ข่าวใหม่อัพเดท » “พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สั่งรวบแก๊งเว็บพนันอุ้มวิศวกรรีดทรัพย์ขยายผลเจ้าหน้าที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ส่งคนร้ายใช้ข่มขู่

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สั่งรวบแก๊งเว็บพนันอุ้มวิศวกรรีดทรัพย์ขยายผลเจ้าหน้าที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ส่งคนร้ายใช้ข่มขู่

12 กุมภาพันธ์ 2023
0

“พล.ต.อ.สุรเชษฐ์” สั่งรวบแก๊งเว็บพนันอุ้มวิศวกรรีดทรัพย์ขยายผลเจ้าหน้าที่ค้นข้อมูลทะเบียนราษฎร์ส่งคนร้ายใช้ข่มขู่

จากกรณีเมื่อวันที่ 7 ก.พ.66 เพจสายไหมต้องรอดพร้อมด้วย นายเชิดเกียรติ ศักดิ์ศรี ผู้เสียหาย เข้าร้องขอความช่วยเหลือจาก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.จากเหตุถูกแก๊งเว็บพนันซึ่งมีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้อง อุ้มไปทำร้ายร่างกายอ้างว่าถูกผู้เสียหายโกงเงินหลักแสนบาท รวมทั้งปล้นเอาทรัพย์สินของผู้เสียหายไปหลายรายการ เหตุเกิดเมื่อวันที่ 12 ม.ค.66 ตามที่สื่อมวลชนและโซเชียลได้นำเสนอไปแล้ว นั้น

กรณีดังกล่าว พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร.ได้สั่งการให้ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร.เร่งดำเนินการสืบสวนหาตัวกลุ่มผู้กระทำผิดมาดำเนินคดีโดยเร็ว เนื่องจากเป็นคดีที่ได้รับความสนใจจากประชาชนและสื่อมวลชนอย่างมาก เพราะมีการให้ข้อมูลว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ดังกล่าว และยังมีการก่อเหตุอย่างอุกอาจ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ จึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมกับ สน.โชคชัย ซึ่งเป็นพื้นที่รับผิดชอบในคดีดังกล่าว เร่งสืบสวนติดตามผู้ก่อเหตุในคดีดังกล่าว จึงสั่งการให้นำตัวกลุ่มผู้ก่อเหตุมาดำเนินคดีตามกฎหมายโดยเร็ว

จากการสืบสวนทราบว่า ผู้เสียหายทำงานเป็นแอดมินเว็บไซต์พนันออนไลน์มาแล้วประมาณ 5-6 ปี ทำหน้าที่คอยดูแลลูกค้าและให้คำแนะนำเรื่องฝากถอนเงิน โดยมีกลุ่มของผู้ก่อเหตุเป็นผู้ดูแลเว็บไซต์ ก่อนเกิดเหตุกลุ่มผู้ก่อเหตุตั้งข้อสงสัยว่า ผู้เสียหายโกงเงินไป เนื่องจากยอดเงินไม่ตรง จึงได้มีการนัดหมายเพื่อพูดคุยกัน โดยมีคนมารับผู้เสียหายไปเจอกลุ่มผู้ต้องหาที่ร้านกาแฟในเขต ต.เสม็ด อ.เมือง จ.ชลบุรี มีกลุ่มผู้ต้องหารออยู่ประมาณ 4-5 คน ได้มีการซักถามผู้เสียหายเกี่ยวกับเงินที่หายไป แต่ผู้เสียหายปฏิเสธ จึงถูกกลุ่มผู้ต้องหาเตะต่อยหลายครั้ง และได้หยิบเอาโทรศัพท์มือถือและแท็ปเล็ตของผู้เสียหายไป และได้กดโอนเงินจากบัญชีของผู้เสียหายไปจำนวน 25,000 บาท ระหว่างนั้นได้มีการแสดงข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายเพื่อข่มขู่ จากนั้นได้พาผู้เสียหายนั่งรถไปที่ห้องพักของผู้เสียหายในย่านลาดพร้าววังหิน แขวง/เขตลาดพร้าว กทม.โดยคนที่พาไปได้มีการเปิดให้เห็นว่ามีการพกอาวุธปืนมาด้วย ทำให้ผู้เสียหายตกใจกลัวและยินยอมไปด้วยดี เมื่อถึงห้องพักพบว่าแฟนสาวของผู้เสียหายอยู่ด้วย กลุ่มผู้ต้องหาได้หยิบเอาทรัพย์สินเป็นรองเท้า และนาฬิกาเพิ่มไปอีก จากนั้นได้ขับรถกระบะหลบหนีไป ผู้เสียหายจึงตัดสินใจร้องขอความช่วยเหลือในเวลาต่อมา

