เมื่อวันที่ (13 ก.ย.62) เวลา 14.35 น. อ. เกาะสมุย จังหวัดสุราษฎร์ธานี พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม เยี่ยมชมการเรียนการสอนของวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนา โพธิคุณ โรงเรียนต้นแบบแห่งการปฏิรูปการศึกษา ในการใช้ ธรรมนำปัญญาแห่งแรกของประเทศไทย
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีชมการเรียนการสอนภาษาจีน ณ ห้องเรียนภาษาจีน โดยกล่าวทักทายเด็กนักเรียนเป็นภาษาจีนว่า “หนีห่าว” และชมการวาดภาพดอกเหมย ศิลปะการตัดกระดาษรูปภาพต่าง ๆ รวมทั้งศิลปะการเขียนพู่กันจีน และเขียนชื่อ “ประยุทธ์” เป็นภาษาจีนลงในกระดาษสีแดง และเยี่ยมชมห้องเรียนภาษาอังกฤษและห้องเรียนคอมพิวเตอร์ จากนั้นแวะชมโรงอาหารของวิทยาลัยอาชีวศึกษาฯ ร่วมสาธิตการทำอาหารใบเหลียงผัดไข่ เกี๊ยวหมูหมาล่า ข้าวเหนียวน้ำตาลหวานร่วมกับพ่อครัวคนไทยและพ่อครัวต่างประเทศ และนั่งรถรางเยี่ยมชมแปลงเกษตร ฟาร์มไก่ บริเวณรอบวิทยาลัยฯ ก่อนเดินทางไปยังหอประชุมใหญ่วิทยาลัยอาชีวศึกษาฯ เพื่อพบประชาชนและนักศึกษา
โอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีได้กล่าวชื่นชมวิทยาลัยอาชีวศึกษาภาวนาโพธิคุณที่มีการจัดการเรียนการสอนระดับอาชีวศึกษาที่มุ่งส่งเสริมให้นักเรียนมีคุณภาพ เป็นโรงเรียนต้นแบบแห่งการปฏิรูปการศึกษาที่ใช้ธรรมนำปัญญาแห่ง พร้อมขอบคุณมูลนิธิ พร้อมขอให้สานต่อความเข้าใจบนพื้นฐานของสถาบันชาติ ศาสนาและพระมหากษัตริย์ ทั้งนี้ คนไทยต้องรักและสามัคคี ขอให้นำสิ่งเหล่านี้บรรจุอยู่หลักสูตรการเรียนการสอนเพื่อปลูกฝังให้เยาวชนมีหัวใจเต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก ซึ่งเป็นเรื่องที่สำคัญทั้งนี้ รัฐบาลพัฒนาคนโดยมุ่งเน้นเรื่องการศึกษา เน้นเสริมทักษะด้านภาษาต่างประเทศและเทคโนโลยีดิจิตอล เพื่อประดิษฐ์คนให้ตรงตามความต้องการตลาดแรงงาน โดยอบรมธรรมะควบคู่เข้าไปด้วย ตามที่ในหลวงรัชกาลที่ 9 ทรงพระราชดำรัสไว้ว่าความรู้ คู่คุณธรรม ซึ่งทุกคนสามารถนำมาปรับใช้ในชีวิตประจำวันได้
นายกรัฐมนตรียังได้หยิบยกศักยภาพ 3 อย่างของประเทศไทยที่สำคัญ คือ ธรรมขาติที่สวยงาม อาหารอร่อย และรอยยิ้มสวยงาม ซึ่งเป็นเสน่ห์ของคนไทย ในการเป็นเจ้าบ้านที่ดีให้การต้อนรับนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาประเทศไทย ด้วยไมตรีจิตพร้อมกันนี้ นายกรัฐมนตรีได้เปิดเพลง “อยู่อย่างจงรัก ตายอย่างภักดี” จากโทรศัพท์มือถือของตนเอง พร้อมกล่าวทึ้งท้ายว่า “เกิดเป็นคนไทย ตายอย่างไทย ต้องสำนึกในแผ่นดินไทย ซึ่งทุกคนต้องทำหน้าที่ปกป้องชาติ ศาสน์ กษัตริย์และเทิดทูนสถาบันพระมหากษัตริย์ไทยด้วย”
——————–
ขอบคุณข้อมูล – กลุ่มประชาสัมพันธ์และเผยแพร่ สำนักโฆษก