วช. ร่วมกับ สอศ. จัดบ่มเพาะศักยภาพพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมสายอาชีวศึกษา Smart Invention & Innovation ภาคกลางและภาคตะวันออก
สำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ร่วมกับ สำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จัดกิจกรรม “การบ่มเพาะเพื่อเพิ่มศักยภาพการพัฒนาสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรมสายอาชีวศึกษา : Smart Invention & Innovation ประจำปี 2566 ภาคกลางและภาคตะวันออก” โดย ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) เป็นประธานเปิดงานพร้อมปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พัฒนาคน พัฒนาอาชีวะ : เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน” เมื่อวันที่ 23 กุมภาพันธ์ 2566 โดยมีคณะผู้ทรงคุณวุฒิในสาขาต่างๆ เข้าร่วมงาน ซึ่งกิจกรรมในครั้งนี้ จัดขึ้นระหว่างวันที่ 22-24 กุมภาพันธ์ 2566 เพื่อส่งเสริมและสนับสนุนการพัฒนาศักยภาพของนักเรียน นักศึกษาสายอาชีวศึกษาในพื้นที่ภาคกลางและภาคตะวันออก ณ โรงแรมกรุงศรีริเวอร์ จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง ผู้อำนวยการสำนักงานการวิจัยแห่งชาติ (วช.) กล่าวว่า (วช.) ภายใต้กระทรวง (อว.) เล็งเห็นถึงความสำคัญของการพัฒนาคนและสังคมไทยให้เป็นรากฐานที่เข้มแข็งของประเทศในการเป็นสังคมแห่งการเรียนรู้สู่การร่วมกันสร้างสรรค์นวัตกรรมเพื่อการพัฒนาคุณภาพชีวิตและสังคม ซึ่งสอดคล้องกับแผนพัฒนาการอาชีวศึกษา พ.ศ.2560–2579 และแผนการศึกษาแห่งชาติ พ.ศ.2560–2579 ในการมุ่งเน้นการผลิตและพัฒนากำลังคน การวิจัยและนวัตกรรมเพื่อสร้างขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ พร้อมทั้งการพัฒนาศักยภาพกำลังคนให้มีสมรรถนะสอดคล้องกับความต้องการในการพัฒนาประเทศ ดังนั้น วช. และสำนักงานคณะกรรมการการอาชีวศึกษา (สอศ.) จึงได้ร่วมจัดวางกลไกและจัดทำกิจกรรมเพื่อส่งเสริมให้เยาวชนและบุคลากรของสถาบันการศึกษาได้พัฒนาศักยภาพบุคลากร ให้มีทักษะและคุณลักษณะที่สอดรับกับการเปลี่ยนแปลงด้านเทคโนโลยีของโลก สามารถสร้างองค์ความรู้และนวัตกรรมที่สร้างผลผลิตและมูลค่าเพิ่มทางเศรษฐกิจให้กับประเทศได้
“ปัจจุบันมีแนวโน้มการเปลี่ยนแปลงที่สำคัญของโลกในเรื่องการขยายตัวของความเป็นเมือง การเปลี่ยนขั้วอำนาจเศรษฐกิจของโลก การเสื่อมโทรมของสิ่งแวดล้อมและการขาดแคลนทรัพยากร ความเหลื่อมล้ำและความไม่เสมอภาคทางสังคม สังคมสูงวัย และนวัตกรรมพลิกโฉม โดย (วช.) ได้นำเอาการจัดการความรู้การวิจัยถ่ายทอดเพื่อการใช้ประโยชน์ มาช่วยในการสร้างกลไกเชื่อมโยงหรือส่งต่อผลงานวิจัยและนวัตกรรมที่นักวิจัยทั้งในสถาบันการศึกษาระดับอาชีวศึกษาหรืออุดมศึกษา รวมทั้งหน่วยงานต่างๆ ไปยังกลุ่มเป้าหมายเพื่อการใช้ประโยชน์ทั้งในภาคชุมชน สังคม นโยบายและความมั่นคง สามารถตอบโจทย์แผนยุทธศาสตร์ที่สำคัญของประเทศและเพิ่มขีดความสามารถการแข่งขันในเวทีระดับนานาชาติและก้าวทันการเปลี่ยนแปลงของโลกได้” ดร.วิภารัตน์ ดีอ่อง (ผวช.) กล่าวในการปาฐกถาพิเศษ เรื่อง “พัฒนาคน พัฒนาอาชีวะ : เพื่อการพัฒนาประเทศอย่างยั่งยืน”
ทั้งนี้ (วช.) มีรูปแบบในการจัดกิจกรรมบ่มเพาะในการบรรยายให้ความรู้เกี่ยวกับหลักการเขียนข้อเสนอโครงการสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม การเปลี่ยนขยะให้เป็นสินค้าด้วยงานวิจัยและนวัตกรรม ความรู้เกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อพัฒนาผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม Creative Thinking for Creative Innovation เทคนิคการนำเสนอผลงาน พร้อมกันนี้ได้มีกิจกรรมแบ่งกลุ่มการฝึกปฏิบัติตามกลุ่มเรื่อง ซึ่งได้กำหนดกลุ่มเรื่องผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ดังนี้
1.ด้านการเกษตรและอุตสาหกรรมการเกษตร
2.ด้านสาธารณสุข สุขภาพ และผลิตภัณฑ์เพื่อสุขภาพ
3.ด้านการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ อุปกรณ์อัจฉริยะ
4.ด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และ BCG Economy Model และ
5.ด้านการพัฒนาคุณภาพชีวิตและเศรษฐกิจสร้างสรรค์
โดยมีผู้ทรงคุณวุฒิที่มีความรอบรู้ ความเชี่ยวชาญ และประสบการณ์ในการพัฒนาผลงานนวัตกรรมในเวทีระดับชาติและระดับนานาชาติ ซึ่งท่านได้มาให้ความรู้ ความเข้าใจ การสร้างแรงบันดาลใจกับทีมสายอาชีวศึกษา เพื่อพัฒนาผลงานสิ่งประดิษฐ์และนวัตกรรม ที่จะเป็นกลไกหนึ่งในการพัฒนากำลังคนด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิจัยและนวัตกรรม การขับเคลื่อน การพัฒนาและสร้างนวัตกรรมในอนาคตต่อไป
สุรเชษฐ ศิลานนท์ รายงาน