ตัวแทนชาวสวนลำไย 8 จว. ภาคเหนือ ขอบคุณ “นายกตู่” ห่วงใย ส่งพีระพันธุ์ รับเรื่องเร่งติดตามเงินเยียวยาลำไย
สืบเนื่องจากผู้นำกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ และตัวแทนเกษตรกรผู้ปลูกลำไยได้รวมตัวยื่นหนังสือติดตามเงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ ไร่ละ 2,000 บาท ถึงพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี โดยมีนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือ เมื่อวันที่ 26 ม.ค.66 ที่ศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ของรัฐบาล ที่ผ่านมา นั้น
วันที่ 29 มกราคม 2566 จ.ส.อ.นิกร บุญชัย ผู้ประสานงานเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ กล่าวว่า จากที่กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้รวมตัวยื่นหนังสือติดตามเงินเยียวยาเกษตรกรชาวสวนลำไย ถึงนายกรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 26 ม.ค.ที่ผ่านมา ซึ่งกลุ่มเครือข่ายเกษตรกร 8 จังหวัดภาคเหนือ รู้สึกมีความหวังและต้องขอขอบคุณ นายกรัฐมนตรี ได้มีความห่วงใยและรับฟังปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรฯ พร้อมทั้งส่งนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค เลขาธิการนายกรัฐมนตรี เป็นตัวแทนรับหนังสือติดตามเยียวยาลำไย หลังยื่นหนังสือและมีการประชุมหารือ ซึ่งนายพีระพันธุ์ได้มอบหมายให้ นายประทีป กีรติเลขา รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และดร.มงคลชัย สมอุดร รองปลัดสำนักนายกรัฐมนตรี เป็นผู้รับผิดชอบในการเร่งติดตามหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ซึ่งผลในที่ประชุมดังกล่าว เป็นที่น่าพอใจให้กับกลุ่มเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ เป็นอย่างมาก และต้องขอขอบคุณ ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ ที่เป็นกำลังหลักในการช่วยประสานงานในการยื่นหนังสือจนเป็นที่เรียบร้อยดี
จ.ส.อ.นิกร กล่าวต่อว่า นับว่ามีความคืบหน้าไปมาก สืบเนื่องจากที่ กลุ่มเครือข่ายเกษตรกรชาวสวนลำไย 8 จังหวัดภาคเหนือ ได้รวมตัวยื่นข้อเรียกร้องให้นายกรัฐมนตรีช่วยเร่งรัดการจ่ายค่าชดเชย หลังขาดทุนยับมากว่า 2 ปี เมื่อครั้งที่ นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางมาตรวจราชการ จังหวัดเชียงราย เมื่อวันที่ 21 ธันวาคม 2565 ที่ผ่านมา โดยมี ดร.หิมาลัย ผิวพรรณ เป็นตัวแทนจากนายกรัฐมนตรีมารับมอบหนังสือพร้อมยังได้เปิดโอกาสให้เข้ามาพบปะเพื่อนำเสนอปัญหาความเดือดร้อนของเกษตรกร เกี่ยวกับเงินเยียวยาของชาวสวนลำไย ไร่ละ 2,000 บาท ไม่เกิน 25 ไร่ต่อครัวเรือน ซึ่งเกษตรกรชาวสวนลำไยได้ขาดทุนต่อเนื่องมาตั้งแต่ปี 2564-2565 เนื่องจากผลผลิตราคาตกต่ำจากการมีพ่อค้าคนกลางกำหนดราคาซื้ออย่างไม่เป็นธรรม จึงเรียกร้องให้ภาครัฐช่วยเหลือเกษตรกร เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนและแก้ไขปัญหาโครงสร้างราคาให้มีความเหมาะสม
จ.ส.อ.นิกร กล่าวต่ออีก ว่าหากเกษตรกรได้รับเงินเยียวยาไร่ละ 2,000 บาท รายละไม่เกิน 25 ไร่ ที่ได้เรียกร้องกันมาตั้งแต่ ปี 64 จนถึง ปี 65 จะได้นำเงินไปใช้หนี้ ที่ขาดทุนติดต่อกัน 2 ปี และ จะนำเงินส่วนที่เหลือ เลี้ยงครอบครัวและเก็บเป็นทุน ในปีต่อไป แม้ว่าจำนวนเงินจะเล็กน้อย แต่ก็มีค่ามากสำหรับเกษตรกรชาวสวนลำไย ซึ่งไม่รู้จะหันหน้าไปพึ่งที่ไหนแล้ว หวังว่า ท่านรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตร และสหกรณ์ และรองนายกรัฐมนตรีที่กำกับดูแลกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ตลอดจนถึงคณะรัฐมนตรี จะมีความเห็นใจพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไย และเร่งนำเรื่องเข้าสู่การพิจารณาของคณะรัฐมนตรี ต่อไป และขอขอบพระคุณท่านนายกรัฐมนตรี พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ที่ได้มอบหมายให้ ท่านพีระพันธ์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี มารับหนังสือ จากพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไย และรับปาก ที่จะดำเนินการติดตามเยียวยาให้กับพี่น้องเกษตรกรชาวสวนลำไย จ.ส.อ.นิกร กล่าวทิ้งท้าย