พรรคพลังประชารัฐ ปราศรัย อำเภอท่าเรือ ประชาชนให้ความสนใจ สันติ”ควง ชัยวุฒิ”นำทัพเรียกคะแนนชาวกรุงเก่าเลือกผู้สมัคร 3 เขต พปชร. ชูพัฒนาเศรษฐกิจ เพิ่มสวัสดิการยกระดับการศึกษาเท่าเทียมแก้ปัญหาน้ำยั่งยืน
วันที่ 18 กุมภาพันธ์ 2566 เวลา 18.30 น. นายสันติ พร้อมพัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลังและเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ พร้อมด้วยนายชัยวุฒิ ธนาคมานุสรณ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม(ดีอีเอส) รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเวทีปราศรัยเวทีย่อย พรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ณ อำเภอท่าเรือ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีนายรัฐภูมิ โตคงทรัพย์ ทีมโฆษกพรรค, ภญ.นพวรรณ หัวใจมั่น พร้อมเปิดตัวว่าที่ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง 3 เขต ประกอบด้วย นายบุญเชิด ศิริยศ ว่าที่ผู้สมัคร เขต 1 จ.พระนครศรีอยุธยา, นายชณทัต ปัทะมะภูวดล ว่าที่ผู้สมัคร เขต 3 จ.พระนครศรีอยุธยา และ นายธนพล บุญเจริญกิจ ว่าที่ผู้สมัคร ว่าที่ผู้สมัครเขต2 จ.พระนครศรีอยุธยา เป็นการนำเสนอนโยบายหลักสู่ พี่น้องประชาชนชาวอยุธยา ทั้งในเรื่อง การแก้ปัญหาที่ทำกิน ในแคมเปญ“มีเรา มีที่ทำกิน มีที่ดินไม่มีจน” การแก้ปัญหาน้ำ “มีเรา ไม่มีแล้ง มีน้ำ ไม่มีจน และ เพิ่มเงินสวัสดิการเป็น 700 บาท หรือ”ลุงป้อม 700” ซึ่งเป็นแคมเปญหลักในการหาเสียงเบื้องต้นในขณะนี้
โดยก่อนถึงกำหนดการปราศรัย คณะผู้บริหารจากพรรคพลังประชารัฐ พร้อมผู้สมัคร จังหวัดพระนครศรีอยุธยา ทั้ง 3 เขต ได้ลงพื้นที่ขึ้นรถแห่รอบเมืองท่าเรือ ตั้งแต่บริเวณวัดสะตือ จนถึงตลาดท่าเรือ ตลอดระยะทาง 5.2 กิโลเมตร โดยมีประชาชนในพื้นที่ต่างยิ้มแย้ม โบกมือ ตะโกน พร้อมให้กำลังใจ มอบดอกกุหลาบแก่ว่าที่ผู้สมัคร พรรคพลังประชารัฐตลอดทั้งสองข้างทาง
นายสันติ กล่าวว่า พรรคพลังประชารัฐได้ส่งว่าที่ผู้สมัครมารับใช้ชาวพระนครศรีอยุธยา 3 คน ก็ต้องของฝากให้พิจารณาผู้สมัครของเราด้วย เพื่อที่จะไปยกมือผลักดันให้มีการแต่งตั้ง พลเอกประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ขึ้นเป็นนายกรัฐมนตรีคนที่ 30
นายสันติ กล่าวต่อถึงนโยบายของพรรคพลังประชารัฐที่จะมีการประกาศต่อไปก็คือ การเพิ่มศักยภาพความสามารถ ให้กับลูกหลานคนไทย เพราะขณะนี้นวัตกรรมโลกมันไปไกลมากแล้ว ถ้าเราจะทำการศึกษาเดิม ๆ เหมือน 200 ปีที่ผ่านมา เราก็จะตามไม่ทันโลก ปัญหาที่เกิดขึ้นคือเยาวชนของเราที่เพิ่งจะจบการศึกษามา แทบจะไม่มีงานทำ หรือไม่สามารถที่จะทำเงินได้ สิ่งเหล่านี้เป็นเรื่องที่น่าเจ็บปวด และน่าเป็นห่วงของประเทศชาติ ดังนั้น พรรคพลังประชารัญจึงมีนโยบายให้ทุกโรงเรียนสอนภาษาที่สอง ไม่ว่าจะเป็นภาษาอังกฤษ จีน หรือญี่ปุ่น ตั้งแต่ชั้นอนุบาล เพื่อที่จะยกระดับคุณภาพชีวิตของเยาวชน
“พล.อ.ประวิตรได้เน้นย้ำถึงเรื่องการดูแลพี่น้องประชาชนมาโดยตลอด โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง และผู้มีรายได้น้อย ซึ่งเป็นที่ทราบกันอยู่แล้วว่ากระทรวงการคลังได้เป็นผู้ดำเนินการโครงการบัตรสวัสดิการแห่งรัฐ หรือบัตรประชารัฐ ซึ่งพรรคพลังประชารัฐก็เป็นพรรคที่ได้คิด ดำริ ในเรื่องนี้ขึ้นมา ซึ่งหัวหน้าพรรคของเราก็ได้ให้ความสำคัญในเรื่องของเงินในบัตรที่จะช่วยเหลือประชาชนได้ จึงได้ออกมาเป็นนโยบาย 700 บาท สำหรับบัตรสวัสดิการประชารัฐ มุ่งทำมาเพื่อดูแล ผู้มีรายได้น้อย คนชรา กลุ่มเปราะบาง โดยนโยบายทั้งหมด พล.อ.ประวิตร ยืนยันว่าจะทำทันที แต่ก็ขึ้นอยู่กับพี่น้องประชาชนที่จะต้องเลือกว่าที่ผู้สมัครของเราเข้าไปนั่งสภาฯ เพื่อสนับสนุนให้ ให้เป็นนายกฯคนที่ 30 และ หากได้จัดตั้งรัฐบาล พร้อมผลักดันนโยบายตามที่ประกาศไว้ในทุกด้าน ทั้งดูแลสุขอนามัย การศึกษา โดยเน้นดูแลสตรีที่มีครรภ์ ให้มีเงินสวัสดิการดูแลตั้งแต่เดือนที่ 5 และดูแลเด็กแรกเกิดไปจนถึง 6. ขวบ รวมถึง ในโรงพยาบาลส่งเสริมสุขภาพตำบล(รพ.สต.)ส่งเสริมให้มีแพทย์ 2 คน เพื่อดูแลสุขภาพของชุมชน เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายเดินทางไปโรงพยาบาล เป็นต้น “
ด้านนายชัยวุฒิ กล่าวว่า วันนี้พรรคพลังประชารัฐมาขอแนะนำว่าที่ตัวผู้สมัครจังหวัดอยุธยา ซึ่งเป็นคนรุ่นใหม่ไฟแรง ที่มีความรู้ ความสามารถ เป็นคนพื้นที่ พร้อมทํางานแก้ปัญหาที่คั่งค้างให้กับพี่น้องประชาชน ในพื้นที่จังหวัดอยุธยา มีทั้งพื้นที่เกษตรกรรม และพื้นที่อุตสาหกรรม มีความหลากหลายทางเศรษฐกิจ เป็นสังคมที่มีหลายกลุ่มอาชีพ ซึ่งพรรคพร้อมเข้ามาดูแลทุกกลุ่ม และที่สำคัญต้องกำจัดการคอรัปชั่น ขจัดวงจรการทุจริต อะไรที่อยู่ใต้ดินก็ให้ขึ้นมาอยู่บนดินทำให้ถูกกฎหมาย เพื่อดูแลพี่น้องประชาชน
“พรรคพลังประชารัฐจะเข้ามาดูแลเพื่อให้จังหวัดอยุธยา พัฒนา และที่สําคัญคือ พรรคของเราจะเน้นสร้างการลงทุนในจังหวัดอยุธยามากขึ้น ควบคู่กับการบริหารจัดการน้ำ ส่งเสริมการท่องเที่ยวมากขึ้น ก็จะทำให้การค้าขายรวมถึงเศรษฐกิจต่าง ๆ ดีขึ้น ผมเชื่อว่า คนรุ่นใหม่ที่เราคัดสรรมามีความมุ่งมั่นที่จะมาช่วยกันทํางานให้ชาวพระนครศรีอยุธยาอยู่ดีกินดีขึ้นอย่างแน่นอน”
ทั้งนี้บรรยากาศเวทีปราศรัยเพื่อแนะนำตัวว่าที่ผู้สมัคร ณ ตลาดสุวรรณเกลียวทอง เป็นไปด้วยบรรยากาศผู้สนับสนุนและกองเชียร์ ที่รอต้อนรับ เพื่อฟังการปราศรัย ในนโยบาย ของ พปชร. ที่จะเข้ามาดูแลทุกข์สุข ของพี่น้องประชาชน โดยเฉพาะการแก้ปัญหาเรื่องน้ำ ที่พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และหัวหน้าพรรค ให้ความสำคัญการแก้ปัญหาเรื่องน้ำในพื้นที่อยุธยา ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ประชาชนชาวอยุธยา ต้องเสียสละ ให้เป็นพื้นที่รับน้ำมาอย่างต่อเนื่อง ดังนั้น พปชร. ขออาสาเข้ามาเพื่อสานต่อการช่วยเหลือและ ผลักดันโครงการต่างๆ เพื่อบริการจัดการน้ำแบบยั่งยืน เพื่อให้พี่น้องมีน้ำกิน น้ำใจ ป้องกันน้ำท่วมอย่างเป็นรูปธรรม
สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา