นนทบุรี – หนุ่มลำปาง ร้องทนายรณณรงค์หลังถูกชายเมาสุราอ้างเป็นตำรวจปปส.ใช้อาวุธปืนยิง
เมื่อเวลา 13.00 น. วันที่ 9 พ.ย.65 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะต.บางพูด อ.ปากเกร็ดจ.นนทบุรี นายทวีพงศ์ ยอดศิริ อายุ 36 ปี ชาวบ้านในจ.ลำปาง พร้อมพี่ชายเดินทางเข้าร้องเรียนกับนายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม หลังถูกชายอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจปปส.มีลักษณะเมาสุราเดินเข้ามาตามหาหญิงสาวคนหนึ่งภายในร้าน เมื่อไม่เจอหญิงสาวกลับหาเรื่องก่อนจะตบเข้าที่ศรีษะหลายครั้งจนต้องวิ่งหนี แต่กลับถูกชายดังกล่าวใช้อาวุธปืนยิงใส่โชคดีที่ไม่โดน พอแจ้งความกลับถูกตำรวจในโรงพักบอกให้จบเรื่องกันไป พร้อมพูดว่ากินเงินตำรวจไม่อร่อยน่ะ หลังจากนั้นก็ถูกข่มขู่มาตลอดจนต้องหลบหนีออกจากจังหวัด เข้ามาร้องเรียนกับทนายความเพื่อขอให้ช่วยดำเนินคดีกับชายดังกล่าว เนื่องจากกลัวตนเองและครอบครัวจะไม่ปลอดภัย
นายทวีพงศ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 21 ต.ค.65 เวลา 00.00 น. ตนได้ออกไปนั่งดื่มสังสรรค์กับเพื่อนร่วม 3 คน ที่ร้านคาราโอเกะแห่งหนึ่งในอ.เมืองลำปาง กระทั่งเวลา 02.00 น. ได้มีชายอายุประมาณ 25 -30 ปี ตัดผมเกรียน ใส่กางเกงขายาวสีนำ้ตาล สวมเสื้อแจ๊คเก็ตสีดำคล้ายเจ้าหน้าที่ตำรวจ เดินเข้ามาในร้านพร้อมกับตะโกนเรียกชื่อหญิงสาวคนหนึ่ง แต่ไม่เจอก่อนจะหันมามองหน้าพวกตนที่นั่งกันอยู่ที่โต๊ะ แล้วเดินกลับออกไปก่อนจะย้อยกลับเข้ามาใหม่พร้อมกับบอกว่าตนให้ของลับเขา ซึ่งตนและเพื่อนไม่ได้ให้แต่อย่างใด ชายดังกล่าวได้ใช้มือตบมาที่ศรีษะตนอย่างแรง 1 ครั้ง พอตนลุกจะสู้ป้องกันตัวชายดังกล่าวได้เปิดเสื้อชูอาวุธปืนที่เหน็บอยู่ที่ท้องให้ดู หลังจากนั้นได้ใช้มือตบที่ศรีษะตนอีก 5-6 ครั้ง ก่อนจะเตะเข้าที่หน้าอกอีก 1 ครั้ง และบอกว่ากูชื่อแบงค์เป็นตำรวจปปส. ขอค้นตัวหาสิ่งผิดกฎหมาย ตนก็ยอมให้ตรวจค้นแต่ก็ไม่เจออะไรจึงได้พูดขอดูบัตรเจ้าหน้าที่หน่อย ชายดังกล่าวจึงบอกว่าบัตรอยู่ในรถอยากดูให้ไปดูที่รถพร้อมกับกระชากแขนตนพยายามให้ไปที่รถ ตอนนั้นตนคิดว่าถ้าไปที่รถกับเขาน่าจะเกิดอันตรายจึงได้สะบัดมือก่อนจะวิ่งหนีออกไปนอกร้าน ก็ได้ยินเสียงปืนดังขึ้นตามหลังมา 1 นัดจึงรีบวิ่งเข้าไปหลบในพงหญ้าข้างทาง จนเห็นว่าชายดังกล่าวขับรถออกไปแล้วจึงเดินกลับมาที่ร้านและโทรศัพท์บอกเรื่องที่เกิดขึ้นให้พี่ชายฟังก่อนจะเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจสภ.เมืองลำปาง ในวันที่ 24 ต.ค.65 ก็มีเจ้าหน้าที่ตำรวจของโรงพักเข้ามาพูดคุยบอกกับตนว่าเคลียร์กันให้มันจบๆไป พร้อมกับเสนอเงินให้ตนจำนวน 100,000 บาท แต่ตนปฎิเสธ ก่อนที่เขาจะพูดข่มขู่ว่ากินเงินตำรวจไม่อร่อยน่ะ หลังจากนั้นก็มีชายคล้ายตำรวจขับรถวนเวียนมาที่บ้านของตนหลายครั้ง จนรู้สึกว่าไม่ปลอดภัยแล้วจึงหนีออกจากบ้านในจ.ลำปางหนีไปอยู่ที่จังหวัดอื่นและตัดสินใจนำเรื่องที่เกิดขึ้นมาร้องเรียนกับทางทนายรณณรงค์ให้ช่วยเหลือ เพราะเท่าที่ตนทราบมาชายที่ทำร้ายตนเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจจริงยศจ่าและเป็นคนขับรถให้กับนายตำรวจยศใหญ่คนหนึ่งในจังหวัด
ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า หลังรับเรื่องร้องเรียนแล้วจะพานายทวีพงศ์ เดินทางเข้าทำเรื่องร้องเรียนที่กองบังคับการปปส. ว่าชายดังกล่าวเป็นเจ้าหน้าที่ตำรวจในสังกัดจริงหรือไม่ พร้อมกับจะยื่นเรื่องให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบช่วยลงมาทำคดีให้ด้วยเพราะผู้เสียหายเกรงจะไม่ได้รับความเป็นธรรมเนื่องจากคนก่อเหตุเป็นตำรวจในพื้นที่ ส่วนหากคนก่อเหตุจะอ้างว่าเป็นการปฎิบัติหน้าที่นั้นก็ต้องมาดูว่า คุณมาคนเดียวสภาพเมาสุรามาจะปฎิบัติหน้าที่ได้ยังไง การขอตรวจค้นทำถูกต้องไหมตามกฎหมายมีทั้งการทำร้ายร่างกาย ใช้อาวุธปืนยิงใส่ขนาดนี้มันผิดหลักการณ์ไปหรือเปล่า
สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี