นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ จ.พระนครศรีอยุธยา ติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา พร้อมติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน ตามนโยบายรัฐบาล
วันนี้ (3 มี.ค.66) พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และคณะ ลงพื้นที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เพื่อติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา พร้อมรับฟังการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก บรรเทาความเดือดร้อนประชาชน นอกจากนี้ ยังได้ตรวจเยี่ยมสภาพโบราณสถานเพื่อเตรียมการบูรณะ
โดยบรรยากาศการลงพื้นที่จุดแรก นายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางไปที่ วัดใหญ่ชัยมงคล ตำบลคลองสวนพลู อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจเยี่ยมสภาพเจดีย์ชัยมงคลเพื่อเตรียมการบูรณะ เมื่อไปถึงนายกรัฐมนตรี ได้เข้ากราบสักการะพระประธาน นมัสการเจ้าอาวาสวัดใหญ่ชัยมงคล สักการะพระเจดีย์ชัยมงคล สักการะพระพุทธรูปปางไสยาสน์ และสักการะพระบรมราชานุสาวรีย์สมเด็จพระนเรศวรมหาราช เพื่อความเป็นสิริมงคลในโอกาสเดินทางมาตรวจราชการที่จังหวัดพระนครศรีอยุธยา
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปพิพิธภัณฑสถานแห่งชาติ เจ้าสามพระยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อตรวจติดตามโครงการก่อสร้างอาคารจัดแสดงเครื่องทองอยุธยา และการจัดแสดงเครื่องทองอยุธยาและพระบรมสารีริกธาตุ โดยการจัดสร้างอาคารหลังใหม่ สำหรับจัดแสดงโบราณวัตถุประเภทเครื่องทองอยุธยาที่ค้นพบในแหล่งโบราณคดีจังหวัดพระนครศรีอยุธยา ให้อยู่ในรูปแบบที่น่าสนใจ ทันสมัย และได้มาตรฐานตามหลักพิพิธภัณฑสถานสากล เพื่อเป็นการเพิ่มประสิทธิภาพของพิพิธภัณฑ์ในฐานะแหล่งเรียนรู้ทางมรดกศิลปวัฒนธรรมแก่สถาบันครอบครัวและสถาบันการศึกษา รวมทั้งเป็นการสร้างภาพจำและความประทับใจให้แก่นักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างประเทศ ในฐานะพิพิธภัณฑ์ที่บอกเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประวัติศาสตร์ โบราณคดีที่ยิ่งใหญ่ในอดีตของไทย ลักษณะเป็นอาคารไทยประยุกต์ 2 ชั้น แบ่งเนื้อหาการจัดแสดง ออกเป็น 3 ส่วน ได้แก่ ส่วนที่ 1 จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องราชกกุธภัณฑ์ เครื่องสูง เครื่องราชูปโภคและเครื่องถนิมพิมพาภรณ์ ส่วนที่ 2 จัดแสดงเครื่องทองจากวัดราชบูรณะ ประเภทเครื่องพุทธบูชา เครื่องอุทิศ และพระบรมสารีริกธาตุ รวมถึงกรุจำลองวัดราชบูรณะ ส่วนที่ 3 จัดแสดงเนื้อหาเกี่ยวกับคติการบรรจุพระบรมสารีริกธาตุ และพระบรมสารีริกธาตุที่พบในโบราณสถานจังหวัดพระนครศรีอยุธยา จำนวนโบราณวัตถุที่จัดแสดงภายในอาคารเครื่องทอง มีจำนวนทั้งสิ้น 2,244 รายการ โบราณวัตถุชิ้นเด่น อาทิ พระแสงขรรค์ชัยศรี พระคชาธารจำลอง จุลมงกุฎ พระสุวรรณมาลา
จากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางต่อไปยังวัดศาลาปูนวรวิหาร ตำบลภูเขาทอง อำเภอพระนครศรีอยุธยา เพื่อเข้ากราบสักการะพระประธาน นมัสการเจ้าอาวาสวัดศาลาปูนวรวิหาร และสิ่งศักดิ์สิทธิ์ภายในวัดแห่งนี้ วัดศาลาปูนมีโบราณวัดถุที่สำคัญคือพระพุทธรูปโบราณชื่อว่า “หลวงพ่อแขนลาย” เป็นพระพุทธรูปหน้าตักกว้าง 29 นิ้ว ศิลปสมัยก่อนอยุธยา นอกจากนี้ วัดศาลาปูนยังเคยเป็นที่สถิตของสมเด็จพระราชาคณะที่ได้รับพระราชทานตั้งขึ้นในเขตหัวเมืองชั้นนอกเพียงรูปเดียวคือสมเด็จพระพุฒาจารย์ (พุก)
สำหรับช่วงบ่าย นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมสภาพโบราณสถานเพื่อเตรียมการบูรณะ ณ วิหารพระมงคลบพิตร และวัดพระศรีสรรเพชญ์ ภายในอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา ตำบลประตูชัย อำเภอพระนครศรีอยุธยาเนื่องจากวัดพระศรีสรรเพชญ์ เป็นวัดสำคัญในสมัยอยุธยา มีสถานะเป็นวัดประจำพระราชวังหลวง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่ใช้ประกอบพระราชพิธีสำคัญที่เกี่ยวกับสถาบันพระมหากษัตริย์ เช่น พระราชพิธีถือน้ำพระพิพัทธสัตยา ภายในวัดยังใช้เป็นสถานที่บรรจุพระบรมอัฐิของพระมหากษัตริย์และพระอัฐิของพระบรมวงศานุวงศ์ในสมัยอยุธยาอีกด้วย
รัฐบาลได้จัดสรรงบประมาณให้กรมศิลปากร ในโครงการเนรมิตอยุธยา พัฒนาโบราณสถานวัดพระศรีสรรเพชญ์และโบราณสถานอื่นๆ ภายในเกาะเมืองพระนครศรีอยุธยา เพื่อสร้างมาตรฐานและเพิ่มศักยภาพในการท่องเที่ยว ด้วยการปรับปรุงภูมิทัศน์ ประดับไฟส่องสว่างในโบราณสถาน และบูรณะโบราณสถาน ซึ่งส่งผลให้นักท่องเที่ยวได้รับความสะดวกสบายและเกิดความสวยงามแก่โบราณสถานมากยิ่งขึ้น รวมทั้งเปิดเป็นแหล่งการเรียนรู้และแหล่งท่องเที่ยวทางประวัติศาสตร์
สำหรับแผนการในอนาคตจะมีการวางมาตรฐานของแหล่งท่องเที่ยว รวมทั้งยกระดับแหล่งท่องเที่ยว โดยดำเนินการติดตั้งกล้องวงจรปิด เพื่อดูแลรักษาความปลอดภัยให้แก่โบราณสถานและนักท่องเที่ยวที่มาเยี่ยมชมโบราณสถาน นอกจากนี้ยังมีการเพิ่มกิจกรรมส่งเสริมการท่องเที่ยวมากยิ่งขึ้น เพื่อเพิ่มมูลค่าให้แก่โบราณสถาน เช่น การเปิดให้นักท่องเที่ยวเยี่ยมชมโบราณสถานในยามค่ำคืน (ภายใต้ข้อกำหนดของอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา) ซึ่งจะช่วยดึงดูดนักท่องเที่ยวและทำให้นักท่องเที่ยวมีการพักค้างแรมในจังหวัดพระนครศรีอยุธยาเพิ่มขึ้น อันจะส่งผลต่อการเพิ่มรายได้จากนักท่องเที่ยวให้แก่จังวัดพระนครศรีอยุธยามากยิ่งขึ้น
ต่อจากนั้น นายกรัฐมนตรี ได้เดินทางไปตรวจเยี่ยมบริเวณพื้นที่โครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก ที่วัดใหม่หญ้าไทร ตำบลลาดบัวหลวง อำเภอลาดบัวหลวง โดยเมื่อไปถึงนายกรัฐมนตรี ได้เข้ากราบสักการะพระประธาน และนมัสการเจ้าอาวาสวัดใหม่หญ้าไทร ก่อนไปติดตามการดำเนินโครงการปรับปรุงระบบชลประทานเจ้าพระยาฝั่งตะวันตก เพื่อการบริหารจัดการน้ำตลอดลุ่มน้ำเจ้าพระยา อันจะช่วยลดความเสียหายและบรรเทาความเดือดร้อนให้ประชาชนอย่างเป็นรูปธรรม โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรี ได้พบปะประชาชนกว่า 1,000 คน ก่อนเดินทางกลับถึงกรุงเทพมหานคร
นายกรัฐมนตรี ได้กล่าวว่า “จังหวัดพระนครศรีอยุธยา เป็นแหล่งท่องเที่ยวเชิงประวัติศาสตร์และวัฒนธรรมที่มีมูลค่าสูง มีเอกลักษณ์โดดเด่นทั้งด้านกายภาพ ประวัติศาสตร์ และอารยธรรม นอกจากนี้ ยังเป็นฐานการผลิตสินค้าเกษตรและเกษตรแปรรูปมูลค่าสูง มีการพัฒนาโครงข่ายคมนาคมขนส่งที่ครอบคลุมเชื่อมโยงพื้นที่ของจังหวัดเข้ากับกลุ่มจังหวัดและภาคต่างๆ ของประเทศ รองรับการขยายตัวทั้งด้านเศรษฐกิจ การท่องเที่ยว อุตสาหกรรม ธุรกิจการค้าต่างๆ ทั้งจากกรุงเทพฯ และพื้นที่โดยรอบตามเป้าหมายการพัฒนาจังหวัด “อยุธยาเมืองมรดกโลก เป็นแหล่งท่องเที่ยวคุณภาพ น่าเรียนรู้ น่าอยู่ น่าลงทุน” ซึ่งนายกรัฐมนตรีให้ความสำคัญกับประชาชนในทุกพื้นที่ของประเทศ พร้อมเดินหน้าตรวจติดตามความคืบหน้าและผลการดำเนินงานต่างๆ ตามนโยบายของรัฐบาล และเร่งแก้ไขปัญหา มุ่งมั่นพัฒนาด้านต่างๆ อย่างครอบคลุม เพื่อให้ทุกคนมีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นอย่างยั่งยืน”
สุขุม แก้วกุดั่น อยุธยา