“บิ๊กโจ๊ก” ลง จ. ชุมพร ขันน็อตคดีลูกเรือต่างด้าวชาวพม่าถูกทำร้าย
วันนี้(18 ก.พ. 66) เวลา 14.30 น. ณ ห้องประชุมตำรวจภูธรจังหวัดชุมพร พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ ลงพื้นที่ชุมพร ติดตามคดีลูกเรือต่างด้าวชาวพม่าถูกทำร้ายบนเรือใน จ.ชุมพร โดยมี นายวิสาห์ พูลศิริรัตน์ ผวจ.ชุมพร พล.ต.ท. วันไชย เอกพรพิชย์ จเรตำรวจ พ.ต.อ. ประสิทธิ์ศักดิ์ ศรีสุข รอง ผบก ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ ธงชัย นุ้ยเจริญ รอง ผบก ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ. นิรันดร์ กันจู รอง ผบก ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ. กฤตินิธิ ทองทิพย์ รอง ผบก ภ.จว.สุราษฎร์ธานี พ.ต.อ. ธานี นาคหกวิค ผกก.สส. ภ.จว.ชุมพร พ.ต.อ. สมพล บูรณเทศ ผกก.สภ.ปากน้ำชุมพร พนักงานสอบสวนคดี เจ้าหน้าที่สหวิชาชีพและหน่วยงานราชการที่เกี่ยวข้องร่วมประชุม
หลังเมื่อวันที่ 13 ก.พ. 66 พนักงานสอบสวนได้รับแจ้งว่า มีลูกเรือประมงต่างด้าวชาวพม่า ชื่อ นายอาว วิน นาย ไม่มีนามสกุล ถูกทำร้ายร่างกายบนเรือประมงและได้นำส่ง รพ.ชุมพรเขตอุดมศักดิ์ โดยลูกเรือรายดังกล่าวเป็นลูกเรือของ ม.โชควาสนานาวี 9 ที่ทำงานได้เพียง 2 เดือน
จากการสอบสวนเบื้องต้นทราบว่า คนที่ถูกกล่าวหาคือ นายคมสันติ์ เอกฉาย “ไต๋หมึก” อายุ 55 ปี และ นายนัทธพงศ์ เอกฉาย อายุ 24 ปี ด้วยการกระแทกกับปูนและใช้ไม้ตี โดยมีลูกเรือเป็นเพื่อนต่างด้าวในลำอีก 6 ราย และคนไทยอีก 3 ราย อยู่ในเรือเกิดเหตุลำดังกล่าว หลังมูลนิธิ ITF(International Transport Worker’s Faderation)ได้ประสานให้ศูนย์ PIPO ชุมพร ได้แจ้งให้นำเรือลำเกิดเหตุ เดินทางขึ้นฝั่งในทันที เพื่อจะนำผู้บาดเจ็บเข้ารับการรักษา พร้อมทั้งสอบสวนและรวบรวมหลักฐาน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป
ทางด้าน พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า วันนี้ลงมาชุมพรเพื่อ ติดตามคดีการทำร้ายร่างกายลูกเรือประมง วันนี้สถานการณ์การทำประมงของประเทศไทยเรา ได้ยกระดับจากธงเหลืองมาเป็นธงเขียวแล้ว ทำให้การประมงของไทยดีขึ้นและปกป้องรักษาทรัพย์สินประมงทางทะเลให้อยู่ชั่วลูกชั่วหลานไทยต่อไป และรัฐบาล ก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่อง การให้สวัสดิการแก่ลูกเรือชาวประมงและเจ้าของเรือ ในส่วนกรณีที่มีลูกเรือถูกทำร้ายร่างกายใน จ. ชุมพร จนได้รับการบาดเจ็บนั่น ทางท่านผู้ว่าราชการจังหวัดช ท่านก็ได้ใช้กลไกลตามมาตรการการส่งต่อผู้ป่วย และถือว่าเป็นจังหวัดแรกของประเทศไทย ที่สามารถดำเนินการการขับเคลื่อนได้เป็นอย่างดี และถือว่าเป็นจังหวัดแรกที่ทำได้ดีมาก ในส่วนของคดีอาญาของกรณีผู้ใช้แรงงานต่างด้าวทั้ง 6 คน พบว่านายจ้างได้มีการกระทำผิด จากการจ่ายค่าจ้างไม่เป็นไปตามระเบียบที่กำหนด ส่วนอีกรายก็ถูกทำร้ายร่างกาย ตอนนี้อาการดีขึ้นออกจากห้อง ไอ ซี ยู แล้ว กรณีนี้ก็จะมีความผิดฐาน ทำร้ายร่างกายจนสาหัส ซึ่งก็ไม่มีอะไรซับซ้อนจากที่ได้รับรายงานการสอบสวน และน่าจะแล้วเสร็จ และคงดำเนินการต่อจากนี้ก็คือ การเยียวยาให้ผู้เสียหาย โดยท่านผู้ว่าฯชุมพร ก็ได้เร่งรัดให้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ ดำเนินการจ่ายค่าสินไหมให้เร็ว พล.ต.อ. สุรเชษฐ์ หักพาล รองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวปิดท้าย
ในกรณีดังกล่าวทางสหวิชาชีพได้เข้าร่วมสอบสวนด้วย และมีมติความเห็นตรงกันว่า “แรงง
านต่างด้าว ไม่เป็นผู้เสียหายจากการค้ามนุษย์และบังคับใช้แรงงานแต่อย่างใด
สำนักข่าวความมั่นคง
ศูนย์ข่าวชุมพรระนอง
สุรัตน์ รุกเขตต์ รายงาน