดลำพูน อีกสมัย เลือก 20 พ.ย.นี้ ประกาศพร้อมทำเพื่อองค์กรสภาทนายความลำพูน
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ที่ศาลจังหวัดลำพูน ได้มีการเปิดรับสมัครเลือกตั้งประธานสภาทนายความจังหวัดลำพูน โดยมี ผู้อำนวยการเลือกตั้งประธานสภาทนายความจังหวัดลำพูน เป็นผู้ดำเนินการรับสมัคร โดยบรรยายเป็นไปด้วยความคึกคัก มีทีมงานและผู้สนับสนุนทุกฝ่ายมาให้กำลังใจ ทั้งนี้ การเลือกตั้งดังกล่าวเพื่อแทน ที่ครบวาระไปนั้น
ด้าน ทนายหนึ่ง จิระพันธ์ ยานะเรือง ผู้สมัครรับเลือกตั้งเป็นประธานสภาทนายความจังหวัดลำพูนหมายเลข 1 กล่าวถึงความมั่นใจการลงสมัครรับเลือกตั้ง ว่าการตัดสินใจลงสมัครรับเลือกตั้งประธานสภาทนายความจังหวัดลำพูน ในครั้งนี้ เนื่องจากตนมีความพร้อม และมีประสบการณ์ในการทำงานและบริหารองค์กร มูลนิธิ สมาคม มาแล้วหลายแห่ง จนเป็นผลสำเร็จ เป็นทั้งกรรมการ และอนุกรรมการจังหวัด มหาวิทยาลัย และหลายภาคส่วน รวมทั้งเป็นอดีตประธานสภาทนายความจังหวัดลำพูนในปี 2562-2565 จึงมีความเชื่อมั่นว่าจะสามารถทำหน้าที่ประธานสภาทนายความจังหวัดลำพูนได้เป็นอย่างดี ทนายหนึ่ง จิระพันธ์ ยานะเรือง กล่าวต่อว่า และหากได้รับการเลือกตั้งจะยึดมั่นหลักการบริหารจัดการองค์กร เพื่อให้ทนายความทุกคนมีส่วนร่วมในการขับเคลื่อนองค์กรด้วยความภาคภูมิใจในวิชาชีพ มีวิสัยทัศน์เพื่อสร้างเสริมให้ทนายความซึ่งเป็นเสาหลักเสาหนึ่งในกระบวนการยุติธรรม เป็นเสาหลักที่แข็งแกร่งและเป็นที่พึ่งของประชาชนสืบไป
ทั้งนี้ มีโดยมีนโยบายนำเสนอ เช่น สร้างความสามัคคีระหว่างสมาชิกสภาทนายความ, ส่งเสริม การทํางานร่วมกับหน่วยงานในกระบวนการยุติธรรม หน่วยงานราชการต่างๆ ของภาครัฐและภาคเอกชน, เน้นให้สมาชิกสภาทนายความจังหวัดลําพูน มีส่วนร่วมในบริหารสภาทนายความจังหวัดลําพูน, ประสานกับสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอให้สนับสนุนงบประมาณในการบริหาร สภาทนายความจังหวัดลําพูน ให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด, พัฒนาศูนย์ให้บริการ รับ คําร้อง คําขอ ต่างๆ เช่น คําร้องขอต่อใบอนุญาตทนายความ เปลี่ยนแปลงข้อมูลสําคัญ และขอหลักฐานการเป็นทนายความ ได้ที่สภาทนายความจังหวัดลําพูน ให้สะดวกและรวดเร็วขึ้น นโยบายด้านวิชาชีพทนายความ, จัดตารางเวรทนายความอาสาตามลําดับทนายความอาสาที่ขึ้นทะเบียนไว้, จัดการอบรมกฎหมายสําคัญ หรือกฎหมายที่บัญญัติใหม่ หรือกฎหมายที่ทําการแก้ไข ให้กับสมาชิก สภาทนายความจังหวัดลําพูน, ประสานกับศาลจังหวัดลําพูน ในกรณีการจัดตารางบัญชีทนายความขอแรง ให้พิจารณาทนายความจังหวัดลําพูน ที่ขึ้น ทะเบียนเป็นทนายความขอแรงของศาลจังหวัดลําพูน เป็นอันดับแรก, ประสานกับสภาทนายความในพระบรมราชูปถัมภ์ เพื่อขอให้ทนายความอาสาจังหวัดลําพูน ไปนั่งให้คําปรึกษากฎหมาย ประจ้าสถานีต้ารวจและส่วนราชการต่างๆ เพิ่มขึ้นจากที่ได้รับการอนุมัติไว้แล้ว, ประสานกับส่วนราชการต่างๆ เพื่อจัดให้มีโครงการทนายความอาสาประจําส่วนราชการ, จัดให้มีการเผยแพร่ความรู้ด้านกฎหมายแก่ประชาชน หน่วยงานราชการ และภาคเอกชน – นโยบายด้านสวัสดิการ จัดตั้งกองทุนสวัสดิการความมั่นคง เพื่อช่วยเหลือสมาชิกทนายความทนายความจังหวัดลําพูน เมื่อได้รับความ เดือดร้อนจากการเจ็บป่วย เสียชีวิต, จัดให้มีการทําประกันภัยแบบกลุ่มให้กับสมาชิกสภาทนายความจังหวัดลําพูน , ประสานกับสถาบันการเงิน ให้คิดดอกเบี้ยอัตราต่ํา ในกรณีที่สมาชิกสภาทนายความจังหวัดลําพูน ประสงค์จะซื้อรถ สร้างสํานักงานทนายความ และ ที่พักอาศัย นโยบายด้านสันทนาการ, จัดให้มีกีฬา กิจกรรมเชื่อความสัมพันธ์ ทั้งภายใน และภายนอกองค์กรสภาทนายความจังหวัดลําพูน นโยบายด้านสถานที่ทําการ, จัดสร้างที่ทําการสภาทนายความจังหวัดลําพูน ถาวร ตามที่ได้ติดต่อประสานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไว้แล้ว เพื่อให้บริการสมาชิกสภาทนายความจังหวัดลําพูน และประชาชน นโยบายอื่นๆ, จัดให้มีรางวัล ยกย่องเชิดชูเกียรติ ให้กับสมาชิกสภาทนายความจังหวัดลําพูน ที่ประกอบคุณงามความดี
ทนายหนึ่ง กล่าวส่งท้ายว่า การอาสามาทำงานในจุดนี้ ไม่ใช่มาเป็นผู้นำ แต่มาเป็นผู้ทำ โดยเป็นผู้ทำที่ถูกเรียกว่าผู้นำ จริงๆ แล้วการเชื่อมความสัมพันธ์ระหว่างผู้อาวุโสกับรุ่นน้องๆ เป็นสิ่งที่สำคัญ ซึ่งผมคิดว่าผมสามารถทำงานในจุดนี้ได้เพื่อให้องค์กรมีความรัก ความสามัคคี และรักษาความสมดุลทั้งทนายที่มาจากที่อื่นๆ แต่มาขึ้นทะเบียนที่ลำพูนและทนายเป็นคนลำพูน เพราะทุกคนคือพี่น้อง และทุกคนมีส่วนร่วมในการทำกิจกรรมดีๆ ของสภาทนายความ สิ่งที่จะต้องรักษาไว้ คือ ศักดิ์ศรีขององค์กร ศักดิ์ศรีของทนายความ และศักดิ์ศรีของตัวเองที่ไม่มีทางที่จะนำตำแหน่งไปหาผลประโยชน์ส่วนตัว และคิดว่าการลงสมัครรับเลือกตั้งในสมัยนี้ตนมีความพร้อมที่จะทำงานเพื่อองค์กรและจะทำให้สิ่งที่ตัวเองอยากจะทำเพื่อองค์กร และเชื่อว่าตนจะสามารถรวบรวมพี่น้องทนายความทุกคนให้เข้าร่วมกิจกรรมของสภาทนายความจังหวัดลำพูนได้ให้มากที่สุด
ศูนย์ข่าวภาคเหนือ
สำนักข่าวความมั่นคง
นที มีเดช รายงาน