จากข้อมูลดังกล่าว ประกอบกับการรวบรวมพยานหลักฐาน พนักงานสอบสวน สน.โชคชัย จึงได้ขออนุมัติศาลออกหมายจับกลุ่มผู้ต้องหาจำนวน 7 ราย ประกอบด้วย

  1. น.ส.พัชญ์วัญญ์ (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เป็นคนซักถามและเอาโทรศัพท์ผู้เสียหายไปโอนเงิน
  2. นายมนตรี (สงวนนามสกุล) อายุ 39 ปี เป็นคนซักถาม
  3. นายชัยชนะ (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย (มอบตัว)
  4. น.ส.รมิตา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เป็นคนช่วยเช็คข้อมูลบัญชีของผู้เสียหาย (มอบตัว)
  5. นายธเนศ (สงวนนามสกุล) อายุ 34 ปี เป็นคนลงมือทำร้ายร่างกายผู้เสียหาย (มอบตัว)
  6. นายกฤษฎา (สงวนนามสกุล) อายุ 32 ปี เป็นคนขับรถพาไปห้องผู้เสียหาย (มอบตัว)
  7. นายสุทัศน์ (สงวนนามสกุล) อายุ 25 ปี เป็นคนขับรถพาไปห้องผู้เสียหาย (มอบตัว)

โดยจะดำเนินคดีในความผิดฐาน“ปล้นทรัพย์, ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่นจนเป็นเหตุให้ได้รับอันตรายแก่กายหรือจิตใจ, ข่มขืนใจผู้อื่นให้กระทำการใด หรือจำยอมต่อสิ่งใด โดยทำให้กลัวว่าจะเกิดอันตรายต่อชีวิต ร่างกาย เสรีภาพของผู้ถูกข่มขืนใจหรือผู้อื่น หรือโดยใช้กำลังประทุษร้ายจนผู้ถูกข่มขืนใจต้องกระทำการนั้น โดยมีอาวุธ, หน่วงเหนี่ยว กักขัง หรือกระทำด้วยประการใดให้ผู้อื่นปราศจากเสรีภาพในร่างกาย,ทำให้ผู้อื่นเกิดความกลัว หรือตกใจ โดยการขู่เข็ญ, กระทำด้วยประการใดๆ ต่อผู้อื่น อันเป็นการรังแก ข่มเหง คุกคาม ให้ได้รับความเดือดร้อน, มีอาวุธปืนไว้ในครอบครองโดยไม่ได้รับอนุญาต และพาอาวุธปืนติดตัวไปในเมือง หมู่บ้าน หรือทางสาธารณะโดยไม่ได้รับใบอนุญาต โดยไม่มีเหตุจำเป็นและเร่งด่วน” ล่าสุดผู้ต้องหาได้เข้ามอบตัวแล้วจำนวน 5 ราย เหลือติดตามจับกุม 2 ราย

นอกจากนี้ ในส่วนของการตรวจสอบข้อมูลทะเบียนราษฎร์ของผู้เสียหายซึ่งกลุ่มผู้ต้องหานำมาข่มขู่นั้น จากการตรวจสอบพบว่า ได้มีเจ้าหน้าที่ตำรวจให้ความช่วยเหลือในการตรวจสอบข้อมูลดังกล่าว อยู่ในระหว่างการสืบสวนขยายผล หากพบว่าร่วมมือกับกลุ่มผู้กระทำความผิดจริง จะมีการดำเนินคดีถึงที่สุดต่อไป

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า คดีดังกล่าวเป็นที่สนใจของสื่อมวลชนและประชาชนเป็นอย่างมาก เนื่องจากผู้เสียหายได้ให้ข้อมูลว่าเป็นเว็บพนันออนไลน์ที่มีตำรวจเป็นเจ้าของ รวมทั้งมีการก่อเหตุอย่างอุกอาจ ดังนั้นจึงได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ฝ่ายสืบสวนร่วมกับ สน.โชคชัย ในการดำเนินคดีกับกลุ่มผู้ต้องหาโดยเร็ว ในเบื้องต้นสามารถรวบรวมพยานหลักฐานดำเนินคดีกับผู้ต้องหาได้ จำนวน 7 ราย อยู่ในระหว่างติดตามตัวมาดำเนินคดี นอกจากนี้ยังจะดำเนินคดีกับเจ้าหน้าที่รัฐที่ให้การสนับสนุนข้อมูลทะเบียนราษฎร์ให้กลุ่มผู้ต้องหานำมาใช้ข่มขู่ผู้เสียหาย หากพบมีความเกี่ยวข้องจะดำเนินคดีจนถึงที่สุด และยังได้สั่งการให้ฝ่ายสืบสวนทำการรวบรวมพยานหลักฐานเพื่อสืบให้ถึงตัวเจ้าของเว็บไซต์ หากพบผู้เกี่ยวข้อง แม้เป็นเจ้าหน้าที่รัฐจริง ก็จะดำเนินคดีโดยเด็ดขาดไม่มียกเว้น


error: Content is protected !!