ญาติแค้นหนุ่มใหญ่หนีหมายจับต่อยแม่เฒ่า เตะพี่ป่วยติดเตียง เจอญาติรุมกระทืบ.. ดับ

น่าน – ญาติแค้นหนุ่มใหญ่หนีหมายจับต่อยแม่เฒ่าเตะพี่ป่วยติดเตียง เจอญาติรุมกระทืบดับ

เมื่อวันที่ 21 เมษายน 2566 เวลา 09.00 น. ร.ต.อ.ชวลิต เทรักสี พงส.สภ.เมืองน่าน ได้รับแจ้งจากศูนย์วิทยุ นครน่าน 191 ตำรวจภูธรจังหวัดน่าน แจ้งว่ามีผู้ถูกทำร้าย เสียชีวิตที่โรงพยาบาลน่าน จึงรุดไปตรวจสอบ ชันสูตรพลิกศพที่โรงพยาบาลน่าน ทราบว่าผู้ตายชื่อนายธีรโชติ วิเศษกันทรากร อายุ 40 ปี บ้านเลขที่ 145 หมู่ 5 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน ผู้ถูกทำร้ายร่างกายที่บ้านสองแคว หมู่ 5 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน ได้รับบาดเจ็บสาหัสที่ศีรษะอย่างรุนแรงเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลน่าน และได้เสียชีวิตในเวลาต่อมา

หลังจากที่ตรวจชันสูตรพลิกศพแล้วเวลาประมาณ 11.25 น. จึงรายงานให้ พ.ต.อ.ชาตรี หทยะวัฒน์ ผกก.สภ.เมืองน่าน, พ.ต.ท.จักรพงษ์ วงค์ไชย รอง ผกก.สส.สภ.เมืองน่าน, ร.ต.อ. อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจชุดสืบสวน สภ.เมืองน่าน จำนวนหนึ่ง เข้าตรวจสอบในที่เกิดเหตุเป็นลานหน้าบ้านเลขที่ 74 บ้านสองแคว หมู่ที่ 5 ตำบลสะเนียน อำเภอเมืองน่าน จังหวัดน่าน ทราบว่า เนื่องจากเมื่อวันที่ 20 เม.ย.66 เมื่อเวลา 16.00 น. ได้เกิดเหตุทะเลาะวิวาททำร้ายร่างกาย จนมีผู้บาดเจ็บสาหัสถูกนำตัวส่งรักษาตัวต่อที่โรงพยาบาลน่าน และนายธีรโชติ วิเศษกันทรากร ได้เสียชีวิตลง ซึ่งบ้านผู้ตายอยู่ถัดกับบ้านที่เกิดเหตุไป 3 หลัง

โดยที่ได้ทำการสืบสวนและติดตามตัวผู้ก่อเหตุ ได้มีนายเลาหว่าง เฮ้อพาณิชกุล ผู้ใหญ่บ้านสองแคว หมู่ 5 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน มารอพบพร้อมด้วยผู้ที่ร่วมกันก่อเหตุมี 1.นาย จ๊ะ แซ่โซ้ง อายุ 58 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่ 5 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน, 2.นาย ประสงค์ แซ่โซ้ง อายุ 25 ปี บ้านเลขที่ 74 หมู่ 5 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน ลูกชายนายจ๊ะ, 3.นาย ธนกร แซ่โซ้ง อายุ 21 ปี บ้านเลขที่ 107 หมู่ 6 ต.สะเนียน อ.เมืองน่าน จ.น่าน ซึ่งเป็นหลานชาย มารอมอบตัวต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจในที่เกิดเหตุ

โดย ร.ต.อ.อนุรักษ์ ขันแก้ว รอง สว.สส.สภ.เมืองน่าน ได้เข้าพบและได้สอบถาม 1.นายจ๊ะ 2.นายประสงค์ 3.นายธนกร ในที่เกิดเหตุเบื้องต้น ได้ให้การรับว่าทั้งหมดเป็นผู้ร่วมก่อเหตุทำร้ายร่างกาย นายธีรโชติ ผู้ตายจริงโดยมีนายจ๊ะ รับว่าเป็นผู้ใช้ไม้ท่อนเข้าทำร้ายนายธีรโชติฯ จริง ส่วนสาเหตุและรายละเอียดอื่นๆ ขอให้การในชั้นศาล

