ตร.พัทยา ตามรวบแล้ว 2 โจ๋ กัมพูชา ปาระเบิดปิงใส่ชาวบ้าน อ้างนึกว่าเป็นอริ
เวลา 12.00 น. วันที่ 19 มี.ค. 66 ที่หน้า สภ.เมืองพัทยา พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี ได้ทำการแถลงข่าวการจับกุม 2 วัยรุ่นสัญชาติกัมพูชาที่ก่อเหตุปลาระเบิดปิงปองใส่ชาวบ้านจนได้รับบาดเจ็บ
ภายใต้การอำนวยการของ พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. , พล.ต.ท.อิทธิพล อิทธิสารรณชัย ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.สุรจิต ชิงนวรรณ์ รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.อิทธิพร โพธิ์ทอง รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.นันทวุฒิ สุวรรณละออง รอง ผบช.ภ.2, พล.ต.ต.กัมพล ลีลาประภาภรณ์ ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.ชาตรี สุขศิริ รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.พาติกรณ์ ศรชัย รอง ผบก.ภ.จว.ชลบุรี, พ.ต.อ.ฐนพงศ์ โพธิ์ทิ ผกก.สภ.เมืองพัทยา ได้สั่งการให้ สภ.เมืองพัทยา ดำเนินการสืบสวนจับกุมคนร้ายก่อเหตุปาระเบิดใส่วัยรุ่นหนุ่มสาวได้รับบาดเจ็บสาหัส บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยโพธิสาร ด้านฝั่งถนนสุขุมวิท หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี เมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 02.30 น. สภ.เมืองพัทยา จนสามารถติดตามจับกุมคนร้ายก่อเหตุร่วมกันปาระเบิดใส่วัยรุ่นได้รับบาดเจ็บสาหัส คือ นายดี เยาวชน อายุ 17 ปี สัญชาติกัมพูชา ผู้ถูกจับที่ 2 นายณัฐพลหรือมิว จำลองรักษ์ อายุ 18 ปีเศษ
พร้อมของกลาง 1.รถจักรยานยนต์ ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110ไอ สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 3กล-3594 ชลบุรี จำนวน 1 คัน, หมวกนิรภัยแบบเต็มใบ สีขาว จำนวน 1 ใบ (นายดี สวมใส่),
เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีดำ และกางเกงยีนส์สีดำ (นายดี สวมใส่), เสื้อยืดคอกลมแขนสั้นสีแดง และกางเกงขาสั้นลายดอก (นายณัฐพลฯ สวมใส่)
โดยกล่าวหาว่า ร่วมกันทำร้ายร่างกายผู้อื่น จนเป็นเหตุให้ผู้อื่นได้รับอันตรายสาหัส และ พ.ร.บ.อาวุธปืนและวัตถุระเบิดฯ ซึ่งพฤติการณ์ สืบเนื่องจากเมื่อวันที่ 18 มีนาคม 2566 เวลาประมาณ 02.30 น. สภ.เมืองพัทยา ได้รับแจ้งมีคนถูกปาระเบิดขวดใส่ ถูกไฟคลอกร่างกายได้รับบาดเจ็บสาหัส เหตุเกิดบริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อ ปากซอยโพธิสาร ด้านฝั่งถนนสุขุมวิท หมู่ 6 ต.นาเกลือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้รีบไปทำการตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุ พบผู้บาดเจ็บชื่อ นายธนกรณ์ บั้งเซ็น อายุ 21 ปี และ น.ส.วรกานต์ เพ็ชรคุ้ย อายุ 22 ปี อยู่ในสภาพเนื้อตัวมีแต่กลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิง บริเวณช่วงต้นขาไปถึงกลางหน้าอก มีบาดแผลถูกไฟคลอกผิวหนัง จึงประสานหน่วยกู้ภัยสว่างบริบูรณ์พัทยา ทำการปฐมพยาบาลและนำตัวส่ง รพ.เมืองพัทยา ในที่เกิดเหตุพบว่ามีกลิ่นน้ำมันเชื้อเพลิงคละคลุ้งไปทั่วบริเวณ พบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อ เวสป้า สีเทา ซึ่งเป็นของผู้บาดเจ็บ ได้รับความเสียหายที่บริเวณตัวรถด้านขวา มีร่องรอยถูกไฟไหม้ และคราบรอยน้ำมันเชื้อเพลิง ใกล้ๆ กัน บนพื้นถนนพบเศษขวดแก้วและเทปกาวพันสายไฟตกอยู่ จึงทำการเก็บไว้เป็นหลักฐาน จากการซักถามนายธนกรณ์ ผู้บาดเจ็บ ได้ความว่า ไม่เคยรู้จักกับผู้ก่อเหตุมาก่อน โดยก่อนเกิดเหตุเพิ่งออกมาจากรับประทานอาหารเพื่อกลับบ้านพัก เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุ มีคนร้ายขี่รถจักรยานยนต์สวนทางมา และปาระเบิดขวดใส่จนได้รับบาดเจ็บดังกล่าว ยืนยันว่าไม่เคยมีเรื่องกับใคร
