“ประพัทธ์” ลงใต้เปิดการอบรมเสริมสร้าง และปลูกฝังจิตสำนึกการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขโรงเรียนเอกชนจังหวัดชายแดนภาคใต้ “กิจกรรมเยาวชนแกนนำจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ”
เช้าวันที่ 13 กุมภาพันธ์ 3566 ที่โรงแรมเซาท์เทิร์น วิว ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี : นายประพัทธ์ รัตนอรุณ รองเลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน (รองเลขาธิการ กช.) เป็นประธานเปิดโครงการเสริมสร้างและปลูกฝังจิตสำนึกการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของสถานศึกษาเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้ กิจกรรม “เยาวชนแกนนำจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ” โดยมี ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด รองผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัด ผู้อำนวยการสำนักงานการศึกษาเอกชนอำเภอ คณะวิทยากร คณะกรรมการดำเนินงาน และผู้บริหาร นักเรียนโรงเรียนเอกชนเข้าร่วมในพิธี
นายประพัทธ์ฯ กล่าวว่า ภายใต้สถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความแตกต่างทางด้านศาสนา วัฒนธรรม อุดมการณ์ และความเชื่อ การจัดกิจกรรมเยาวชนแกนนำจิตอาสาทำดีด้วยหัวใจ ให้เยาวชนได้ทำกิจกรรมร่วมกันเพื่อสร้างสรรค์ความดี เกิดความสามัคคี สร้างจิตสำนึกและปลูกฝังให้เยาวชนมีจิตสาธารณะ พร้อมที่จะช่วยเหลือสังคม อันเป็นการอาสาทำความดีเพื่อพัฒนาสังคม ทำให้เยาวชนรู้จักปรับตัวและสามารถทำงานร่วมกับผู้อื่นได้ ถือเป็นกิจกรรมที่ดี เมื่อพูดถึงการทำความดี การมีจิตอาสาหรือจิตสาธารณะในยุคนี้ ถือว่าควรสนับสนุนอย่างยิ่งในสภาวะที่สังคมขาดแคลนน้ำใจ หลายหน่วยงานและองค์กรต่างๆ ได้พยายามตื่นตัว เรียกร้องให้ผู้คนเสียสละ ช่วยเหลือผู้อื่น และมุ่งเน้นไปที่จุดตั้งต้น คือการเริ่มปลูกฝังตั้งแต่เด็กและเยาวชน โดยหวังว่าสิ่งที่บ่มเพาะตั้งแต่วัยเยาว์เหล่านั้นจะทำให้บ้านเมืองของเราในอนาคต กลายเป็นสังคมที่ไม่แล้งน้ำใจและเอื้ออาทรต่อกันมากขึ้น จิตอาสาสามารถทำได้โดยไม่ได้จำกัดสถานที่ วัย การศึกษา เพศ อาชีพ ฐานะ หรือข้อแม้ใดๆ ทั้งสิ้น แต่ขอให้มีจิตอาสาที่ต้องการช่วยเหลือผู้อื่นหรือสังคมเป็นฐาน ก็สามารถทำจิตอาสาได้ และสิ่งเหล่านี้จะทำให้เกิดประโยชน์สุขกับสังคมอย่างได้ผลเป็นเชิงประจักษ์
นายประพัทธ์ฯ กล่าวอีกว่า สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการศึกษาเอกชน มีความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ในน้ำพระราชหฤทัยอันเปี่ยมล้นด้วยพระเมตตาของพระบาทสมเด็จพระปรเมนทรรามาธิบดีศรีสินทรมหาวชิราลงกรณ พระวชิรเกล้าเจ้าอยู่หัว ที่ทรงทุ่มเท พระวรกาย ปฏิบัติพระราชกรณียกิจนานัปการ โดยคำนึงถึงความอยู่ดีมีสุขของราษฎรเป็นสำคัญ และทรงมีพระราชปณิธานอันแน่วแน่ที่จะพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ที่ดีอย่างยั่งยืนของพสกนิกรทั่วหล้า ทรงเป็นต้นแบบของการทำความดี โดยพระราชทานโครงการจิตอาสา เราทำความดีด้วยหัวใจ เพื่อเสริมความตระหนักรู้ของคนในชาติ และส่งเสริมให้พสกนิกรชาวไทยทุกคนมีความเสียสละ และความสมัครสมานสามัคคีในการสร้างสรรค์ความดี เพื่อประโยชน์แก่ประเทศชาติ
ด้าน นายภิญญา รัตนวรชาติ ผอ.สช.นราธิวาส กล่าวอีกว่า นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ประกอบกับการให้ความสำคัญในการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ความแตกต่างทางด้านศาสนา ความเชื่อ วิถีชีวิต ขนบธรรมเนียมประเพณี ภายใต้สังคมพหุวัฒนธรรม และการจัดการศึกษาที่มุ่งปลูกฝังและส่งเสริมให้ผู้เรียนเป็นผู้มีคุณธรรม จริยธรรมนำความรู้ หล่อหลอมผู้เรียนให้มีทัศนคติเชิงบวก จึงได้จัดสรรงบประมาณตามแผนบูรณาการขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหาจังหวัดชายแดนภาคใต้ โครงการพัฒนาสังคมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็งและเสริมสร้างการมีส่วนร่วมของทุกภาคส่วน กิจกรรมส่งเสริมพหุวัฒนธรรมที่เข้มแข็ง และได้มอบหมายให้สำนักงานการศึกษาเอกชนจังหวัดนราธิวาส ดำเนิน “โครงการเสริมสร้างและปลูกฝังจิตสำนึกการอยู่ร่วมกันอย่างสันติสุขของสถานศึกษาเอกชนในจังหวัดชายแดนภาคใต้” ซึ่งประกอบด้วย 2 กิจกรรมหลัก ได้แก่ กิจกรรมศาสตร์พระราชาสู่การจัดการศึกษาเอกชนที่ยั่งยืน และ กิจกรรมเยาวชนแกนนำจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจโดยกิจกรรมในวันนี้ เป็นกิจกรรมเยาวชนแกนนำจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจมีวัตถุประสงค์ เพื่อสร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติผ่านกิจกรรม “เยาวชนแกนนำจิตอาสาทำความดีด้วยหัวใจ” และเพื่อปลูกฝังค่านิยมรักชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ แก่นักเรียนโรงเรียนเอกชนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้
สำหรับการจัดกิจกรรมในครั้งนี้ เป็นการจัดกิจกรรมในรุ่นที่ 1 กลุ่มเป้าหมาย ได้แก่ ครู บุคลากรทางการศึกษา และนักเรียนโรงเรียนเอกชน 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้ จาก 42 โรงเรียน จำนวนทั้งสิ้น 264 คน มีระยะเวลาในการฝึกอบรม จำนวน 2 วัน ระหว่างวันที่ 13–14 กุมภาพันธ์ 2566 ณ โรงแรมเซาท์เทิร์น วิว ปัตตานี อำเภอเมืองปัตตานี จังหวัดปัตตานี และลงพื้นที่ปฏิบัติหน้าที่จิตอาสาในบริเวณศาสนสถานสำคัญในพื้นที่จังหวัดปัตตานี โดยได้รับเกียรติจาก พันเอกอุดม พุฒินุ้ย ผู้อำนวยการกองกิจการพิเศษ ศูนย์สันติวิธีเป็นวิทยากรบรรยายพิเศษ และอาจารย์วาริน นาราวิทย์ ผู้ช่วยอธิการบดีมหาวิทยาลัยนราธิวาสราชนครินทร์ และคณะ เป็นวิทยากรในกิจกรรมครั้งนี้
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน