กราบเรียนพี่น้องประชาชน… เนื่องในโอกาสได้รับตำแหน่ง รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ตามที่ผมได้รับความไว้วางใจจากพรรคพลังประชารัฐให้ได้รับตำแหน่ง รองเลขาธิการพรรค อันเป็นตำแหน่งที่มีความสำคัญและถือได้ว่าเป็นกลไกสำคัญของพรรคการเมือง ในการประสานการทำงานของทุกส่วนงานภายในพรรค เพื่อให้ดำเนินไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ผมขอขอบคุณ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และกรรมการบริหารพรรคทุกคน ที่ไว้วางใจให้ได้ทำหน้าที่ในตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค ในครั้งนี้ ผมเชื่อมั่นว่า ด้วยความรู้ความสามารถและประสบการณ์การทำหน้าที่สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรที่ผ่านมา จะทำให้สามารถปฏิบัติหน้าที่รองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐได้เป็นอย่างดีและนำพาพรรคไปสู่ความสำเร็จ
ทั้งนี้ในฐานะที่ได้รับตำแหน่งรองเลขาธิการพรรค ผมจะนำปัญหาของพี่น้องประชาชน เข้าสู่การพิจารณาของพรรคพลังประชารัฐ เพื่อกำหนดเป็นทิศทางนโยบายของพรรค โดยเฉพาะอย่างยิ่งในพื้นที่ภาคใต้ ที่ต้องได้รับการแก้ปัญหาอย่างเร่งด่วน เช่น การแก้ไขปัญหาคลื่นกัดเซาะชายฝั่งทะเล, การขยายเส้นทางท่องเที่ยวตามโครงการ “ริเวียร่า ไทยแลนด์”, การเพิ่มเงินช่วยเหลือทหารผ่านศึกทั่วประเทศ, การแก้ไขปัญหาเรื่องปุ๋ยราคาแพง และราคาสินค้าการเกษตรตกต่ำ เป็นต้น
ในขณะเดียวกัน ผมจะนำนโยบายต่าง ๆ ของพรรคพลังประชารัฐ ซึ่งเป็นนโยบายที่สามารถแก้ไขปัญหาให้กับประเทศได้อย่างยั่งยืน นำไปสื่อสารให้กับพี่น้องประชาชนได้ตัดสินใจเลือกพรรคพลังประชารัฐเข้ามาบริหารประเทศ ใน 3 นโยบายเร่งด่วน คือ
- ยกระดับคุณภาพชีวิตอย่างยั่งยืน โดยการแก้ปัญหาหนี้สินแบบเบ็ดเสร็จ เติมทุนใหม่ให้คนไทย ,การสนับสนุนงบประมาณให้เกิดย่านเศรษฐกิจการค้าทั่วประเทศ ,จัดสรรทุนตั้งต้นให้ SMEs และ Startup สูงสุดรายละ 5 ล้านบาท เพื่อสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ สร้างกิจการขนาดเล็ก
- นโยบายดูแลสวัสดิการ เสริมทักษะพัฒนาคนไทย ทุกภาคส่วน โดยการเติมเงินบัตรประชารัฐ 700 บาท/เดือน ,ยกระดับการศึกษาอย่างมีคุณภาพ “เรียนฟรีถึง ป.เอก” ในสายงานที่สอดรับกับการพัฒนาประเทศ ,ส่งเสริมสายการศึกษาอาชีวะ “เรียนฟรีมีรายได้” ,ส่งเสริมการเรียนรู้เพื่อยกระดับอาชีพ ผ่านเครือข่าย “ศูนย์ประชารัฐพัฒนา” ทั่วประเทศ