ต่อมา ฝ่ายสืบสวน สภ.เมืองพัทยา ได้ลงพื้นที่สืบสวนหาเบาะแสติดตามจับกุมคนร้ายที่ก่อเหตุ ในการตรวจสอบกล้องวงจรปิดตามเส้นทางที่คนร้ายหลบหนี พบว่าผู้ก่อเหตุใช้รถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ สีน้ำเงินดำ ไม่ทราบทะเบียน ขับขี่นั่งซ้อนท้ายมา 2 คน คนขับสวมเสื้อยืดสีแดง ไม่สวมหมวกนิรภัย ส่วนคนนั่งซ้อนท้ายซึ่งเป็นคนปาระเบิด สวมเสื้อยืดสีดำ สวมหมวกนิรภัยเต็มใบสีขาว เมื่อตรวจสอบกล้องวงจรปิดตลอดระยะทางที่คนร้ายได้หลบหนี ตลอดระยะทางตั้งแต่จุดเกิดเหตุประมาณ 3 กิโลเมตร ใช้เวลา ไม่ถึง 24 ชั่วโมง กระทั่งพบเบาะแสคนร้ายที่ก่อเหตุชื่อ นายดี เยาวชนอายุ 17 ปี สัญชาติกัมพูชา พักอาศัยอยู่ที่ 472/21 ต.หนองปรือ อ.บางละมุง จว.ชลบุรี จึงได้แสดงตัวเป็นเจ้าที่ตำรวจขอทำการตรวจค้นและทำการสอบสวน
นายดี ให้การรับสารภาพว่าเป็นผู้ปาระเบิดใส่ผู้บาดเจ็บจริง อ้างว่าก่อนก่อเหตุถูกวัยรุ่นคู่อริขับขี่รถจักรยานยนต์ยี่ห้อเวสป้า ใช้อาวุธปืนข่มขู่บริเวณถนนสุขุมวิท ก่อนทางลงอุโมงค์ ตนและพวกได้ขับขี่ตระเวณติดตามกลุ่มวัยรุ่นคู่อริ โดยมีนายณัฐพลหรือมิว จำลองรักษ์ อายุ 18 ปีเศษ เป็นผู้ขับขี่ ส่วนตนเป็นคนนั่งซ้อนท้าย กระทั่งถึงบริเวณที่เกิดเหตุ คิดว่าเป็นรถจักรยานยนต์ของคู่อริ จึงได้ปาระเบิดใส่ เพื่อเป็นการแก้แค้น มาทราบภายหลังว่าปาระเบิดใส่ผิดคน หลังเกิดเหตุได้ขับขี่รถจักรยานยนต์หลบหนีตามถนนพัทยาเหนือ และแยกย้ายกันกลับบ้านพัก จากนั้นได้ขยายผลนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการจับกุมตัวนายณัฐพลหรือมิวฯ ได้ที่บ้านเลขที่ 27/2 หมู่ 5 ต.หนองปลาไหล อ.บางละมุง จว.ชลบุรี
สอบสวน นายณัฐพลหรือมิวฯ ให้การรับสารภาพว่าได้ร่วมก่อเหตุปาระเบิดใส่ผู้บาดเจ็บจริง โดยตนเป็นผู้ขับขี่รถจักรยานยนต์ มีนายดีฯ นั่งซ้อนท้ายและเป็นผู้ปาระเบิด พร้อมนำเจ้าหน้าที่ตำรวจไปทำการตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่ใช้ก่อเหตุ ตลอดจนเสื้อผ้า และหมวกนิรภัยที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ เป็นของกลางประกอบคดี จากนั้นนำตัวส่งพนักงานสอบสวน สภ.เมืองพัทยา ดำเนินคดีต่อไป
จากการตรวจสอบประวัติการต้องโทษผู้ต้องหาทั้งสอง ไม่พบว่ามีประวัติการต้องโทษแต่อย่างใด สำหรับรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 110ไอ สีน้ำเงินดำ ทะเบียน 3กล 3594 ชลบุรี เป็นของมารดาเพื่อนในกลุ่ม
คดีดังกล่าวเป็นการกระทำที่อุกอาจไม่เกรงกลัวต่อกฏหมายบ้านเมือง อีกทั้งเป็นการทำลายภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและเศรษฐกิจของประเทศไทยเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะเมืองพัทยา ซึ่งเป็นเมืองท่องเที่ยวระดับโลก ไม่ควรที่จะมีเหตุเช่นนี้เกิดขึ้น สภ.เมืองพัทยา จึงขอประชาสัมพันธ์ผ่านสื่อมวลชน เกี่ยวกับการรักษาความปลอดภัยและความสงบเรียบร้อยในพื้นที่เมืองพัทยา เพื่อสร้างความอุ่นใจให้กับนักท่องเที่ยว พร้อมวิงวอนผู้ที่คิดจะก่อเหตุ ทำให้เกิดความไม่สงบในบ้านเมืองหรือกระทำผิดกฏหมาย ได้หยุดการกระทำนั้นเสีย
ภาพ/ข่าว
นายโยธิน พรมแตง
ศูนย์ข่าวพัทยา รายงาน
ขอบคุณ สันติภาพ จัดให้