โดยที่นายจ๊ะ ผู้ต้องหาได้เล่าว่า วันเกิดเหตุ นายธีรโชติ หรือโชติ คาดว่าน่าจะหลอนยาได้เข้ามาข่มขู่ถึงในบ้านที่มีเพียงแม่เฒ่า ของตนวัย 80 ปี และพี่ชายที่นอนป่วยติดเตียง สาเหตุเนื่องจากไม่พอใจที่ทางบ้านตนจะสร้างเป็นแคร่ม้านั่งบริเวณใต้ต้นตะคบ เพื่อไว้ใช้นั่งคลายร้อน ซึ่งเป็นบริเวณที่นายโชติ มานั่งซุ่มดักยิงนกอยู่เป็นประจำ ซึ่งเป็นหน้าบ้านบริเวณเขตบ้านของตน จึงทำให้นายโชติไม่พอใจ เดินสะพายปืนและถือมีดเข้ามาหาเรื่องและขู่จะฆ่าแม่กับพี่ชายของตน แล้วเดินมาขู่อย่างนี้ตั้งแต่เช้าไปแล้ว 4 ครั้ง จนเวลาประมาณ 15.30 น.ได้เข้ามาหาเรื่องแม่ของตนวัย 80 ปี และพี่ชายของตนที่นอนป่วยติดเตียงอยู่ภายในบ้าน ข่มขู่ว่าจะฆ่าเป็นครั้งที่ 5 ครั้งนี้มีเหตุการณ์รุนแรง โดยนายโชติ ได้ต่อยเข้าที่บริเวณเบ้าตาของแม่ของตนเองวัย 80 ปี จนมีรอยช้ำ ทางญาติจึงพาแม่ตนหลบไปหาตนที่บ้าน ซึ่งอยู่ห่างกันประมาณ 300 เมตร นายโชติได้ตามไปทำร้ายจนแม่ตนล้มลงแล้วได้เหยียบหัวแม่ตนติดกับพื้นต่อหน้า ตนจึงเก็บความไม่พอใจไว้ แล้วพาแม่กลับบ้าน จากนั้นลูกชายของตนกับหลาน คือนายประสงค์ และนายธนกร ได้กลับมาจากไปทำธุระที่ในตัวอำเภอพอดี นายโชติ จะตะโกนท้าทาย และถามว่า มึงเป็นลูกนายจ๊ะ ใช่ไหม จะมาช่วยพ่อมึงใช้ไหม จากนั้นจึงเกิดชกต่อยกันบริเวณถนน โดยฝ่ายของตนมี 3 คน และฝ่ายของนายโชติ มี 2 คน โดยได้ต่อยเพื่อนของนายโชติ หัวแตก เพื่อนของนายโชติ จึงวิ่งหนีไป ตนจึงขยับเข้าไปในเขตบ้านตนบริเวณลานหินและบอกนายโชติ ว่าอย่าเข้ามา แต่นายโชติ ไม่ฟังปรี่เข้ามา เลยเกิดตะลุมบอนกันขึ้นมาอีกบริเวณลานหินหน้าบ้าน ลูกหลาน 2 คนสู้นายโชติ ไม่ไหวเนื่องจากตัวใหญ่กว่า ระหว่างนั้นนายโชติ ได้หยิบไม้ท่อน(ไม้ฟืน)ขนาด 50×15 เซนติเมตร ขึ้นมาจะทุบลูกกับหลานตน ตนจึงเข้าไปแย่งและใช้ไม้ดังกล่าว ทุบหัวนายโชติ ไปจนแน่นิ่งไปแต่ยังมีลมหายใจอยู่ ตนจึงโทรแจ้ง 191 ให้นำนายโชติไปโรงพยาบาล
เสียงนายจ๊ะ มันก็พกปืนทุกวันแหละ แต่เมื่อวานมันถอดเสื้อถอดกางเกง เพราะรู้ว่าจะเข้ามาหาเรื่อง แต่มันเสพยาบ้าเยอะนะ แต่มันมันหยิบไปละ แต่เราไม่ยุ่งหรอก ทั้งยาทั้งกระเป๋าเงิน ที่ตกในที่เกิดเหตุ

