นครพนม – อุทาหรณ์ ผู้สูงอายุ ลุงวัย 63 ปี ขับกระบะ สายตาไม่ค่อยดี ชนท้ายรถจักรยานยนต์ กระเด็นไกลเกือบ 100 เมตร คนขับรถจักรยานยนต์ วัย 55 ปี ดับคาที่ เมียร่ำไห้แท็บช็อกรุดดูศพสามี สุดท้ายเป็นเพื่อนบ้านกันเป็นคนชน ลุงขับกระบะยอมรับสายตาไม่ดี มองไม่เห็น เจ้าหน้าที่เตือนผู้สูงอายุขับรถระมัดระวังงดใช้ความเร็ว
เวลา 09.00 น. วันที่ 19 พฤศจิกายน 2565 ร.ต.อ.สุเมธ ศรีหาวงษ์ รองสารวัตรสอบสวน สภ.บ้านกลาง อ.เมือง จ.นครพนม รับแจ้งมีอุบัติเหตุรถยนต์กระบะเฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์มีผู้เสียชีวิต บริเวณถนนทางหลวงแผ่นดินหมายเลข 212 (ชยางกูร) สายธาตุพนม-นครพนม ใกล้ตู้ยามตำรวจ สภ.บ้านกลาง ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม เยื้องตลาดสดบ้านกลางจึงประสานแพทย์เวรโรงพยาบาลนครพนม รถกู้ชีพ อบต.บ้านกลาง และเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้อง ร่วมตรวจสอบชันสูตรศพผู้เสียชีวิต
โดยที่เกิดเหตุเป็นถนน 4 เลน ฝั่งมุ่งหน้าเข้าตัวเมืองนครพนม พบรถยนต์กระบะยี่ห้อโตโยต้า สีน้ำเงิน ทะเบียน บท 8367 นครพนม จอดอยู่ไหล่ทาง สภาพด้านหน้ามีรอยเฉี่ยวชน ส่วนคนขับทราบชื่อคือ นายล้ำ มูลตั้ง อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.ดงขวาง อ.เมือง จ.นครพนม ซึ่งเป็นจ้าของร้านจำหน่ายอุปกรณ์การเกษตร ยังคงยืนตกใจในที่เกิดเหตุ และรอให้การกับตำรวจ ส่วนรถคู่กรณีเป็นรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นไนซ์ สีน้ำเงินคาดขาว ทะเบียน กฉน 949 นครพนม สภาพล้มคว่ำตะแคงข้างเกยอยู่เกาะกลางถนน ห่างจากรถยนต์คู่กรณีประมาณ 60 -70 เมตร สภาพท้ายรถ จยย.ถูกชนพังเสียหาย ใกล้กันนั้นพบคนขับรถจักรยานยนต์ นอนเสียชีวิตในที่เกิดเหตุ มีศีรษะเป็นแผลเลือดไหลนองทั่วพื้น เชื่อว่าก่อนเสียชีวิตร่างถูกกระแทกกับรถยนต์และพื้นถนน ทราบชื่อผู้ตายภายหลังคือ นายมงคล คำไชย อายุ 55 ปี ชาวบ้านหนาด หมู่ 11 ต.บ้านกลาง อ.เมืองนครพนม เจ้าหน้าที่จึงตรวจสอบชันสูตรเก็บหลักฐาน
ต่อมาภรรยาของผู้เสียชีวิต เดินทางมาพบสภาพศพแทบช็อก ที่สำคัญยังเป็นที่สลดใจเป็นอย่างมาก เนื่องจากคนขับรถยนต์กับผู้ตายเป็นเพื่อนบ้านและมีบ้านอยู่ติดกัน
เบื้องต้นจากการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทราบว่าก่อนเกิดเหตุ ขณะนายล้ำ มูลตั้ง อายุ 63 ปี ชาวบ้าน ต.ดงขวาง อ.เมืองนครพนม คนขับรถยนต์ ขับรถมาจากไปธุระเพื่อกลับบ้าน พอมาถึงที่เกิดเหตุไม่ทันระวัง บวกกับสายตาไม่ดี เพราะอายุเยอะแล้ว จึงมองไม่ค่อยเห็นรถจักรยานยนต์ ด้านหน้า จึงชนเข้าอย่างจัง ส่งผลให้คนขับรถจยย.เสียชีวิตคาที่ โดยทางเจ้าหน้าที่จะได้สอบสวน เก็บหลักฐานโดยละเอียดประกอบการดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป พร้อมแจ้งเตือนผู้ใช้รถใช้ถนน ขับรถด้วยความระมัดระวัง งดใช้ความเร็ว และปฏิบัติตามกฎจราจร โดยเฉพาะผู้สูงอายุ ควรระมัดระวัง ไม่จำเป็นควรงดขับยวดยานพาหนะ
//ภาพ-ข่าว//
เทพข่าวร้อน
สำนักข่าวความมั่นคง
จังหวัดนครพนม รายงาน