ศูนย์อำนวยการป้องกันและปราบปรามยาเสพติดจังหวัดนครพนม (ศอ.ปส.จ.นพ.) ร่วมแถลงข่าว นรข.นครพนม ,หน่วยความมั่นคง ยึดยาบ้า 508,000 เม็ด
วันที่ 31 มีนาคม 2566 ที่สโมสรสัญญาบัตรหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง (นรข.) อ.เมือง จังหวัดนครพนม นายจิรศักดิ์ สีหามาตย์ รองผู้ว่าราชการจังหวัดนครพนม พร้อมด้วย พลเรือตรี สมาน ขันธพงษ์ ผู้บัญชาการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขง ( ผบ.นรข. ) พลตำรวจตรีธวัชชัย ถุงเป้า ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครพนม พันตำรวจเอกหญิง จิระนัน ธนะสิงห์ ผู้กำกับการพิสูจน์หลักฐานจังหวัดนครพนม ร้อยตำรวจเอก สิงหา ภูธรรมะ รองผู้บังคับกองร้อยตำรวจตระเวนชายแดนที่ 237 และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง ร่วมกันแถลงข่าวการตรวจยึดยาบ้า จำนวน 508,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ ตราอักษร Honda รุ่น Scoopy i ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน จำนวน 1 คัน จากการบูรณาการหน่วยงานความมั่นคงร่วมกันปฏิบัติการในคืนวันที่ 30 มีนาคม 2566 ที่ผ่านมา
สืบเนื่องจาก ผบ.นรข. ได้รับแจ้งจากชาวบ้านในพื้นที่ว่าจะมีการลักลอบลำเลียงยาเสพติดเข้ามาในพื้นที่รับผิดชอบ จึงได้สั่งการให้นาวาเอกกษิดิ กลิ่นศรีสุข ผู้บังคับการหน่วยเรือรักษาความสงบเรียบร้อยตามลำแม่น้ำโขงเขตนครพนม และนาวาโท วรภัทร แสงสุวรรณ หัวหน้าสถานีเรือนครพนม ประสานการข่าวร่วมกับ ร้อย ตชด. 237 เพื่อตรวจสอบและจัดชุดลาดตระเวนร่วมกัน ตามพื้นที่ที่ได้รับแจ้ง กระทั่งเวลา 21.00 น. ได้ตรวจพบเรือกีบเพลายาวแล่นจากกลางแม่น้ำโขงมุ่งหน้าสู่ฝั่งไทย จากนั้นดับเครื่องยนต์ แล้วพายเรือเข้ามาจอดที่บริเวณด้านใต้ห้วยทวย บ้านปากทวย ตำบลเวินพระบาท อำเภอท่าอุเทน เจ้าหน้าที่จึงได้ทำการปิดระยะเข้าตรวจสอบพบชายฉกรรจ์ 2 คน กำลังแบกวัตถุต้องสงสัยขึ้นมาวางบนฝั่ง เจ้าหน้าที่จึงได้แสดงตัวและสั่งให้หยุด เมื่อชายฉกรรจ์เห็นเจ้าหน้าที่ได้แสดงอาการตกใจ ทิ้งวัตถุต้องสงสัยวิ่งลงเรือและขับออกไปในความมืดด้วยความรวดเร็ว แม้เจ้าหน้าที่ชุดลาดตระเวนทางเรือจะเร่งติดตามแต่ก็ไม่พบ คาดว่าชายฉกรรจ์ทั้ง 2 ใช้วิธีจมเรือแล้วว่ายน้ำหายไปในความมืดแทน จากนั้นจึงได้เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุพบกระสอบสีดำ จำนวน 3 กระสอบ เป็นยาบ้า 508,000 เม็ด และรถจักรยานยนต์ ตราอักษร Honda รุ่น Scoopy i สีขาว ไม่ติดแผ่นป้ายทะเบียน 1 คัน จึงได้ทำบันทึกการตรวจยึดไว้เป็นหลักฐานพร้อมทั้งนำของกลางทั้งหมด ส่ง พนง.สอบสวน สภ.ท่าอุเทน เพื่อดำเนินการตามกฎหมายต่อไป
โดยในโอกาสนี้เจ้าหน้าที่ได้พยายามขยายผลจากรถจักรยานยนต์ของกลาง ซึ่งเบื้องต้นจากการตรวจสอบข้อมูลพบว่ารถครอบครองโดยบริษัทแห่งหนึ่งในจังหวัดสุรินทร์ มีการจดแจ้งตั้งแต่ปี 2553-2556 จากนั้นไม่มีประวัติ โดยตรงนี้จะต้องมีการตรวจสอบส่วนอื่น ๆ เพิ่มเติมอีก รวมถึงได้เปิดเผยข้อมูลแผนปฏิบัติการในช่วง 6 เดือนที่ผ่านในพื้นที่จังหวัดนครพนมมีการตรวจยึด 13 กรณีใหญ่ และมีกรณีย่อยอีกหลายคดี ซึ่งสามารถตรวจยึดยาบ้าได้แล้วกว่า 3,800,000 เม็ดเศษ ยาไอซ์ 700 กิโลกรัมเศษ มูลค่ารวมประมาณ 1,500 ล้านบาทเศษ และยังได้กล่าวขอขอบคุณชาวบ้านในพื้นที่ที่ช่วยเป็นหูเป็นตาให้ ถือเป็นกำลังเสริมที่นำไปสู่การจับกุมและตรวจยึดยาเสพติดมาอย่างต่อเนื่อง โดยขอยืนยันว่าเจ้าหน้าที่หน่วยงานความมั่นคงทุกหน่วย ตั้งแต่รอบนอกจนถึงตอนใน ไม่ว่าจะเป็น นรข. ตชด. กองกำลังสุรศักดิ์มนตรี หน่วยปกครอง ตำรวจ และเจ้าหน้าที่ฝ่ายอื่น ๆ มีการประสานการปฏิบัติร่วมกันด้วยความเข้มแข็งและเต็มกำลัง เพื่อสกัดกั้น ป้องกัน ปราบปราม ไม่ให้ยาเสพติดเข้ามาทำลายพี่น้องประชาชนในพื้นที่
“เพลิงพระกาฬ” สำนักข่าวความมั่นคง จังหวัดนครพนม รายงาน