- นโยบายยกระดับคุณภาพชีวิตทุกช่วงวัย “เกิดดี โตมั่นคง แก่ตัวลง สุขสบาย” ได้แก่ ช่วยเหลือมารดาที่ตั้งครรภ์ (รวม 50,000 บาท) ,ช่วยเหลือคนไทย รายได้ไม่ถึง 500,000 ไม่ต้องเสียภาษี ,เงินต้นค่าผ่อนบ้านหลังแรก ลดหย่อนภาษีได้ 200,000 บาท ,ผู้สูงอายุ 60 ปี ขึ้นไปช่วยเหลือเดือนละ 3,000 บาท อายุ 70 ปี ขึ้นไป ช่วยเหลือเดือนละ 4,000 บาท อายุ 80 ปี ขึ้นไป ช่วยเหลือเดือนละ 5,000 บาท
ด้าน 8 นโยบายเร่งรัด วางรากฐานเศรษฐกิจเติบโต อย่างยั่งยืน ประกอบไปด้วย
- เร่งรัดการพัฒนาแหล่งน้ำ แก้ปัญหาน้ำแล้ง น้ำท่วมแบบเบ็ดเสร็จ “มีเราไม่มีแล้ง”
- ส่งเสริมสิทธิที่ดินทำกิน “มีเรา มีที่ดินทำกิน”
- ส่งเสริมวิสาหกิจชุมชน เชื่อมโยงภาคการท่องเที่ยว และอุตสาหกรรม
- พัฒนาพื้นที่ระเบียงเศรษฐกิจพิเศษภาคตะวันออก EEC สู่ระเบียงเศรษฐกิจในภาคต่าง ๆ
- ยกระดับโครงสร้างพื้นฐานเครือข่ายคมนาคม ทั้งทางถนน ทางราง ทางน้ำ ทางอากาศ พร้อมทั้งยกระดับโครงข่ายดิจิทัล 5G ให้ครอบคลุมทั้งประเทศ
- นโยบายปฏิรูปรัฐราชการ และกฎหมายที่เป็นอุปสรรคในการดำรงชีวิต ช่วยเหลือสนับสนุนการประกอบอาชีพของคนไทย เพื่อความเท่าเทียม และเป็นธรรม
- การปฏิรูปงบประมาณและการกระจายอำนาจการปกครองส่วนท้องถิ่นโดยการถ่ายเทโอนอำนาจจากส่วนกลางไปพร้อมกับงบประมาณ เพื่อให้ท้องถิ่นสามารถบริหารจัดการตอบโจทย์ประชาชนในพื้นที่ได้อย่างแท้จริง โดยในระยะยาว เงินอุดหนุน อปท.ต้องเป็น 45 %
- นโยบายเศรษฐกิจประชารัฐ บริหารและจัดการผ่านเครื่องมือกองทุนประชารัฐ 3 แสนล้านบาท ตามปรัชญา “ประชารัฐ” ที่หมายถึงความร่วมมือ ระหว่างรัฐ-ประชาชน เพื่อพลิกฟื้นเศรษฐกิจให้ก้าวหน้าอย่างยั่งยืนพี่น้องประชาชนที่เคารพ
ผมเชื่อมั่นว่าด้วยขีดความสามารถและความพร้อมในทุก ๆ ด้านของพรรคพลังประชารัฐ จะทำให้ได้รับความไว้วางใจในการเลือกตั้งจากพี่น้องประชาชน ผมในฐานะรองเลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) ผู้สมัคร ส.ส.จังหวัดนครศรีธรรมราช เขต 3 (ปากพนัง-หัวไทร) ซึ่งเป็นลูกหลานคนลุ่มน้ำปากพนัง เป็นเลือดเนื้อเชื้อไขคนใต้ 100% ขอให้คำมั่นสัญญาต่อทุกท่านว่าจะมุ่งมั่นทำงานและพร้อมที่จะสนับสนุนนผู้สมัครของพรรคพลังประชารัฐในพื้นที่ภาคใต้ให้เข้าสู่สภาให้มากที่สุด เพื่อนำนโยบายไปปฏิบัติให้เกิดประโยชน์สูงสุดแก่ประเทศชาติและประชาชน
ชัยชวนคิด #ทำต่อทันทีนครศรีฯต้องมีชัย #สัณหพจน์สุขศรีเมือง