ข่าวใหม่อัพเดท » จนมุมคาม่านรูด “เสี่ยกำมะลอ” สุดแสบลวงลักสินสอด ด้าน “บิ๊กจ๋อ” ชี้เป็นภัยร้ายของผู้หญิง

จนมุมคาม่านรูด “เสี่ยกำมะลอ” สุดแสบลวงลักสินสอด ด้าน “บิ๊กจ๋อ” ชี้เป็นภัยร้ายของผู้หญิง

23 เมษายน 2023
0

จนมุมคาม่านรูด “เสี่ยกำมะลอ” สุดแสบลวงลักสินสอด ด้าน “บิ๊กจ๋อ” ชี้เป็นภัยร้ายของผู้หญิง

ตามนโยบายของ พล.ต.อ.ดำรงศักดิ์ กิตติประภัสร์ ผบ.ตร. ให้ปราบปรามกลุ่มเครือข่ายองค์กรอาชญากรรมที่กระทำความผิดทุกรูปแบบซึ่งสร้างความเดือนร้อนให้กับประชาชนผู้สุจริต โดยสืบนครบาลได้รับแจ้งขอความช่วยเหลือจากคู่สามีภรรยาผู้เสียหายว่าถูกเสี่ยแป๋ม ต้อม หรือหนึ่ง และอีกหลายชื่อ ลักทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ โดยคนร้ายมาตีสนิทกับพี่สาวของผู้เสียหาย มีการหลอกลวงให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง มีฐานะดี และ หวังอยู่กินแบบสามี-ภรรยา กับพี่สาวผู้เสียหาย โดยก่อนวันแต่งงานเหตุ 1 วัน ได้ลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้องดังกล่าว เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และ มีเงินสดอีกจำนวนหนึ่ง สร้างความเดือดร้อนให้คู่บ่าวสาว และเป็นที่ต้องการตัวมากเพราะสร้างความเดือนร้อนไปทั่วพล.ต.ท.ธิติ แสงสว่าง ผบช.น. จึงสั่งการให้ พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก.สส. บช.น. จัดทีมสืบสวน บก สส บช น แกะรอย ไล่ล่าคนร้ายให้ได้โดยเร็ว

วันที่ 22 เมษายน พล.ต.ต.นพศิลป์ พูลสวัสดิ์ รอง ผบช.น. พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ ผบก. สส. บช.น., พ.ต.อ.ไกรวิทย์ อุณหก้องไตรภพ รอง ผบก.สส.บช.น., พ.ต.อ.ธัญญพัทธ์ บุญสุข ผกก.สส.2 บก.สส.บช.น. แถลงผลการปฏิบัติของ พ.ต.ต.กิติพัฒน์ ใจอารีรอบ, พ.ต.ต.สมพร คำเกตุ สว.กก.สส.2 บก.สส.บช.น. พร้อมเจ้าหน้าที่ตำรวจ กก.สส.2บก.สส.บช.น. ทำการจับ กุม นายปิยะศักดิ์ เรืองฤทธิ์ อายุ 45 ปี อยู่ที่ บ้านเลขที่ 74 ซ.เอกชัย 81 ต.คลองบางบอน อ.บางบอน จ.กรุงเทพฯ ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถานโดยทำอันตรายสิ่งกีดกั้น สำหรับคุ้มครองบุคคล หรือทรัพย์ หรือโดยผ่านสิ่งเช่นว่านั้นเข้าไปด้วยประการใดๆ ตามหมายจับศาลอาญาที่ จ.1400/2563 ลงวันที่ 24 พ.ย. 2563 จับได้บริเวณ ห้องพักเลขที่ 317 โรงแรม 39 อินน์ 26/5 ม.4 ซอยสุขสวัสดิ์ 39 ถนนสุขสวัสดิ์ อ.พระประแดง จ.สมุทรปราการ

โดยเจ้าหน้าที่ตรวจสอบพบว่า ผู้ต้องหามีหมายจับอีก 2 หมายจับประกอบด้วย หมายจับศาลจังหวัดนนทบุรี ที่90/2566 ลงวันที่ 20 มีนาคม2566 ข้อหาลักทรัพย์ในเคหสถาน และหมายจับศาลแขวงชลบุรี ที่41/2563 ลงวันที่16 มีนาคม 2563 ข้อหายักยอก

