นนทบุรี – 4 นศ.หนุ่มร้องทนายดัง ถูกทหารนับสิบคน รุมกระทืบหน้าผับจนสลบ แถมขู่ลบคลิป
เมื่อเวลา 11.00 น. วันที่ 27 มีนาคม 66 ที่สำนักงานทนายความคู่ใจ ถ.แจ้งวัฒนะ ต.บางตลาด อ.ปากเกร็ด จ.นนทบุรี นายตั้ม (นามสมมุติ) อายุ 21 ปี นักศึกษาชั้นปีที่ 4 มหา วิทยาลัยชื่อดัง จ.อุตรดิตถ์ พร้อมเพื่อนอีก 3 คน เดินทางเข้าร้องเรียน นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรม เพื่อขอให้ช่วยเหลือ หลังจากไปเที่ยวสถานบันเทิงแห่งหนึ่ง แล้วถูกทหารที่ประจำการอยู่ที่ค่าย จ.อุตรดิตถ์ กว่า 10 นาย รุมทำร้ายร่างกายจนสลบ เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นวันที่ 23 มี.ค.66 ช่วงเวลาประมาณ 00.00 น. หลังเกิดเหตุโพสต์คลิปขณะถูกรุมยำลงโซเชี่ยล กลับถูกผู้บังคับบัญชาของทหารกลุ่มที่ก่อเหตุขู่ฟ่อ สั่งให้ลบคลิปทันที ถ้าไม่ลบจะฟ้องดำเนินคดีข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง เกรงคดีไม่คืบ หวั่นไม่ได้รับความเป็นธรรม วอนทนายรณรงค์ช่วยดูแลเรื่องคดี
นายตั้ม( 1ในผู้เสียหาย) กล่าวว่า วันเกิดเหตุตนพร้อมเพื่อนรวม 5 คน ไปนั่งดื่มเหล้าที่ร้านแห่งหนึ่งอยู่ภายใน อ.เมือง จ.อุตรดิตถ์ ขณะที่พวกตนกำลังนั่งดื่มกินกันอยู่ สังเกตเห็นเพื่อนรุ่นน้องที่รู้จักนั่งอยู่โต๊ะฝั่งตรงข้าม จึงตั้งใจจะเดินเข้าไปทักทาย ขณะที่ตนกำลังเดินอยู่นั้น บังเอิญผ่านโต๊ะของกลุ่มคู่กรณีที่กำลังจับกลุ่มยืนเต้นกันอยู่ประมาณ 20 กว่าคน ซึ่งทุกคนใส่เสื้อยืดคอปกสีเขียวปักสัญลักษณะที่น่าอกว่า นักเรียนนายสิบ ม.พัน 7 ตอนนั้นตนเสียหลักไปชนแขนของ 1 ในกลุ่มคู่กรณีโดยไม่ได้ตั่งใจ จึงยกมือไหว้ขอโทษ แต่ชายคนดังกล่าวตะโกนกลับมาว่า มึงเก๋าหรอจะเอาใช่ไหม ตนจึงรีบตอบไปว่าไม่เอาครับพี่ ผมขอโทษ แต่ทั้งกลุ่มทำท่าไม่ยอมตนเห็นท่าไม่ดีจึงรีบเดินมาบอกเพื่อนๆที่นั่งอยู่ที่โต๊ะให้เช็คบิลกลับบ้าน พอพวกตนออกมาเอารถจยย.ที่จอดอยู่ที่ลานจอดรถ กับเพื่อน 4 คน ส่วนรุ่นพี่อีกคนเดินไปเอารถกระบะ เพื่อเตรียมตัวจะกลับบ้าน จู่ๆกลุ่มคู่กรณีได้เดินออกมาจากร้านและตรงมาที่ตน พร้อมถามว่ามึงจะเอาใช่ไหม ตอนนั้นตนยกมือไหว้และขอโทษอีกครั้ง แต่ทางคู่กรณีไม่ยอมใช้มือตบมาที่หน้าตน 1 ครั้ง เป็นจังหวะที่รุ่นพี่ของตนขับรถกระบะออกมาพอดี พวกตนจึงรีบวิ่งหนีไปหา แต่กลุ่มคู่กรณีก็ยังไม่ยอมจบ ยังวิ่งไล่ตามมา รุ่นพี่จึงลงจากรถและถามว่ามีเรื่องอะไรกัน กลุ่มคู่กรณีไม่ตอบแต่รุมกระทืบจนเพื่อนนอนสลบไปกองกับพื้น 2 คน พวกตนที่เหลือจึงวิ่งหนีตายไปอีกฝั่งของร้าน จนกระทั่งมีการ์ดของร้านและเจ้าหน้าที่ตำรวจเข้ามาระงับเหตุนำตัวเพื่อนทั้ง 2 คน ส่งโรงพยาบาล ส่วนกลุ่มคนก่อเหตุก็แยกย้ายกันหลบหนีไป
ด้านนายแซค รุ่นพี่ที่ถูกทำร้ายจนสลบ กล่าวว่า หลังเกิดเรื่องตามคลิปวงจรปิด จะเห็นว่าตนถูกกระทืบจนสลบคาลานจอดรถ พอรู้สึกตัวอีกทีก็มานอนอยู่ที่ รพ.จึงถามพยาบาลว่าเกิดอะไรขึ้น ทางพยาบาลบอกว่าตนถูกทำร้ายจนสลบไป พอเดินออกมาก็พบว่ามี 1 ในทหารที่ก่อเหตุทำร้ายพวกตนยืนรออยู่ ด้วยความกลัวจึงบอกไปว่าพวกผมไม่เอาเรื่องหรอก ขอให้มันจบกันแค่นี้ แต่ขอให้ช่วยดูแลเรื่องค่ารักษาพยาบาลของตนกับน้องที่มารักษาตัว ซึ่งทหารคนนั้นกลับตอบว่าพวกมึงนั้นแหละที่หาเรื่องและจะไม่ยอมรับผิดชอบใดๆทั้งสิ้น จากนั้นวันที่ 24 มี.ค.66 พวกตนจึงเข้าแจ้งความกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เมืองอุตรดิตถ์ เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ขณะเดียวกันทางด้านผู้บังคับบัญชาของกลุ่มทหารที่ก่อเหตุ ได้โทรศัพท์เข้ามาเจราและไม่ให้พวกตนเอาเรื่อง สุดท้ายไม่สามารถตกลงกันได้ จึงขู่ให้ลบคลิปวีดีโอที่นำไปโพสต์ ไม่เช่นนั้นพวกตนจะถูกดำเนินคดีข้อหาทำให้เสื่อมเสียชื่อเสียง พวกตนจึงนำเอกสารหลักฐานคลิปวงจรปิดเดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์เพื่อขอให้ช่วยเหลือ เกรงว่าคดีจะไม่มีความคืบหน้าและไม่ได้รับความเป็นธรรม เพราะกลุ่มคนก่อเหตุเป็นทหารอยู่ในค่าย จ.อุตรดิตถ์
ทนายรณณรงค์ กล่าวว่า สาเหตุที่กลุ่มทหารดังกล่าวยกพวกรุมทำร้ายกลุ่มผู้เสียหายนั้นทางผู้สียหายยังไม่รู้เลยว่ามาจากสาเหตุใด ถ้าเป็นแค่การเดินชนทางน้องเขาก็ได้ยกมือไหว้ขอโทษไปแลล้ว และถ้าดูจากภาพวงจรปิดก็เห็นเหตุการรุมทำร้ายอย่างชัดเจน หลังจากนี้จะติดตามคดีว่าคดีนี้อยู่ในอำนาจศาลทหารหรือขึ้นศาลยุติธรรมตามปกติ ถึงแม้เจ้าหน้าที่ทหารที่ร่วมกันก่อเหตุจะก่อเหตุนอกเวลาราชการก็จะต้องถูกตั้งกรรมการตรวจสอบทางวินัยของหน่วยงานเขา ส่วนคลิปที่ผู้เสียหายเอาไปเผยแพร่นั้นเขาเอาไปโพสต์เพื่อเรียกร้องความเป็นธรรม ซึ่งหากเขาไปโพสต์และตัวทหารเดือดร้อนก็ต้องขออภัย แต่ถ้าเดือดร้อนมากหลังจากนี้ให้ผู้เสียหายส่งคลิปร้องเรียนไปที่ทบ.เลยว่ามันเกิดอะไรขึ้นบ้าง ตนอยากให้มีการเจรจาโดยมีคนกลางที่เป็นกลางจริงๆ ไม่ใช่ไปเจรจาในค่ายทหาร มาเพื่อพูดคุยกันในที่สาธารณะว่าจะมีการรับผิดชอบอย่างไรบ้าง ถ้าทหารคิดว่าถูกทำร้ายร่างกายก่อนก็ชี้แจงมา ไม่มีปัญหา วันนี้ไม่ได้ตัดสินใครถูกใครผิด แต่มันเกิดเหตุการณ์แบบนี้ขึ้นก็ต้องว่าตามกฎหมาย ทำร้ายร่างกายคือทำร้ายร่างกาย เจ็บมากน้อยก็ต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด จะมาหมกเม็ดเจรจาในค่ายทหารให้มันจบๆไม่ได้ ผบทบ.บอกว่ากลัวเรื่องความปลอดภัย ตนเชื่อว่าชายชาติทหารคงไม่มาทำอะไรรอบกัดคนอื่นแน่นอน ยิ่งเป็นข่าวออกไปแบบนี้ ถ้าเป็นข่าวยังกล้ามาข่มขู่คุกคามไม่รู้จะไปที่ไหนต่อเหมือนกัน แต่มันยังไม่เกิดขึ้นและคิดว่าคงไม่เกิด
สาโรจน์ สว่างศรี / นนทบุรี