เมื่อวันที่ (19 กันยายน 2562) เวลา 11.40 น. ณ ท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวว่า วันนี้ได้ปรับแผนการทำงานในการตรวจเยี่ยมประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนจากน้ำท่วม ซึ่งจริง ๆนายกฯ มีงานทุกวันอยู่แล้ว คำว่างานไม่ได้หมายถึงไปจ๊อบนั้นจ๊อบนี้ แต่เป็นงานเอกสารต่าง ๆ ของทุกกระทรวงที่จะต้องลงนามและอ่านเอกสารทั้งวัน ในการประชุมปลัดกระทรวง ซึ่งมีผู้เกษียณอายุราชการได้อวยพร มอบของที่ระลึก ให้เขาภูมิใจที่เป็นข้าราชการที่ดีของแผ่นดิน จากนั้นได้มอบหมายให้นายวิษณุ เครืองาม รองนายกรัฐมนตรีประชุมต่อ และที่สำคัญตนต้องเดินทางไปต่างประเทศ 21-27 ก.ย.นี้ แม้ช่วงนั้นจะไม่อยู่ในประเทศไทย แต่ได้มอบหมายงานต่าง ๆ ไว้หมดแล้วในที่ประชุม ครม. ซึ่งก็เป็นห่วงเรื่องน้ำท่วม เดี๋ยวกลาย เป็นว่านายกฯ จะหายไปไหนอีกนั้นไม่ใช่ ทุกอย่างจะเดินหน้าต่อไป และสิ่งสำคัญที่สุดอีกคือ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงพระราชทานพระราโชบายในการแก้ปัญหาน้ำท่วมมาให้กับรัฐบาลด้วย นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดมิได้ ซึ่งเราได้เริ่มดำเนินการตามแผนมาทั้งหมด และได้กราบบังคมทูลให้พระองค์ทรงทราบแล้ว พระองค์ทรงห่วงใย และให้กำลังใจกับเจ้าหน้าที่โดยเฉพาะจิตอาสาที่ช่วยพี่น้องประชาชน
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ในส่วนของงบประมาณไม่ต้องเป็นห่วง รัฐบาลพยายามเร่งให้เร็วเต็มที่ ซึ่งการใช้จ่ายเงินจะไปหนักช่วงการเยียวยา และทำอย่างไรจะเยียวยาให้เร็วที่สุด ทั้งไร่นา และบ้านเรือน ซึ่งมีงบประมาณอยู่ รวมไปถึงการช่วยเหลือจาก ธกส. ด้วย ดังนั้นสิ่งที่จะทำให้รัฐบาลจ่ายเงินเยียวยาได้เร็วจะต้องมีข้อมูลตรวจสอบความถูกต้องความเสียหาย ซึ่งต้องมาจากระดับล่าง ส่วนหนึ่งเราใช้ GISTDA ตรวจสอบแล้วเป็นภาพถ่ายทางอากาศ แต่เราต้องเดินสำรวจด้วย โดยองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น กำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้ว่าฯ นายอำเภอต้องมีส่วนดำเนินการตรงนี้ ถ้าจะให้รัฐบาลจ่ายเงินเร็วข้อมูลเหล่านี้ต้องเร็วและเรียบร้อย เพราะนี่คือการใช้จ่ายเงินงบประมาณแผนดิน และการเยียวยาก็จะต้องทำอย่างยั่งยืน โดยขั้นต้นเป็นการเยียวยาเพื่อให้เขามีเงินใช้จ่ายในช่วงนี้ จากนั้นจะเป็นการเยียวยาการลงทุนเพาะปลูกฤดูกาลใหม่ ต้องมีเมล็ดพันธุ์พืช ต้นทุนการผลิต โดยได้เรียกกระทรวงการคลัง สำนักงบประมาณ บูรณาการงบประมาณที่มาจากหลายกระทรวงให้ออกไปอย่างยั่งยืน ทั้งหมดอยู่ในแผน
“วันนี้ทุกคนต้องมีกำลังใจร่วมกันในพระมหากรุณาธิคุณที่ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าโปรดกระหม่อมลงมา พระองค์ทรงพระราชทานมาอย่างต่อเนื่อง ทุกอย่างทุกเรื่อง พระองค์ทรงให้กำลังใจรัฐบาล เสนอแนวทางในการปฏิบัติซึ่งเราก็รับใส่เกล้าฯ นำมาสู่ในการปฏิบัติ พระองค์ทรงห่วงใย และให้เราทำงานอย่างมีแบบแผน เหมือนที่ทหารทำ” นายกรัฐมนตรีกล่าว
นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ขั้นตอนที่ยากที่สุดคือขั้นตอนระหว่างเกิดภัย ประชาชนไม่มีความสุข เกิดความเครียด รัฐบาลก็ยิ่งเครียด เพราะคิดว่าจะทำอย่างไรจะแก้ปัญหาไปให้ได้พร้อม ๆ กัน ดังนั้น จึงคาดหวังจากสื่อฯ ช่วยกัน อะไรที่เป็นเรื่องไม่ได้สาระไม่จำเป็น ก็อย่าไปขุดคุ้ยให้มากมายเพราะเป็นการทำให้สังคมไม่สงบ แทนที่รัฐบาลจะใช้เวลาแก้ปัญหา ใช้สมองสติปัญญาในการแก้ปัญหา กลับต้องไปแก้ตรงอื่นอีก ขอให้ลดราวาศอกกันไปบ้าง ขอให้ย้อนกลับดูว่าสิ่งที่พูดกันมาทำความเสียหายอะไรบ้างในอดีต อย่าลืมอดีต