ข่าวใหม่อัพเดท » บช.ปส. แถลงผลการจับกุมเครือข่ายลักลอบค้ายาเสพติดรายสำคัญมูลค่ายาเสพติดสูงถึง 106,500,000 บาท

บช.ปส. แถลงผลการจับกุมเครือข่ายลักลอบค้ายาเสพติดรายสำคัญมูลค่ายาเสพติดสูงถึง 106,500,000 บาท

2 กันยายน 2019
0

          เมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 2 ก.ย ที่กองบัญชาการตำรวจปราบปรามยาเสพติด(บช.ปส.) พล.ต.อ.เฉลิมเกียรติ ศรีวรขาน รอง ผบ.ตร. พร้อม พล.ต.ท.ชินภัทร สารสิน ผบช.ปส.,พล.ต.ต.พรชัย เจริญวงศ์ รอง ผบช.ปส.,พล.ต.ต.สุรศักดิ์ ขุนณรงค์ ผบก.ปส.1,พล.ต.ต.ยิ่งยศ เทพจำนงค์ ผบก.ปส.2,พล.ต.ต.วัชระ ทิพย์มงคล ผบก.ปส.3,พล.ต.ต.บัญชา ศรีพัทยากร ผบก.สกส.บช.ปส.,พ.ต.อ.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ รอง ผบก.ปส.3 ร่วมกับ กอ.รมน.,ป.ป.ส.,ป.ป.ง.,กรมศุลกากร

          แถลงผลการจับกุมเครือข่ายลักลอบค้ายาเสพติดรายสำคัญ มีผู้ต้องหาในคดี 2 ราย ของกลางเป็นเฮโรอีน 105 กิโลกรัม โคคาอีน 1,500 กรัม มูลค่ายาเสพติด 106,500,000 บาท ตรวจยึดทรัพย์สินได้อีก 500,000 บาท

          พล.ต.ต.บัญชา กล่าวว่า คดีแรกจับกุมนายศิริขวัญมิ่งเมือง คำธา อายุ 46 ปี ชาวจังหวัดเชียงใหม่ พร้อมของกลางเฮโรอีน 300 แท่ง หนัก 105 กิโลกรัม รถยนต์บรรทุกฮุนได 1 คัน และโทรศัพท์มือถือ 2 เครื่อง จับกุมได้ที่ห้องเช่าย่านโรงกลึงแห่งหนึ่ง ใน ต.บางหลวง อ.เมือง จ.ปทุมธานี

          ชุดจับกุมสืบสวนทราบเบาะแสว่า มีขบวนการค้ายาเสพติดเตรียมจะลำเลียงยาเสพติดมาเก็บพักไว้ที่โกดังเช่าในพื้นที่จังหวัดปทุมธานี โดยผู้ต้องหามีพฤติกรรมเดินทางเข้าออกเป็นประจำ จึงวางกำลังเข้าสกัดกั้นและจับตัวผู้ต้องหาได้ที่ห้องเช่าโรงกลึ่งดังกล่าว พร้อมของกลางเฮโรอีน 300 ก้อน เจ้าตัวรับสารภาพว่าได้รับฝากเฮโรอีนดังกล่าวมานานหลายปี ค่าจ้างตกลังละ 50,000 บาท เบื้องต้นแจ้งข้อหา “มียาเสพติดให้โทษประเภท 1 (เฮโรอีน) ไว้ครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” พร้อมนำของกลางและผู้ต้องหาส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี ก่อนขยายผลออกหมายจับบุคคลในเครือข่ายและยึดทรัพย์ ตาม พ.ร.บ.มาตรการฯ ต่อไป

          พล.ต.ท.ชินภัทร กล่าวอย่างไรก็ตาม เฮโรอีนไม่เป็นที่นิยมในประเทศไทย ปกติแล้วมักจะถูกส่งออกไปจำหน่ายต่อในประเทศไต้หวัน ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์ และอเมริกา ส่วนต้นทางการผลิตนั้นมีอยู่แหล่งเดียว เพราะสารตั้งต้นเฮโรอีนมาจากฝิ่น แต่ไม่สามารถเปิดเผยได้

         คดีต่อมาจับกุมนางลูซี่ เดอเรมม่า โอมม่า(MRS.LUCY NDEREMA OUMA) อายุ 30 ปี ชาวเคนยา พร้อมของกลางโคคาอีน 121 ก้อน หนัก 1,500 กรัม และโทรศัพท์มือถือ 1 เครื่อง ภายหลังเจ้าหน้าที่ชุดจับกุมและกรมศุลกากร พบผู้โดยสารต้องสงสัยเป็นเครือข่ายยาเสพติดเดินทางเข้ามาภายในประเทศ จึงได้ติดตามไปยังช่องตรวจไม่มีสิ่งของต้องสำแดง (ช่องเขียว) อาคารผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศ และตรวจสอบกระเป๋าสัมภาระของนางลูซี่ ด้วยเครื่องเอ็กซเรย์ ไม่พบสิ่งของผิดกฎหมาย แต่เมื่อซักถามนางลูซี่ รับว่าได้ซุกซ่อนยาเสพติดไว้ภายในช่องคลอด 1 ก้อนใหญ่ หนัก 305 กรัม และกลืนลงในช่องท้อง 120 ก้อนเล็ก เป็นโคคาอีน สอบถามทราบว่าได้รับยาเสพติดมาจากประเทศในแถบยุโรป ก่อนมาพักในแอฟริกาใต้ และทำมาแล้วไม่ต่ำกว่า 3 ครั้ง โดยมีผู้ว่าจ้างเป็นชาวผิวสี และจะนำยาเข้ามาจำหน่ายตามสถานบันเทิง ซึ่งจะได้ค่าจ้างเป็นเงินสกุลดอลล่าร์ แต่ไม่เปิดเผยจำนวน จึงจับกุมนางลูซี่ พร้อมแจ้งข้อหา “นำยาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) เข้ามาในราชอาณาจักรโดยไม่ได้รับอนุญาต, และมียาเสพติดให้โทษประเภท 2 (โคคาอีน) ไว้ในครอบครองเพื่อจำหน่ายโดยไม่ได้รับอนุญาต” ก่อนนำตัวส่งพนักงานสอบสวนดำเนินคดี

Cr. จักรินทร์

error: Content is protected !!