“…ส่องดูรู้ให้จริง หลักสูตรตำรวจ กอส. เลวร้ายจริงหรือไม่ รุ่นพี่ๆ สร้างชื่อเสียงทำประโยชน์ให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติและประเทศไทยมากมาย ไม่ใช่รับวิธีพิเศษอย่างเดียวซะที่ไหน มีทั้งสอบเข้ามาใช้ความรู้ความสามารถ นักกีฬาทีมชาติไทยประเภทกีฬาต่างๆ ตำรวจน้ำที่ฝากเรียนที่ รร.นายเรือ ที่มาจาก รร เตรียมทหาร หมอ ทันตเเพทย์ เภสัช วิศวกร สถาปัตย์ วุฒิเฉพาะทาง ฯลฯ ควรให้กำลังใจตำรวจ กอส. ที่ดีดีให้มีขวัญและกำลังใจทำงานต่อไป ทุกสังคมทุกหน่วยงานมีดีเลวปะปนกันไป ฝากอ่านแล้วขอให้แบ่งใจให้ความเป็นธรรมเพื่อให้ กอส.ที่จบมาเเล้วตั้งใจทำงานและเป็นตำรงจที่ดีมีคุณธรรม มีขวัญและกำลังใจในการทำงานเพื่อดูแลประชาชนตลอดจนสังคมต่อไป
1.เรื่อง หลักสูตร กอส. เป็นหลักสูตรที่ดีและมีความจำเป็น รีบคน้ก่งสาขาที่เรียนยาก ขาดแคลน หมอ วิศวะ สถาปัตย์ ภาษาต่างประเทศ และนักกีฬาทีมชาติไทย ที่เสียสละสร้างชื่อเสียงให้ประเทศไทย จบจาก จุฬา ธรรมศาสตร์ มหิดล ้เกษตร จาก ม.ต่างประเทศ ฯลฯ ใครทำไม่ดี ก็เป็นรายบุคคล
2. เรื่องเป็นตำรวจคุ้มค่าหรือไม่ มาขยายดูกันจากบทความ หลักสูตร กอส. ยังมีความจำเป็นต่อ สตช. หรือไม่
หลักสูตร กอส. “หลักสูตรการฝึกอบรมข้าราชการตำรวจและบุคคลที่บรรจุหรือโอนมาเป็นข้าราชการตำรวจชั้นสัญญาบัตร” เป็นหลักสูตรที่มีประวัติยาวนานกว่า 40 ปีมาแล้ว ตั้งแต่สมัยท่านพลตำรวจเอก สุรพล จุลละพราหมณ์ เป็นอธิบดีกรมตำรวจ ซึ่งท่านเห็นว่า มีตำรวจชั้นประทวนจำนวนหนึ่งมีคุณวุฒิปริญญา ยังไม่ได้รับการปรับคุณวุฒิเป็นนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร มีข้าราชการทหารจากเหล่าทัพต่าง ๆ ขอโอนมาเป็นตำรวจ มีหมอ พยาบาลสมัครใจมารับราชการตำรวจ ซึ่งต้องแต่งเครื่องแบบตำรวจ และมีบางหน่วยงาน เช่น กองพิสูจน์หลักฐาน ต้องรับสมัครบุคคลภายนอกที่มีคุณวุฒิทางวิทยาสตร์ เช่น ฟิสิกส์ เคมี ชีวะ ซึ่งถือว่าเป็นวุฒิหรือสาขาที่ขาดแคลนเข้ามาเป็นข้าราชการตำรวจ ดังนั้น กรมตำรวจจึงจัดให้มีหลักสูตร กอส. ขึ้นเพื่อฝึกอบรมบุคคลเหล่านี้ เพื่อเรียนรู้ และฝึกปฏิบัติในระเบียบวินัย ของตำรวจที่จะต้องประพฤติปฏิบัติได้อย่างถูกต้อง ตามระเบียบแบบแผน เพื่อเป็นมาตรฐานเดียวกันของกำลังพลทุกนาย
ผมเป็นคนหนึ่งที่มีโอกาสเข้ารับการฝึกอบรมในหลักสูตรนี้ เมื่อปี พ.ศ. 2525 นับว่าเป็นรุ่นแรก หรือ กอส. รุ่นที่ 1 มีผู้เข้ารับการฝึกอบรมประมาณ 90 นาย ส่วนใหญ่เป็นตำรวจเก่า เป็นชั้นประทวนมาก่อน เพื่อนบางคนจบโรงเรียนนายร้อย จปร. โรงเรียนนายเรืออากาศ ขอโอนมาเป็นตำรวจ และยังมีเพื่อนตำรวจน้ำที่ได้ทุนกรมตำรวจไปศึกษาในโรงเรียนนายเรือ อีกทั้งมีจำนวนไม่น้อยที่เป็นบุคคลภายนอก ซึ่งเป็นผู้มีคุณวุฒิในสาขาวิชาที่ ตร.ขาดแคลน เพื่อนบางส่วนเป็นพยาบาล และยังจำได้ว่ามีเพื่อนคนหนึ่งจบมาจากโรงเรียนตำรวจไต้หวัน การฝึกอบรมที่โรงเรียนนายร้อยตำรวจ ใช้เวลาประมาณ 3 เดือน เมื่อจบหลักสูตรแล้ว เพื่อนในรุ่นส่วนใหญ่ออกไปเป็นพนักงานสอบสวนในพื้นที่ต่างๆ ส่วนที่เหลือกลับไปทำงานในหน่วยของตน เช่น กองพิสูจน์หลักฐาน โรงพยาบาลตำรวจ ฯลฯ
ต่อมาหลักสูตร กอส. มีการรับทายาทข้าราชการตำรวจที่เสียชีวิตจากการปฏิบัติหน้าที่ และรับนักกีฬาที่สร้างชื่อเสียงให้กับประเทศชาติมาเป็นตำรวจ การฝึกอบรมหลักสูตรนี้ มีการฝึกอบรมอย่างต่อเนื่องทุกๆ ปี เฉลี่ยปีละ 1 รุ่น จนถึงปัจจุบัน ผมเห็นว่าผู้ที่ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตรนี้ ส่วนใหญ่ปฏิบัติหน้าที่สมกับเป็นผู้พิทักษ์สันติราษฎร์ บางท่านอยู่หน่วยสนับสนุนก็ตั้งอกตั้งใจทำงาน ทำประโยชน์ให้แก่องค์กรตำรวจและประชาชนเป็นที่ประจักษ์ บางท่านรับราชการมีความเจริญก้าวหน้าเป็นถึงรองผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ แต่น่าเสียดายและเสียใจเป็นอย่างยิ่งกับข่าวที่ปรากฏว่า มีผู้ผ่านการฝึกอบรมหลักสูตร กอส. โดยเฉพาะในรุ่นหลังๆ หลายนายมีพฤติกรรมพัวพันกับเครือข่ายเว็บพนันออนไลน์ ธุรกิจสีเทา หรือใช้ความเป็นตำรวจแสวงหาผลประโยชน์โดยมิชอบ ไม่ทำงานในหน้าที่รับผิดชอบ ขาดจิตสำนึกและจิตวิญญาณในความเป็นตำรวจ สร้างความเสียหายให้กับสำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นอย่างยิ่ง อีกทั้งยังทำให้สังคมมองภาพลักษณ์ผู้ที่จบหลักสูตร กอส. ในทางลบ ถึงขนาดเสนอความเห็นให้ยกเลิกหลักสูตร กอส. เสียเลย ซึ่งพฤติกรรมการกระทำผิดเป็นเรื่องเฉพาะตัวบุคคล มิใช่เป็นเรื่องในเชิงระบบ ที่ถึงขนาดจะต้องยกเลิกไปเลย ดังนั้น หากว่าบุคคลกลุ่มนี้มีการกระทำผิดจริง สมควรที่จะได้รับการลงโทษทางอาญาและวินัยอย่างเฉียบขาด เพื่อไม่ให้เป็นเยี่ยงอย่างแก่ข้าราชการตำรวจทั่วไป
อย่างไรก็ตาม ผมยังเห็นว่าหลักสูตร กอส. นี้ยังมีความจำเป็น เนื่องจากทั้งหน่วยหลักและหน่วยสนับสนุนของสำนักงานตำรวจแห่งชาติ ยังคงต้องใช้บุคลากรเฉพาะทางในเชิงวิชาชีพ ผู้มีความรู้ ความสามารถในสาขาวิชาที่ขาดแคลน เช่น นักวิทยาศาสตร์ วิศวกรไฟฟ้า วิศวกรโยธา วิศวกรการบิน ผู้เชี่ยวชาญด้านคอมพิวเตอร์ การเงิน แพทย์ พยาบาล นักบัญชี อาจารย์ในภาควิชาการต่างๆ ตลอดจนผู้มีความรู้ภาษาต่างประเทศ ฯลฯ และอีกทั้งโรงเรียนนายร้อยตำรวจ ยังไม่สามารถที่จะผลิตบุคลากร ให้ครอบคลุมในสาขาวิชาชีพที่มีความจำเป็นจะต้องนำมาใช้ในการปฏิบัติหน้าที่เฉพาะทางนี้ได้ จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่า กอส. รุ่นต่อๆ ไปคงจะเป็นบุคคลคุณภาพ เป็นตัวช่วยที่มีความสำคัญ เสริมสร้างเขี้ยวเล็บให้หน่วยงานต่างๆของ สตช. ปฏิบัติงานอย่างมีประสิทธิภาพต่อไป
ศาสตราจารย์ พลตำรวจโท ดร. พิศาล มุขแจ้ง กอส. รุ่นที่ 1