“แล้วเขามาหาเรื่องเราใช่ไหม” มาหาเรื่อง ทั้งมาต่อยแม่เรา เราอยู่บ้านอีกหลัง มาทะเลาะวิวาทเราแล้วยังมาเหยียบแม่เราถึงบ้าน มันทำร้ายแม่ผมต่อหน้าผมเลย ลูกผมจะต่อยตั้งแต่ตอนนั้นละ แต่ผมบอกลูกว่าอย่าไปยุ่งเลยลูก

ด้าน นายประสงค์ ได้เล่าว่า ตอนที่มันเข้ามาก็ได้เข้ามาขู่ว่า มันจะฆ่าให้หมดทั้งครอบครัวโดยเข้ามาขู่ทั้งหมด 4 รอบ มีการสะพานปืนและถือมีดดาบยาวเดินไปเดินมาถึง 4 ครั้ง จนรอบที่ 5 รอบสุดท้ายมาขู่อีกแล้วมาตัวเปล่า ผมก็ไม่กลัวเพราะไม่มีอาวุธ เลยเกิดการตะลุมบอนกันดังกล่าว

ด้าน นายไพโรจน์ ชาวบ้านเล่าให้ฟังว่า นายโชติปกติก็จะก่อเหตุข่มขู่และอาละวาดอยู่บ่อยครั้ง แต่จะเลือกก่อเหตุกับคนแก่ เด็ก หรือคนไม่ทางทางสู้เท่านั้น ส่วนที่บอกว่านายโชติเดินสะพายปืนถือมีดเดินไปมานั้น ผมไม่เห็นเพราะบ้านอยู่ข้างนอก แต่ก็มีชาวบ้านพูดๆ กันอยู่หลังจากทราบข้อมูลว่านายโชติ มีพฤติกรรมยุ่งเกี่ยวกับยาเสพติดและมีอาวุธปืน เจ้าหน้าที่จึงไปขอตรวจสอบในห้องนอนของนายโชติ พบแม่ของนายโชติบอกว่า นายโชติไม่เคยมีปืน จากการตรวจดูห้องมีการเก็บกวาดไว้อย่างเป็นระเบียบเรียบร้อย ไม่พบอาวุธปืน พบแต่ลูกกระสุนปืนลมจำนวน 2 กล่อง และฟรอย์จากซองบุหรี่ที่มีการเตรียมไว้ คาดว่าเป็นอุปกรณ์ใช้เสพยา โดยแม่ของนายโชติได้ให้ข้อมูลว่า มีการใช้ไม้ไผ่ในการฟาดระหว่างทะเลาะวิวาทกัน และมีการนำไม้ไผ่ไปซ่อนไว้ในบ้านที่เกิดเหตุ แต่เจ้าหน้าที่ไปทำการตรวจดูกก็ไม่พบ
ด้าน พล.ต.ต.ปิยะพันธ์ ภัทรพงศ์สินธุ์ ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดน่าน ปล่อยเสียงตอนสอบปากคำ….

ทั้งนี้ จากการตรวจสอบข้อมูลพบว่า นายโชติ ยังอยู่ในระหว่างหลบหนีหมายจับของศาลจังหวัดน่าน หลังจากได้รับประกันตัวจากศาลจังหวัดน่าน ในข้อหาครอบครองและจำหน่ายยาเสพติดให้โทษประเภท 1 ยาบ้า แล้วไม่ยอมไปรายงานตัวต่อศาล จึงถูกออกหมายจับ เบื้องต้นทางเจ้าหน้าที่ตำรวจ แจ้งข้อกล่าวหา นายจ๊ะ นายประสงค์ และนายธนกร พ่อลูกและหลาน ในข้อหา ร่วมกันทำร้ายผู้อื่น เป็นเหตุให้ผู้อื่นถึงแก่ความตาย ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพอ้างว่าบันดาลโทษะ และป้องกันตัว นำส่งพนักงานสอบสวนเพื่อดำเนินการตามขั้นตอนตามกฎหมาย ต่อไป

ประสิทธิ์ สองเมืองแก่น
โทร. 0848084888