คดีนี้สืบเนื่องจาก ก่อนเกิดเหตุผู้ต้องหารายนี้รู้ว่า ผู้เสียหายกำลังจะแต่งงาน มีการเตรียมทรัพย์สินเงินทองเป็นค่าสินสอดไว้ จึงเข้ามาตีสนิทกับพี่สาวของผู้เสียหาย มีการหลอกให้เชื่อว่าเป็นเจ้าของอพาร์ทเมนท์แห่งหนึ่ง มีฐานะดี และหวังอยู่กินแบบสามี-ภรรยากับพี่สาวผู้เสียหาย

โดยก่อนวันก่อเหตุ 1 วัน ได้ขอเข้ามาดูห้องของผู้เสียหาย เพราะอ้างว่าจะย้ายมาอยู่กินกับพี่สาวผู้เสียหายที่อพาร์ทเมนท์เดียวกัน ต่อมาในวันที่เกิดเหตุได้เข้ามาขอยืมรถจักรยานยนต์ของผู้เสียหาย ที่มีกุญแจคีย์การ์ดเข้าห้องของผู้เสียหาย จากนั้นได้เข้าไปลักทรัพย์สินที่เตรียมไว้เป็นสินสอด ซึ่งเก็บอยู่ในห้องดังกล่าว เป็นทองคำหนัก 14 บาท พร้อมพระเลี่ยมทอง 2 องค์ และเงินสดอีกจำนวนหนึ่งก่อนจะหลบหนีไป

ซึ่งผู้ต้องหารายนี้ได้ถูกประกาศแจ้งเตือนในสื่อสังคมออนไลน์จากหลายช่องทางให้ระมัดระวัง เนื่องจากได้ก่อเหตุในลักษณะนี้อยู่หลายครั้ง โดยเมื่อปี 2563 ผู้ต้องหาได้ไปตีสนิทหลอกผู้เสียหายรายหนึ่งซึ่งเป็นหญิงให้ลงทุนซื้อขายทอง มีการโอนเงิน ไปยังบัญชีผู้ก่อเหตุ รวมเป็นเงินเกือบ 8 ล้านบาท จากนั้นได้หลบหนีไป ไม่สามารถติดต่อได้ ซึ่งผู้เสียหายได้แจ้งความดำเนินคดีไว้แล้ว และ จากการตรวจสอบในระบบ พบว่า ผู้ต้องหารายนี้ มีหมายจับอีกจำนวน 2 หมาย

ต่อมาเจ้าหน้าที่ชุดสืบนครบาลสามารถตามจับกุมผู้ต้องหาได้ที่บริเวณ ห้องพักเลขที่ 317 โรงแรม 39 อินน์ ขณะกำลังหลอกหญิงสาวอีกราย ชั้นจับกุมผู้ต้องหาให้การภาคเสธ โดยรับว่าลักทรัพย์สินสอดคู้บ่าวสาวผู้เสียหายมาจริง แต่ได้คืนเป็นบางส่วนแล้ว จึงนำตัวผู้ต้องหานำส่ง พนักงานสอบสวน สน.พหลโยธิน ดำเนินคดีตามกฎหมายต่อไป

พล.ต.ต.ธีรเดช ธรรมสุธีร์ กล่าวว่าขอประชาสัมพันธ์ให้พี่น้องประชาชน ใช้ความระมัดระวังไม่ตกเป็นเหยื่อมิจฉาชีพ ที่ก่อเหตุโดยการใช้อุบายหลอกลวง สร้างความไว้เนื้อเชื่อใจ หลอกเป็นคนมีฐานะดี ชอบโชว์รูป สร้างโปรไฟล์เศรษฐีในโลกโซเชี่ยล แล้วก่อเหตุลักทรัพย์ หรือ ชักชวนให้ลงทุนเอาเงินทองไป ซึ่งครอบครัวหรือญาติพี่น้องอาจมีโอกาสตกเป็นเหยื่อได้


ภาพ/ข่าว
นายโยธิน พรมแตง
บรรณาธิการข่าวอาวุโส
สำนักข่าวความมั่นคง รายงาน

error: Content is protected !!